วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เวลา 11:07 น.
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นายณัฐ(นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ฐานกระทำความผิดตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 401/2567 ลงวันที่ 29 เมษายน 2567 (หมายจับที่ 1) ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งบิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน"กระทำความผิดตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 462/2567 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 (หมายจับที่ 2) ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน "เป็นผู้สนับสนุนความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงเป็นคนอื่นและโดยทุจจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งบิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิช่ายการกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฏหมายอาญา"กระทำความผิดตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ 1127/2566 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 (หมายจับที่ 3) ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ปลอมซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม
โดยประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือเป็นผู้สนับสนุนให้บุคคลอื่นกระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงเป็นบุคคนอื่น,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน"
กระทำความผิดตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 5433/2567 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 (หมายจับที่ 4) ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน"
โดยจับกุมได้ที่บ้านพักคนงาน ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่
พฤติการณ์ มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ว่าได้ถูกกลุ่มคนร้ายชักชวนผ่านเพจเฟซบุ๊กหลอกให้ลงทุนซื้อเหรียญเงินตราต่างประเทศ โดยมีการแอบอ้างว่ามีผลกำไรหลายเท่าตัว เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ รวมมูลค่าความเสียหายเป็นเงินจำนวนกว่า 11 ล้านบาทกว่า
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัว นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพว่าตนเปิดบัญชีจริงโดยมีเพื่อนชักชวนให้เปิดบัญชีดังกล่าว