วันที่ 5 เมษายน 2567 เวลา 20:17 น.
BKI ประกาศแผนปี 2567 ตั้งเป้าเบี้ย 32,500 ล้านบาท มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าใจไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ สู่การฟื้นฟูยกระดับสร้างมูลค่าเพิ่มให้องค์กรเติบโตแข็งแกร่งมากกว่าเดิม
วันนี้ ( 5เม.ย.67) ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2566 ว่า บริษัทฯ สามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมได้ถึง 29,915.7 ล้านบาท เติบโตจากปี 2565 ร้อยละ 12.1 มีกำไรจากการรับประกันภัย 2,070.1 ล้านบาท มีรายได้สุทธิจากการลงทุน 1,299.5 ล้านบาท และบริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,043.8 ล้านบาท
โดยที่ประชุมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติายงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นงวดสุดท้ายในอัตราหุ้นละ 5.50 บาท รวมทั้งปี 16.75 บาท พร้อมยืนหยัดความแข็งแกร่งทางด้านการเงินด้วยการมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) สูงกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดยอยู่ที่ร้อยละ 185.9 (ณ 30 ก.ย. 66) และรักษาอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินในระดับสูงหรือ Credit Rating A- (Stable) (ณ พ.ย. 66) โดย Standard & Poor's(S&P) สถาบันการจัดอันดับทางการเงินชั้นนำของโลก
ดร.อภิสิทธิ์ กล่าวว่า สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ประเมินแนวโน้มของธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2567 ว่า จะมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 5.0-6.0 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยประกันภัยสุขภาพยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางที่จำนวนนักท่องเที่ยงเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีรายได้สูงเข้าสู่ระบบประกันภัยเพิ่มขึ้น สำหรับประกันภัยรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle:EV) คาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้ปริมาณเบี้ยประกันภัยรถยนต์โดยรวมจะยังคงเติบโตได้
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2567 นี้ กรุงเทพประกันภัยได้ตั้งเป้าหมายด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 32,500 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 8.0 แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 13,690 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่ประกันภัยรถยนต์หรือ Non-Motor 18,810 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด พร้อมยกระดับนวัตกรรมการบริการให้ดียิ่งขึ้น นำมาซึ่งการสร้างความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าและคู่ค้า โดยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงและเข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ อาทิ
กรุงเทพประกันภัย ได้มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้การบริการที่ก้าวทันกับความต้องการตามเทรนด์ของลูกค้ายุคใหม่ ด้วยระบบ AI Outbound voice Chatbot มาใช้แจ้งเตือนการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยให้กับลูกค้าทางโทรศัพท์ โดยระบบดังกล่าวจะสื่อสารกับลูกค้าด้วยน้ำเสียงเสมือนจริงที่มากับความพร้อมในการตอบคำถามและให้ข้อมูล รวมทั้งระบบ Cognitive Customer Portal ที่จะช่วยให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าทั้งทางด้านพฤติกรรมและประสบการณ์การใช้งาน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสร้างความพึงพอใจสูงสุด