หน้าแรก > ภูมิภาค

ตชด.ภาค 4 สนธิกำลังป่าไม้ ตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 2 แห่ง พบถูกแผ้วถางตัดโค่นไม้ใหญ่มีค่าหลายชนิดเสียหายกว่า 16 ไร่

วันที่ 2 สิงหาคม 2566 เวลา 05:06 น.


ตชด.ภาค 4 สนธิกำลังป่าไม้ ตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 2 แห่ง พบถูกแผ้วถางตัดโค่นไม้ใหญ่มีค่าหลายชนิดเสียหายกว่า 16 ไร่

(1 ส.ค.66) ตชด.ภาค 4 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ รุดตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 2 แห่งในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย และ อ.นาทวี จ.สงขลา พบถูกแผ้วถางตัดโค่นไม้ใหญ่มีค่าหลายชนิดเสียหายเป็นวงกว้างรวมกว่า 16 ไร่ และยึดไม้ท่อนเอาไว้ได้บางส่วนที่รอการเคลื่อนย้าย เร่งสืบหาตัวผู้กระทำผิดและกลุ่มนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดี

พล.ต.ต.สมกูล กาญจนอุดมการ ผบก.ตชด.ภาค 4 สั่งการให้กำลัง ชป.ป่าไม้ ฉก.ตชด.43 และ ร้อย ตชด.433 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน. , สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (สงขลา) ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้น้ำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ร่วมกันเข้าตรวจสอบป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ ม.2 บ้านสนี ต.ทุ่งพอ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา หลังได้รับแจ้งว่า มีการบุกรุกลักลอบตัดไม้ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ

จากการตรวจสอบพบว่า มีกลุ่มคนนอกพื้นที่ลักลอบเข้ามาตัดต้นไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าควนราสอป่าควนน้ำร้อน ป่าควนสอหรอ ป่าควนบางพลา และป่าเขาโต๊ะเทพ ซึ่งมีแนวแขตอยู่ใน 2 ตำบล ของ อ.สะบ้าย้อย คือ ต.เขาแดง และ ต.ทุ่งพอ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำของ อ.สะบ้าย้อย และ อ.เทพา

โดยหลังเจ้าหน้าที่เดินเท้าไปถึงกลางป่าลึก พบมีการลักลอบตัดไม้ใหญ่ไปจำนวน 12 ต้น ทั้งไม้เปรียง และไม้ยางแดง แต่ยังไม่ได้แปรรูป สร้างความเสียหายเป็นพื้นที่ราว 3 ไร่ และมีการแผ้วถางไม้เล็กไปบางส่วน แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด หรือเครื่องมือในการตัดไม้ จึงได้ทำการตรวจยึดไม้ท่อนที่พบเอาไว้ และตีตราประทับทุกท่อน

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวยังได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าควนพน บริเวณท้องที่กลุ่มบ้านห้วยเต่า–ปลายรำ ม.11 ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา แนวตะเข็บร่อยต่อระหว่าง ต.นาทวี อ.นาทวี กับ ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และตรวจพบการบุกรุกลักลอบตัดไม้ทำลายป่าทำไม้ท่อน รวมทั้งแผ้วถาง และเผาป่า ทำให้พื้นที่ป่าเสียหายไปเป็นจำนวนกว่า 13 ไร่ 2 งาน รวมทั้งยังพบร่องรอยของการตัดโค่นไม้ใหญ่มีค่าหลายชนิดจนเหลือแต่ตอ แต่ไม่พบไม้ท่อนอยู่ในบริเวณดังกล่าว หรือเครื่องมือตัดไม้ และไม่พบผู้กระทำผิด ซึ่งคาดว่า น่าจะมีการลักลอบขนลงไปขายต่อ หรือนำไปส่งโรงงานแปรรูปไม้ไปก่อนหน้าแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุดเอาไว้ รวมทั้งมอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสันกาลาคีรี และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สข.2 (นาทวี) นำหลักฐานเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งของ สภ.สะบ้าย้อย และ สภ.นาทวี เพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด และนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังมาสอบสวนดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ต่อไป

สวท.สงขลา  
 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม