วันที่ 9 สิงหาคม 2567 เวลา 02:49 น.
จับหนุ่มอดีตเซลล์ ปีนหลังคาตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือน สารภาพหาเงินใช้หนี้นอกระบบ จ.นนทบุรี
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 8 ส.ค.67 พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากร รอง ผกก.สส.บางศรีเมือง พ.ต.ต.พงค์นเรศ ศิริเสถียร สว.สส.สภ.บางศรีเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี คดีลักทรัพย์ ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด พร้อมของกลางหลายรายการ
นายสอ ผู้ต้องหา กล่าวว่า ก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง เห็นบ้านไหนไม่มีคนอยู่ก็ปีนเข้าไปเลย ส่วนทรัพย์สินที่ได้มาก็จะนำไปขายที่วงเวียนใหญ่ จากนั้นนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบจำนวน 20,000 บาท ก่อนหน้าเคยทำงานออฟฟิศ เป็นพนักงานขาย แต่เงินไม่พอใช้ จึงลงมือก่อเหตุ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ถูกจับ รู้สึกเข็ดและจะไม่ไปทำแบบนี้อีก
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2567 นายสมบูรณ์ มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง หลังถูกคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์สินภายในบ้านพัก หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ซึ่งคนร้ายได้ทรัพย์สิน สร้อยคำทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น พร้อมพระเลี่ยมทอง จำนวน 1 องค์ เงินสดประมาณ 3,000 บาท ต่อมาชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสืบสวนหาข่าว อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งวันที่ 4 ส.ค. 67 ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน
โดยแจ้งว่า กล้องวงจรปิดของลูกบ้าน ได้บันทึกภาพคนร้ายกำลังปีนกำแพงของหมู่บ้าน และขึ้นหลังคาบ้านของลูกบ้านพยายามเข้าไปลักทรัพย์สิน ในช่วงเวลาประมาณ 01.44 น.
โดยคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงผ้าขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบ สวมหมวกแก็บสีดำ พยายามเข้าไปลักทรัพย์ตามบ้านของลูกบ้าน แต่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป ต่อมาวันที่ 6 ส.ค. 67 ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจาก รปภ.ของหมู่บ้าน ว่าคนร้ายได้หวนกลับมาอีกครั้งและนำบันไดอลูมิเนียมวางไว้ข้างกำแพงของหมู่บ้าน จึงได้เข้าไปทำการตรวจสอบ และยึดไว้เป็นของกลาง ต่อมาชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้ จากพฤติกรรมพบว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกันทั้งหมดที่ก่อเหตุ จึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์ ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
พิรฎา