10 กันยายน 2567 ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในจังหวัดทางตอนใต้ของโมร็อกโก ทั้งจังหวัด ทาทา ทิสนิต และ เออร์ราชิเดีย ราชิด คาลฟี โฆษกกระทรวงมหาดไทย ของโมร็อกโก ระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดยังอยู่ที่ 11 ราย หลังจากมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นใน 17 จังหวัด โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด มี  7 ราย เสียชีวิตในจังหวัด ทาทา แล ะอีก 2 ราย เสียชีวิตในจังหวัด เออร์ราชิเดีย โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าเป็นคนชาติใด โดยทางรัฐบาลกำลังเร่งกู้ระบบสื่อสาร และเข้าถึงพื้นที่น้ำท่วมเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้ว

มีรายงานว่าบ้านเรือนถูกน้ำซัดเสียหาย 40 หลัง ถนนเสียหาย 93 สาย และยังส่งผลให้ระบบประปาไฟฟ้าและโทรศัพท์ขัดข้องในหลายหมู่บ้านด้วย

ลูสเซน ยูอับด์ โฆษกคณะกรรมการอุตุนิยมวิทยาทั่วไปของโมร็อกโก เปิดเผยว่าพื้นที่ทางตอนใต้ของโมร็อกโกได้รับผลกระทบจากมวลอากาศเขตร้อนที่มีความแปรปรวนอย่างยิ่ง นำไปสู่การก่อตัวของเมฆที่ไม่เสถียรและรุนแรง ซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนักมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่เพียง 2 วันเกินค่าเฉลี่ยฝนที่ตกตลอดทั้งปีเลยทีเดียว โดยในแคว้นวาร์ซาเซต มีปริมาณน้ำฝนมากถึง 47 มิลลิเมตรในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง ในขณะที่เมืองทากูไนท์ ใกล้กับชายแดนแอลจีเรีย มีปริมาณฝนสะสมถึง 170 มิลลิเมตร 

ทั้งนี้ โมร็อกโกต้องประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรงเนื่องจากภัยแล้งติดต่อกันมานานถึง 6 ปี ทำให้ระดับน้ำในเขื่อนลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 28 ของความจุภายในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ที่มา :  www.france24.com