ผู้ว่าฯนครสวรรค์ พบคุณพ่อขี่ซาเล้งข้ามจังหวัด พาลูกวัย 3 ขวบมาผ่าตัดสมอง ยัน พร้อมดูแลให้ความช่วยเหลืออย่างดีที่สุด

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ลงพื้นที่ติดตามกรณีโซเชียลแห่แชร์ภาพ คุณพ่อพาลูกน้อย วัย 3 ขวบเศษ ขี่รถซาเล้งจากจังหวัดเลย เพื่อพาลูกมาผ่าตัดสมองที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เบื้องต้นพร้อมดูแลให้ความช่วยเหลืออย่างดีที่สุด

ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์นครสวรรค์ นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยนางวราภรณ์ เสริมภักดีกุล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครสวรรค์ นายแพทย์จักราวุธ จุฑาสงฆ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ แพทย์หญิงรจนา ขอนทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ นายแพทย์ณรงค์พงศ์ โล้วพฤกมณี นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านประสาทศัลยกรรม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงข่าวถึงกรณี คุณพ่อพาลูกน้อย วัย 3 ขวบเศษ(เด็กชายสตางค์) ขี่รถซาเล้งจากจังหวัดเลย เพื่อพาลูกมาผ่าตัดสมองที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ได้กล่าวว่า จังหวัดนครสวรรค์พร้อมให้การดูแลและช่วยเหลืออย่างดีที่สุด เป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องดูแลบำบัดทุกข์ บำรุงให้กับประชาชน ซึ่งค่าใช้จ่ายบางส่วนที่ไม่สามารถเบิกทางราชการก็จะช่วยดูแลในเบื้องต้น และทรัพย์สิน อาทิ รถสามล้อก็ได้ให้ทางสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากฟ้าช่วยดูแล และทีมแพทย์ของโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ก็จะทำหน้าที่ดูแลคนไข้ ด้านการรักษาอย่างดีที่สุดเช่นกัน

โดยขณะนี้โรงพยาบาลสวรรค์ได้รับตัวเด็กชายสตางค์ เข้าทำการรักษาตัว โดยเบื้องต้นได้นำตัวน้องเอ็กซ์เลย์ และจะตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อที่จะรักษาให้ตรงจุดต่อไป
ด้านแพทย์หญิงรจนา ขอนทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ได้เปิดเผยว่า จากที่ทราบข่าวทางโซเชียล ก็ได้มีการตรวจสอบประวัติข้อมูลจนทราบข้อมูลของพ่อลูกรายนี้ ว่า นายสันติสุข เรียนยศ อายุ 49 ปี ได้ให้กำเนิดลูกชายที่โรงพยาบาลจังหวัดชัยนาท เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2563 แล้วจึงพาลูกมาตรวจตรวจรักษายังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ก่อนจะพบว่า ลูกของนายสันติสุข ป่วยทางมองตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยเป็นโรคหัวบาตร หรือภาษาทางการเรียกว่า ถุงเยื่อหุ้มสมองโป่งพอง ที่บริเวณไขสันหลังส่วนล่าง และมีถุงน้ำที่ก้นพ่วงมาด้วย

ส่วนการรักษาในครั้งแรกนั้น ทางแพทย์ของโรงพยาบาลก็ได้ทำการผ่าตัดสมอง และให้ยาในการรักษาตามอาการ เนื่องจากขณะนั้น เด็กยังเล็กอยู่ อีกทั้ง โรคที่เป็น มีเปอร์เซ็นหายขาดน้อยมาก จึงต้องมาทำการตรวจรักษาอย่างสม่ำเสมอ แต่ปรากฏว่า หลังจากที่รักษาไปครั้งแรกแล้ว นายสันติสุขก็ไม่พาลูกน้อยกลับมาตรวจรักษาอีกเลย และทางโรงพยาบาลก็ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากเจ้าตัวได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ จึงไม่ทราบอาการป่วยหลังจากนั้น

เมื่อถามถึงการรักษาในตอนนี้ แพทย์หญิงรจนา ระบุว่า ก็ยังต้องรักษาตามขั้นตอนของแพทย์ ซึ่งมีแผนการเตรียมเอาไว้ตั้งแต่ที่ทำการผ่าตัดไว้แล้ว แต่ก็ต้องมีการนำตัวเด็กมาตรวจอาการและสภาพร่างกายในตอนนี้ก่อน เนื่องจากเด็กขาดการรักษาจากที่นี่ไปนาน หลังจากนั้น จะมีการประเมินอาการ แล้ววางแผนขั้นตอนการรักษาต่อไป
เครดิต สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครวรรค์