หน้าแรก > อาชญากรรม

สืบนครบาล รวบ หนุ่มนักตุ๋นแอบอ้างรู้จักบิ๊กตำรวจ หลอกว่าสามารถช่วยประกันตัวชาวจีนได้ สูญเงินกว่า 1.1 ล้านบาท

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10:58 น.


เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต  ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์  รอง ผกก.สส.1ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 2 ดำเนินการจับกุม   นายธอ(นามสมมุติ) อายุ 27 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือที่ 645/2566 ลงวันที่ เดือนธันวาคม 2566   ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน "ฉ้อโกง"  

โดยจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าห้องเช่า พัฒนาการ ซอย 10/1 เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ

พฤติการณ์ เมื่อประมาณเดือน มีนาคม 2565 ผู้เสียหายชาวจีนได้รู้จักกับนายธอ ผู้ต้องหา โดยมีเพื่อนเป็นคนแนะนำให้รู้จัก ต่อมามีเพื่อนของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นคนจีน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุม ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ได้ถูกเจ้าที่หน้าที่ตำรวจตม.3 คุมขัง ซึ่งผู้เสียหายมีความประสงค์ที่จะประกันตัวเพื่อนออกมาต่อสู้คดี ทางนาย ธอ ผู้ต้องหา อ้างว่าตนเองสามารถช่วยเหลือ เรื่องประกันตัวได้ แล้วเสนอว่าพ่อของตนเองเป็นทหารยศพลตรี สนิทกับบิ๊กตำรวจสนิทกับรองผบช.สอบสวนกลาง ให้ความช่วยเหลือในเรื่องประกันตัวได้ และผู้เสียหายบอกผู้ต้องหาว่า มีงบในการประกันตัวอยู่ 500,000 บาท โดยเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 ผู้ต้องหาบอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน จำนวน 50,000 บาท ว่าเป็นค่าเลี้ยงอาหารผู้ใหญ่เป็นรอง ผบช.สอบสวนกลาง ไปทานข้าว โดยผู้เสียหาย ให้เงินสดกับแฟนซึ่งเป็นคนไทย จากนั้นนำเงินไปเข้าบัญชีธนาคาร ทำการโอนเงินให้กับผู้ต้องหา โดยโอนเข้าบัญชีธนาคาร กรุงไทย ชื่อบัญชี นายนิรันดร  ซึ่งผู้ต้องหาแจ้งว่าเป็นบัญชีของพ่อของนายธอ โดยบอกว่าบัญชีธนาคารกรุงไทยของตนเอง กำลังปรับปรุงไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ และในวันเดียวกันผู้ต้องหา แจ้งว่าให้โอนเงินมาให้ตนเองอีก จำนวน 42,600 บาทโดยให้โอนเงินมาเข้าอีกบัญชีหนึ่งเป็นบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชีนายนภปก ผู้เสียหายจึงให้แฟนโอนเงินอีกจำนวน 44,200 บาท และจำนวน 400 บาท

ต่อมา วันที่ 17 กันยายน 2565 นายธอ บอกว่า ต้องการเงินก่อนเป็นจำนวนเงิน400,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้ให้เงินผู้ต้องหา ไปแล้วเป็นจำนวน 92,600 บาท เหลืออีกจำนวน 307,400 บาท จากนั้นจึงให้เพื่อนของเพื่อน ช่วยโอนเงินไปให้นาย ธนจิตรฯอีกจำนวนเงิน 307,400 บาท ต่อมาวันที่ 20 กันยายน 2565 นายธอ แจ้งว่า รองผู้บังคับการตม.3 (พัทยา) ต้องการเงินอีก จำนวน200,000 บาท ในการประกันตัว ถ้าไม่เช่นนั้น จะไม่ได้ประกันตัว ผู้เสียหายจึงให้แฟนของเพื่อน ทำการโอนเงินจำนวน 200,000 บาท ไปยังบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี นายนิรันดร แล้วนายธอบอกว่า วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ให้ไปรับตัวเพื่อนได้เลย ต่อมาเมื่อถึงวันที่ 5 ตุลาคม2565 ก็ไม่สามารถประกันตัวได้อีก โดยผู้ต้องหา อ้างว่า ผู้บังคับการตม.3 ต้องการเงินเพิ่มอีก จำนวน400,000 บาท จึงนัดหมายให้ส่งเงินกันในวันที่ 7 ตุลาคม 2565 ถ้าให้เงินอีกจำนวน 400,000 บาท โดยนัดหมายส่งมอบเงินกันที่ ห้างเดอะสตรีชรัชดา และในวันที่ 8 ตุลาคม 2565 ก็สามารถประกันตัวออกมาได้เลย 

ต่อมาวันที่ 7 ตุลาคม 2565 ก็ได้นำเงินสดจำนวน 400,000 บาท ไปมอบให้กับผู้ต้องหากับพวกอีก 2 คน ที่ห้างเดอะสตรีช รัชดาฯ ต่อมาเมื่อถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2565 ก็ยังไม่สามารถประกันตัวเพื่อนได้อีกเลย โดยบอกว่า ผู้บังคับการ ตม.3 ต้องการเงินอีกจำนวน 600,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 1,000,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ตกลงด้วย
  จากนั้นผู้ต้องหา ยังอ้างอีกว่า จะหาผู้ใหญ่คนอื่นมาช่วยอีก โดยอ้างว่า เป็นสจ. เป็นเจ้าของเกาะสีชัง ให้เงินอีกจำนวน 50,000 บาท เพื่อไปเลี้ยงข้าวผู้ใหญ่อีกต่อมาเมื่อถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2565 จึงโอนเงินจำนวน 50,000 บาท ไปให้ผู้ต้องหา ต่อมาวันที่ 24 ตุลาคม 2565 ผู้ต้องหา ได้โทรศัพท์มาบอกว่า ต้องการเงินอีกจำนวน 30,000 บาทไปเลี้ยงข้าว ผู้บังคับการตม.3 จึงให้แฟนของเพื่อน ทำการโอนเงินให้กับผู้ต้องหา จากนั้น ผู้ต้องหายังบอกผู้เสียหาย อีกว่า สจ. ต้องการเงินอีกจำนวน 500,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ยอม ผู้ต้องหาจึงบอกว่าจะหาทนายความไปดำเนินการให้ โดยต้องจ่ายค่าจ้างให้กับ ทนายความเป็นจำนวนเงิน 70,000 บาท โดยได้ทำการโอนเงิน จำนวน 70,000 บาท ไปยังบัญชีธนาคารของนายธอ แต่ก็ไม่ได้ประกันตัว ทำให้เกิดความสงสัยว่า พ่อของผู้ต้องหา ที่ชื่อนิรันดร ทำไม ไม่มียศพลตรี เมื่อโอนเงินให้บัญชีพ่อของผู้ต้องหา และต่อมาได้โทรติดต่อผู้ต้องหา ก็ไม่ค่อยจะรับสาย บ่ายเบี่ยงเรื่อยมาว่าติดธุระ จนถึงเมื่อวันที่ 28 เมษายน จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง รวมเป็นเงินทั้งหมดที่ได้ถูกลวงหลอกให้โอนเงินเป็นเงินจำนวน 1,150,000 บาท จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อ พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สิ้นสุดต่อไป

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหารับสารภาพว่ารู้จักเพื่อนของผู้ต้องหาจริง และอ้างว่ารู้จักกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และอ้างเพิ่มเติมว่าพ่อของตนเป็นนายทหารยศพลตรี สามารถให้ความช่วยเหลือได้ประกันตัว ผู้ต้องหาชาวจีนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตม.จับไปให้ออกมาได้  จากนั้นมีการออกอุบายให้โอนเงินผ่านนายนิรันดร ฯ บิดา จำนวนหลายแสนบาท และอีกจำนวนหลายก้อน แม้กระทั่งเงินสดที่อ้างว่านำไปเลี้ยงข้าวผู้ใหญ่ ซึ่งตนนำไปใช้ส่วนตัว และไม่ติดต่อผู้เสียหายเพราะตนได้หลบหนีไปอยู่ต่างจังหวัด  จนตัวเองกลับมาทำงานที่กรุงเทพมหานคร ได้เพียง 2 เดือน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลจับกุมตัวได้ และจากการสอบถาม พบว่าพ่อของผู้ต้องหาทำงานเชียร์แขกในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ไม่ได้เป็นทหารตามกล่าวอ้างแต่อย่างใด จากนั้นได้นำตัว ส่ง สน.ห้วยขวาง ดำเนินการต่อไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม