หน้าแรก > สังคม

รมต. ชูศักดิ์ เผยทุกหน่วยงานมีความพร้อมทุกด้าน ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐาน ชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 เวลา 04:24 น.


รมต. ชูศักดิ์ เผยทุกหน่วยงานมีความพร้อมทุกด้าน ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง

(22 พ.ย.67) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานการดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว ครั้งที่ 1/2567

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราวว่า รัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เห็นชอบร่วมกันในการจัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 (73 วัน) โดยอัญเชิญมาวันที่ 4 ธันวาคม 2567

สำหรับการประชุมวันนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ของหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายภารกิจต่าง ๆ ทั้งด้านพิธีการ (เช่น การจัดเตรียมสถานที่ ณ ท้องสนามหลวง และการบริหารจัดการโครงการในภาพรวม การดูแลอำนวยความสะดวกให้กับคณะปกปักรักษาพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ของฝ่ายจีน การดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าสักการะ) การรักษาความปลอดภัย การประชาสัมพันธ์ ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมความพร้อมทุกด้านในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายชูศักดิ์ ศิรินิล) ประธานกรรมการประสานงานการดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยดำเนินการประสานงานและเข้าร่วมการประชุมร่วมกับคณะทำงานฝ่ายจีน เพื่อเตรียมการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว)  โดยการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาคณะทำงานฝ่ายไทยและฝ่ายจีนได้ร่วมประชุมหารือและสำรวจพื้นที่ร่วมกันทั้งในประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน 

ในส่วนของการจัดงาน ได้จัดให้มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 5 โซน ประกอบด้วย

โซนที่ 1 "ดับขันธปรินิพพาน มกุฎพันธนเจดียสถาน" นำเสนอเรื่องราวพุทธประวัติในการประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จปรินิพพาน โดยเน้นในช่วงพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน 
โซนที่ 2 "พุทธะบารมีพระสรีระธาตุ" นำเสนอเรื่องราวประวัติของพระสรีระธาตุหรือพระบรมสารีริกธาตุที่ได้อัญเชิญไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก 
โซนที่ 3 "พระเขี้ยวแก้ว" นำเสนอเรื่องราวประวัติ ความสำคัญ และความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุ(พระเขี้ยวแก้ว) 
โซนที่ 4 "ใต้ร่มเศวตฉัตร ทศมรัช พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว" เป็นนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยที่ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกและมีพระราชศรัทธาในพระบวรพุทธศาสนา สืบสานราชประเพณีสืบเนื่องมาจนเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ
โซนที่ 5 "ความสัมพันธ์ ไทย-จีน" นำเสนอเรื่องราวและเหตุการณ์สำคัญที่สร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนในด้านต่าง ๆ สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ส่งเสริมคำว่า "จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน" 

ข่าวยอดนิยม