หน้าแรก > สังคม

ก๊าซไข่เน่า สุดอันตราย "อ.อ๊อด" ชี้ทำเสียชีวิตได้ในไม่กี่นาที

วันที่ 10 ธันวาคม 2567 เวลา 20:51 น.


วันที่ 10 ธันวาคม 2567 จากกรณี พบผู้เสียชีวิต 5 รายหลังลงไปทำความสะอาดแล้วเสียชีวิตในบ่อโรงงานผลิตปลาร้า ตำบลหนองไขว่ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์  ล่าสุด กรมควบคุมมลพิษทางอากาศเขต 2 พิษณุโลก เตรียมนำเครื่องมือมาตรวจวัดมลพิษบ่อหมักปลาร้า ในโรงงานผลิตปลาร้า ที่ จ.เพชรบูรณ์  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งให้นำสังกะสีหลังคามาปิดไว้ในสภาพเดิม เพื่อให้ปริมาณมลพิษคงอยู่ใกล้เคียงขณะเกิดเหตุให้มากที่สุดเพื่อตรวจวัดให้ได้ผลที่แน่ชัดอีกครั้งว่าสูงกว่าอัตรากฎหมายกำหนดหรือไม่

ขณะที่ "อาจารย์อ๊อด" รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์และนักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า โรงงานปลาร้า การหมักหมม ทำให้เกิดก๊าซพิษ ก๊าซไข่เน่า หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์ เป็นก๊าซที่อันตรายมากและสามารถทำให้เสียชีวิตได้ถ้าหายใจเข้าไปในปริมาณมากหรือเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในพื้นที่ปิดที่ไม่มีการระบายอากาศเพียงพอ โดย อันตรายจากไฮโดรเจนซัลไฟด์ คือ เป็นพิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง หากได้รับในปริมาณสูง อาจทำให้หมดสติทันทีและอาจนำไปสู่การเสียชีวิตในเวลาไม่กี่นาที พร้อมระบุ อันตรายจากไฮโดรเจนซัลไฟด์

1. เป็นพิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง : ไฮโดรเจนซัลไฟด์เป็นก๊าซที่มีความเป็นพิษสูงและสามารถรบกวนการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง หากได้รับในปริมาณสูง อาจทำให้หมดสติทันทีและอาจนำไปสู่การเสียชีวิตในเวลาไม่กี่นาที

2. ผลกระทบต่อร่างกาย : การสัมผัสในระดับต่ำ: ระคายเคืองตา จมูก และคอ, คลื่นไส้, เวียนศีรษะ , การสัมผัสในระดับปานกลาง: ปวดศีรษะ, หายใจลำบาก, อ่อนเพลีย ,การสัมผัสในระดับสูง: ระบบหายใจล้มเหลว, หัวใจหยุดเต้น, หมดสติและเสียชีวิต

3. ความเข้มข้นที่เป็นอันตราย:
10-50 ppm: อาจเริ่มรู้สึกระคายเคือง
>100 ppm: สามารถทำให้หมดสติภายในเวลา 2-15 นาที
>500 ppm: เป็นอันตรายถึงชีวิตภายในไม่กี่นาที

สถานการณ์เสี่ยงที่อาจพบก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์
ในอุตสาหกรรม เช่น การบำบัดน้ำเสีย, โรงงานผลิตปิโตรเลียม, โรงงานปุ๋ย
การเน่าเสียของสารอินทรีย์ในพื้นที่ปิด เช่น ท่อระบายน้ำ, ถังบำบัดน้ำเสีย

วิธีป้องกันและปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุ
1. การป้องกัน : ติดตั้งระบบระบายอากาศในพื้นที่เสี่ยง ใช้เครื่องตรวจจับก๊าซ H₂S สวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น หน้ากากกรองก๊าซ

2. การช่วยเหลือ : หากพบผู้หมดสติในพื้นที่ที่สงสัยว่ามี H₂S อย่าเข้าไปช่วยโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน แจ้งหน่วยกู้ภัยและนำผู้ป่วยออกมาสู่ที่อากาศบริสุทธิ์โดยเร็วที่สุด ปฐมพยาบาล: ทำ CPR หากจำเป็น และรีบนำส่งโรงพยาบาล

คำเตือน: อย่าประมาทในการทำงานหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยง เพราะไฮโดรเจนซัลไฟด์มีพิษร้ายแรงแม้ในปริมาณเล็กน้อย

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม