วันที่ 17 ธันวาคม 2567 เวลา 15:53 น.
วันที่ 17 ธันวาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมเดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพล ว่า กระทรวงมหาดไทยปฏิบัติมาตลอดอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นที่ปราจีนบุรี คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านพัก เป็นการทะเลาะวิวาท และบันดาลโทสะ ใครทำอะไรไปก็ต้องรับผลกรรม
เมื่อถามว่าต้องยอมรับว่าเขาเป็นบ้านใหญ่ที่นั่น ตำรวจเลยมีการขยายผลปูพรมตรวจทุกพื้นที่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ดี ถือว่าธรรมชาติจัดสรร ถ้าใครทำไม่ดีก็ต้องถูกขยายผลว่าเกี่ยวพันไปถึงใคร ถ้าเป็นเรื่องผู้มีอิทธิพล เรื่องปืน เรื่องข่มขู่ ก็ต้องเข้าไปจัดการ ใครจะไปช่วยไม่เห็นมีใครช่วยเลย บางทีกฎหมายก็จัดการ บางทีธรรมชาติก็เข้าไปจัดการ คนที่ได้ประโยชน์คือประชาชนและประเทศชาติ
ส่วนการที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะรื้อฟื้นเหมือนในอดีตที่ให้มีการตั้งศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติด นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าได้นายกฯ มาช่วยอีกแรงยิ่งดีใหญ่เลย เพราะกระทรวงมหาดไทยก็ใช้กลไกของกระทรวง ถ้ามีนายกฯ มา ก็จะมีกลไกตำรวจ กลไกทหาร และกลไกความมั่นคงต่างๆ ก็จะเป็นการบูรณาการที่สมบูรณ์แบบ ดีใจ และยินดีถ้าลงมาช่วยอีกแรงได้จริง
เมื่อถามว่าอาจเป็นรูปแบบคณะกรรมการเฉพาะกิจที่มีนายกฯ เป็นประธาน นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ยิ่งดี ถ้าได้คนที่มีอำนาจสั่งการสูงสุดเข้ามาก็เป็นประโยชน์ คงไม่มีใครใหญ่กว่านายกฯ
เมื่อถามว่าตอนที่กระทรวงมหาดไทยมีการลิสต์รายชื่อผู้มีอิทธิพล มีรายชื่อของบ้านใหญ่ปราจีนบุรีอยู่ด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่ามีอิทธิพลมีหลายอย่าง การทำให้ชาวบ้านเชื่อถือเคารพ ศรัทธาก็ถือว่าเป็นอิทธิพล ถ้าแบบนี้ไม่เป็นไร ทุกคนมีอิทธิพลหมด ขึ้นอยู่กับว่าจะไปทำให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองหรือทำให้ผู้คนเดือดร้อน เราก็มุ่งไปปราบอิทธิพลที่ทำให้ผู้คนเดือดร้อน ถ้าเขาทะเลาะวิวาทกันเองบันดาลโทสะกัน ตรงนี้ไม่อยู่ในข่าย แต่ต้องไปดูว่าอาวุธปืนมาจากไหนต้องไปขยายความ เพราะอาวุธปืนที่ใช้ ดูแล้วคนธรรมดาก็ไม่ได้พกพาอะไรขนาดนั้น ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่แยกแยะออกว่า ใช้อิทธิพลในการประกอบคุณงามความดี หรือใช้อิทธิพลในการข่มเหงรังแกชาวบ้าน นายอำเภอ ผู้ว่าฯ ตำรวจ ดูออกอยู่แล้ว ตนก็ดูออก
1 กุมภาพันธ์ 2568
1 กุมภาพันธ์ 2568