วันที่ 8 มีนาคม. 2567 เวลา 15:50 น.
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) โดยพลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันแถลงจับกุมเครือข่ายแก็งคอลเซ็นเตอร์ Sim box รวบผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายเควิน สัญชาติอินโดนีเซีย อายุ 27 ปี และ น.ส.จิ (นามสมมุติ)อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน และ ร่วมกันประกอบกิจการโทรคมนาคม ซึ่งต้องได้รับใบอนุญาตแบบที่หนึ่งโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวเดินเข้ามาไม่ยื่นรายการ หลังลงพื้นที่ตรวจค้นบริเวณคอนโด ย่านซอยลาดพร้าว 71 กรุงเทพมหานคร และวิลล่าหรูใจกลางอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
สืบเนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ 2/2566 ลง 12 ต.ค.66แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการบูรณาการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ เครื่องส่งสัญญาณมาจากอุปกรณ์ส่งคำสั่งผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ต เพื่อควบคุมสั่งการซิมการ์ด GSM Gateways (Simbox) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ในการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางกำลังและเฝ้าตรวจสอบ กระทั่งพบว่ามีการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวบริเวณคอนโดมีเนียม ย่านซอยลาดพร้าว 71
จากการตรวจค้นภายในคอนโดมีเนียมดังกล่าวพบอุปกรณ์ GSM Gateways (Simbox) จำนวน 4 เครื่อง (1 เครื่องสามารถใส่ชิมการ์ดได้จำนวน 32 ซิม) ซึ่งสามารถใช้โทรหลอกประชาชนในประเทศไทยกว่า 3 แสนครั้งต่อเดือน โดยอุปกรณ์นี้จะทำหน้าที่แปลงสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต เมื่อแก็งคอลเซ็นเตอร์ โทรไปหลอกเหยื่อ เบอร์โทรศัพท์ก็จะขึ้นเบอร์ที่ปลายสายเป็นเบอร์ปกติ หรือเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้กันภายในประเทศ เพื่อให้ปลายสายเข้าใจว่าผู้โทรอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ต่างประเทศ จึงทำการตรวจยึดอุปกรณ์ดังกล่าว และทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม พบว่ามีนายเควินและ น.ส.จิ 2 สามีภรรยา เป็นผู้ดูแล และคอยสั่งการในการขนย้ายและติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวภายในคอนโดมีเนียม
จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้รับจ้างนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้ามาติดตั้ง โดยได้รับค่าจ้างเดือนละ 50,000 - 60,000 บาท มาจากนายทุนต่างชาติ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวน กก 1 บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมสืบสวนขยายผลหานายทุนผู้ว่าจ้างและผู้ร่วมกระทำความผิด เพื่อติดตามจับกุมทั้งขบวนการต่อไป