หน้าแรก > อาชญากรรม

สืบสวน ภูธรภาค 2 รวบแก๊งตระเวนลักแบ็ตเตอรี่สำรอง เสาสัญญาณโทรศัพท์พื้นที่ภาคตะวันออก เสียหายกว่า 10 ล้านบาท

วันที่ 24 มิถุนายน 2567 เวลา 15:45 น.


ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 และเจ้าหน้าที่แผนกงานปฏิบัติการด้านเทคนิค – ภาคตะวันออกบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่าย แก๊งตระเวนลักแบตเตอรี่สำรองเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ผู้ต้องหา จำนวน 7 ราย ตรวจยึดของกลางเป็นแบตเตอรี่ รวม จำนวน 114 ลูก

สืบเนื่องจากทางตำรวจสืบสวนภูธรภาค 2 รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายตระเวนลักทรัพย์แบตเตอ รี่(ลิเธียม) ที่ติดตั้งกับเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือหลายท้องที่ในพื้นที่ภาคตะวันออก ในห้วงระยะเวลา ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566 ถึงปัจจุบัน โดยตระเวนก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน กว่า 150 ครั้ง ได้ทรัพย์สินเป็นแบตเตอรี่ ไม่ต่ำกว่า 300 ลูก ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่ามากกว่าสิบล้านบาท

ซึ่งคนร้ายจะเลือกพื้นที่ห่างไกลและไม่ค่อยมีกล้องวงจรปิด และจากแผนประทุษกรรมการก่อเหตุพบว่าคนร้ายเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับระบบเสาสัญญาณโทรศัพท์เป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าคนร้ายเป็นกลุ่มคนที่เคยประกอบอาชีพเกี่ยวกับการติดตั้งระบบในเสาสัญญาณโทรศัพท์

สำหรับแบตเตอรี่ลิเธียม ที่ได้ติดตั้งกับเสาสัญญาณโทรศัพท์ มีไว้สำหรับเป็นกระแสไฟฟ้าสำรองกรณี หากมีเหตุไฟฟ้าดับแบตเตอรี่จะทำงานจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับเสาสัญญาณโทรศัพท์
ทำให้ประชาชนที่มีพื้นที่การใช้งาน บริเวณเสาสัญญาณนั้น ๆ ยังสามารถใช้สัญญาณโทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสารได้ บริษัทจริงต้องใช้แบตเตอรี่ลิเธียมที่มีกำลังวัตต์สูง เพื่อสำรองกระแสไฟฟ้าให้เพียงพอที่จะทำให้สัญญาณโทรศัพท์ไม่ขัดข้องในกรณีที่ไฟฟ้าดับ โดยในเสา 1 ต้น จะติดตั้งประมาณ 2-3 ลูก ราคาอยู่ที่ประมาณ ลูกละ 40,000 บาท แต่คนร้ายได้กระทำกันเป็นขบวนการ หลังจากที่คนร้ายได้ทำการลักทรัพย์แบตเตอรี่แล้ว จะรีบนำไปส่งขายให้กับกลุ่มรับซื้อของโจร ในราคาลูกละ 5,000-8,000 บาทเท่านั้น แล้วนำไปลงขายโซเชียลตลาดมืด 12,000 – 14,000 บาท การ กระทำของผู้ลงมือและตัวกลางรับซื้อ เป็นความผิดฐานลักทรัพย์/รับของโจร ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึง 5 ปี

หากมีพฤติการณ์ลักทรัพย์ อันมีลักษณะเป็นปกติ ธุระ หรือรับของโจร เฉพาะที่เกี่ยวกับการช่วยจำหน่าย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งทรัพย์ที่ได้มาโดยการกระทำความผิดอันมีลักษณะเป็นการค้า ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฟอกเงิน อีกส่วนหนึ่ง ต้องระวางโทษตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะถูกดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์ในส่วนตัวกลางรับซื้อ รับจำหน่าย ได้มีการอายัดบัญชีไว้แล้ว กว่า 1,000,000 บาท และจะถูกดำเนินคดีทุกกรรม เป็นกระทงความผิดไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม