วันที่ 6 ตุลาคม 2566 เวลา 12:50 น.
จากกรณีที่ ตำรวจ ฝ่ายปกครองเมืองพิจิตร เจ้าหน้าที่กู้ภัย นับ 100 คน ร่วมกันปิดล้อม บึงสีไฟ จ.พิจิตร ข้ามวันข้ามคืนหลัง หลังคนร้ายหลบหนีการจับกุม ขณะเจ้าหน้าที่สกัดจับขบวนการขนยาบ้า เมื่อกลางดึก วันที่ 4 ต.ค.2566 เจ้าหน้าที่ตรวจยึดยาบ้าได้ 6,720,000 เม็ด อยู่ในรถกระบะแคปยี่ห้อ อีซูซุ หมายเลขทะเบียน ฆท 9536 กทม. ที่สี่แยกไฟแดงยอแซฟ ม.8 ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร
ล่าสุดเมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 6 ต.ค.2566 พ.ต.ท.ศราวุฒิ เป้าเพชร รองผกก.ป.สภ.เมืองพิจิตร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่เข้าไปหาปลาภายในบึงสีไฟ ว่ามีชายนอนแช่น้ำอยู่ภายในบึงสีไฟติดพงหญ้าและขอความช่วยเหลือ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิจิตร ได้ระดมกำลัง และใช้โดรนบินค้นหากระทั่งพบตัว จากการตรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าวคือนักค้ายาบ้าที่หลบหนี กำลังโบกมือขอความช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำเรือท้องแบบของ ปภ.พิจิตร เข้าไปช่วยเหลือและจับกุมตัวมาสอบสวน
โดยผู้ต้องหามีสภาพอิโรย หนาวสั่น เนื่องจากแช่น้ำในบึงสีไฟทั้งวันทั้งคืน ประกอบกับไม่ได้กินข้าวกินข้าว 2 วันและกินน้ำภายในบึงสีไฟประทังชีวิต นอนแช่น้ำเปียกฝนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา จึงยอมให้จับกุม ทราบชื่อภายหลังคือนายณัฐชนน อายุ 25 ปี ชาว ต.หัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน
เบื้องต้น นายณัฐชนน ให้การรับสารภาพว่า ได้นำยายาบ้า จากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่จะนำไปส่งให้พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขณะขับรถรู้สึกมีสิ่งผิดปกติมีการติดตามมาจึงเลี้ยวรถจากถนนสายหลัก หมายเลข 11 เข้ามาพื้นที่จ.พิจิตร กระทั่งมาถูกสกัดจับดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ ปปส.และตำรวจจะได้เร่งขยายผลเครือข่ายและนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับ เส้นทางการลำเลียงยาเสพติดล็อตนี้ ต้นทางนำเข้ามาที่ชายแดนจ.เชียงราย ผ่านจ.พะเยา จ.แพร่ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก และลัดเข้ามาที่จ.พิจิตร มีปลายทางที่จ.พระนครศรีอยุธยา และมีพฤติการณ์หลบเลี่ยงการปฏิบัติตามสัญญาณจราจร ไม่จอดติดไฟแดง และใช้ความเร็วตลอดสาย ก่อนถูกสกัดกั้นที่บริเวณสี่แยกยอแซฟ และเตลิดเข้ามาซ่อนตัวในป่าพง ที่อุทยานบัว บึงสีไฟ ดังกล่าว