วันที่ 1 มิถุนายน 2567 เวลา 05:35 น.
กองปราบฯ ทลายจุดตั้ง Simbox และ STARLINK ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์
กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นจับกุม กก.1 บก.ป., กก.2 บก.ป., กก.4 บก.ป. และ กก.สสน. บก.ป. ด้วยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (Anti Online Scam Operation Center : CIB AOC) ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีเพี่อการทำงานเชิงรุกแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ การเพิ่มประสิทธิภาพในการจับกุม การดำเนินคดีและขยายผลคดีอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งได้ระบาดอย่างหนักในประเทศไทย
โดยได้มีการปรสานงานร่วมกันกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กรมศุลกากร และ สำนักงาน กสทช. จนสามารถปราบปรามและจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงอาชญากรรมทางออนไลน์มาได้อย่างต่อเนื่อง จนมีผลการปฏิบัติล่าสุดดังนี้
ผลการปฏิบัติ
กก.1 บก.ป. “ทลายจุดตั้ง Simbox ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์”
ร่วมกันตรวจยึดของกลาง
1. อุปกรณ์ Sim box หรือ GSM Gateway รุ่น GoIP32-X4 สำหรับใส่ซิมได้ 128 ซิมการ์ด จำนวน 6 เครื่อง (ราคาเครื่องละประมาณ 120,000 บาท)
2. เครื่องกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ต (Wifi Router) จำนวน 2 เครื่อง
3. กล้องวงจรปิด จำนวน 2 ตัว
ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย
1. MR. QUANG THIN BUI หรือ นายต้นฯ สัญชาติ เวียดนาม อายุ 35 ปี กล่าวหาว่า “มี ใช้ และนำเข้าเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต”
2. MR. DANH QUYEN DUONG สัญชาติ เวียดนาม อายุ 35 ปี
3. MR. VANANH NGUYEN สัญชาติ เวียดนาม อายุ 47 ปี
โดยรายที่ 2 และรายที่ 3 จับกุม ดำเนินคดีข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ ตาม ม.8 พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561”
สถานที่จับกุม โกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 8 ต.ไผ่ต่ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี
พฤติการณ์
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้รับแจ้งข้อมูลจากศูนย์ AOC ว่ากลุ่มคนร้ายได้ใช้โทรศัพท์โทรหลอกลวงประชาชนในลักษณะข่มขู่ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของศูนย์ AIS สำนักงานใหญ่ แจ้งว่า มีการนำเอาเอกสารและชื่อของผู้เสียหายไปลงทะเบียนในเลขหมายอื่นๆ ซึ่งเลขหมายดังกล่าวถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดประเภทต่างๆ และให้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการให้โอนเงินมาให้ตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. จึงได้ทำการสืบสวน จนพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ใช้อุปกรณ์ Sim box หรือ GSM Gateway ซึ่งสามารถแปลงสัญญาณอินเทอร์เน็ตเป็นสัญญาณมือถือได้ในการหลอกลวงประชาชน โดยอุปกรณ์ดังกล่าวจะถูกลักลอบติดตั้งภายในประเทศ หรือชายแดนฝั่งเพื่อนบ้านที่ติดกับประเทศไทย ที่สามารถรับสัญญาณโทรศัพท์มือถือได้ เมื่อคนร้ายโทรจากต่างประเทศไปหาประชาชนผ่านอุปกรณ์ดังกล่าว จะแสดงผลเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของประเทศไทย ไม่มีการขึ้นหมายเลขหน้าเบอร์โทรว่าเป็นการโทรมาจากต่างประเทศตามมาตรการของ กสทช. (+66 , +697 , +698)
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 67 เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป.พร้อมด้วย กก.สสน.บก.ป. จึงได้วางแผนกระจายกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่ติดตั้งเครื่อง SIMBOX หรือ GSM Gateway จำนวน 4 จุด (กทม. 2 จุด, จ.นครปฐม 1 จุด และ จ.สระบุรี 1 จุด) ผลการตรวจค้น พบอุปกรณ์ SIMBOX หรือ GSM Gateway จำนวน 6 เครื่อง พบบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติ เวียดนาม จำนวน 1 ราย ได้แก่ MR. QUANG THIN BUI หรือ นายต้นฯ สัญชาติเวียดนาม จึงได้ดำเนินคดีในข้อหา “มี ใช้ และนำเข้าเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต” และพบต่างด้าวลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต อีก 2 ราย จึงได้จับกุมดำเนินคดี ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้”
สอบปากคำผู้ต้องหาเบี้องต้น MR. QUANG THIN BUI หรือ นายต้นฯ ให้การว่าเป็นผู้จัดหาห้องเช่า และขอติดตั้งอินเตอร์เน็ตตามจุดต่างๆ รวมถึงเป็นผู้ชำระเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ จริง ซึ่งตนได้ถูกจ้างวานมาจากบุคคลอื่นๆ และได้รับค่าจ้างค่าดำเนินการจุดละ 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขยายผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป
จากการตรวจสอบอุปกรณ์ SIMBOX หรือ GSM Gateway ที่ตรวจยึดได้ พบว่า SIMBOX 1 เครื่องนั้นสามารถควบคุมสั่งการซิมการ์ด ได้พร้อมกัน 32 ช่อง โดยใน 1 วัน SIMBOX หรือ GSM Gateway 1 เครื่อง สามารถโทรออกได้มากกว่า 16,000 เบอร์ หรือมากกว่า 480,000 เบอร์/เดือน ซึ่งจากการตรวจยึดเครื่อง SIMBOX ครั้งนี้กว่า 96 เครื่อง สามารถตัดวงจรของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้มากกว่า 46 ล้านเบอร์/เดือน