10 มิถุนายน 2567 ความคืบหน้ากรณี ดร.สุรชัย จงจิตงาม อาจารย์คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิพากษ์วิจารณ์การซ่อมแซมประติมากรรมปูนปั้นยักษ์ขนาดใหญ่ในศิลปะล้านนา อายุไม่ต่ำกว่า 400 ปี ที่วัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยทำการปั้นพอกปูนทับยักษ์โบราณ คล้ายปั้นใหม่ขึ้นทั้งหมด ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด พระครูสมุห์บุญเลิศ ชยวโส เจ้าอาวาส และ พระพีระ พระลูกวัดที่รับหน้าที่เฝ้าดูการบูรณะรูปปั้นยักษ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องดังกล่าว

พระครูสมุห์บุญเลิศ เล่าว่า เรื่องบูรณะเกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2567 โดยผู้ว่าฯเชียงใหม่ มาเที่ยวชมวัด และเห็นยักษ์ทั้งสององค์ชำรุด จึงประสานให้กรมศิลปากรเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมบูรณะ ซึ่งแล้วเสร็จได้หลายเดือนแล้ว

พระพีระ กล่าวเสริมว่า การดำเนินการเท่าที่เห็นคือ มีการนำปูนพอกเข้าไปกับของเดิม ซึ่งทางวัดไม่รู้เรื่องการบูรณะใด ๆ เพราะเชื่อมือกรมศิลปากรที่เป็นแม่งาน ทางวัดได้แค่ดู เพราะวัดแห่งนี้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ ทุกอย่างเป็นสมบัติของชาติ หน้าที่ซ่อมบำรุงต้องเป็นกรมศิลป์ วัตถุโบราณในวัดถูกกรมศิลป์ขึ้นบัญชีไว้ทั้งหมด วัดไม่มีสิทธิซ่อมบูรณะ มีหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาบูรณะเท่านั้น

ด้าน ดร.สุรชัย ผู้ร้องเรียน หลังทราบว่าการบูรณะยักษ์ทั้งสองเป็นสีขาวโดยการโบกปูนทับ เป็นฝีมือข้าราชการระดับสูงของเชียงใหม่ที่ประสานไปยังกรมศิลป์ให้มาบูรณะ ได้กล่าวว่า ท่านอาจมีความประสงค์ดี แต่การบูรณะแบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้องนัก การบูรณะมีหลายวิธีที่ทำให้วัตถุโบราณสถานยังคงความเป็นโบราณนั้นมีหลายวิธี การทำให้ยังคงเป็นเนื้อปูนโบราณและกลับสภาพสมบูรณ์ กรมศิลป์ นั้นรู้ดี ตนสามารถแนะนำวิธีการบูรณะ แบบให้มีความสมบูรณ์ยังคงความเป็นเนื้อโบราณได้ และยินดีให้คำแนะนำ