กองปราบฯ ตามรวบผู้รับเหมาฯ หนีคดีฆ่านานกว่า 19 ปี เหลืออีก 1 เดือน 11 วัน คดีจะขาดอายุความ

กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) โดย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นาย นอม (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2547 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์” จับกุมได้ที่โครงการก่อสร้างหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ม.4 ต.กุ่มหัก อ.หนองแค จ.สระบุรี

โดยสืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2547 นาย นอม (นามสมมุติ) (ผู้ต้องหา) ได้ติดพันหญิงสาวคนหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกัน แล้วมีคนบอกว่านายรงค์ ซึ่งเป็นญาติกัน มาพัวพันหญิงสาวคนที่ตนคบหาอยู่ด้วย ต่อมาในวันเกิดเหตุ ขณะที่นายรงค์ อยู่ที่บ้านพัก ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปพบและได้สอบถามในเรื่องดังกล่าว โดยนายรงค์ บอกว่าตนเองไม่ได้คบหรือพัวพันกับใคร ทำให้ผู้ต้องหาโกรธจึงใช้อาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม. ที่พกติดตัวมายิง  นายรงค์ 3 นัด จนถึงแก่ความตาย

หลังเกิดเหตุนาย นอม (นามสมมุติ) ได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เกิดเหตุเป็นต้นมา พ่อผู้ตาย พยายามติดตามความคืบหน้าของคดีมาโดยตลอดจนถึงต้นปี พ.ศ. 2567 คดีใกล้ขาดอายุความแล้ว แต่ผู้ต้องหาก็ยังไม่ถูกจับกุมตัวมาดำเนินคดี พ่อผู้ตายเกรงว่าลูกชายจะต้องตายเปล่า จึงได้ร้องขอความเป็นธรรมและประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ให้ช่วยติตตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ เนื่องจากที่ผ่านทราบว่าผู้ต้องหาอำพรางตัวตน โดยใช้ชื่อบุคคลใกล้ชิดหลบหนีการจับกุมมาโดยตลอด

หลังจากรับเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวจากพ่อผู้ตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้เร่งทำการสืบสวนจนทราบว่า นาย นอม (นามสมมุติ) ได้หลบหนีไปทำงานรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุมเอาไว้ได้ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินคดี ทั้งนี้นาย นอม (นามสมมุติ) หลบหนีมาแล้วเป็นเวลา 19 ปี 10 เดือน 19 วัน ยังคงเหลืออีก 1 เดือน 11 วัน คดีก็จะขาดอายุความตามกฎหมาย ก่อนจะมาถูกจับกุมดังกล่าว

จากการสอบสวนเบื้องต้น ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การว่า ในวันเกิดเหตุ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปพบกับผู้ตายที่บ้านจริง สอบถามผู้ตายว่าได้คบหากับแฟนสาวตนเองหรือไม่ เมื่อผู้ตายบอกว่าไม่ได้คบหากับแฟนสาวคนนั้น ผู้ต้องหาก็ได้กลับออกมาจากบ้านผู้ตาย โดยไม่ได้มีการทะเลาะหรือทำร้ายผู้ตาย กระทั่งมาทราบข่าวว่าผู้ตายถูกยิง มีคนบอกว่าผู้ต้องหาเป็นคนฆ่า ด้วยความกลัวจึงหลบหนีมาโดยตลอด จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจับกุมตัวได้