17 ธ.ค. 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค  ร่วมกันจับกุม นางปิ (นามสมมุติ) อายุ 73 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 5285/2567 ลงวันที่ 5 พ.ย. 2567  แจ้งข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,ร่วมกันโดยเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับการบริการ ไม่ว่าเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาที่มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อความที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น” พร้อมตรวจยึดของกลาง โดยจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนข้างโลตัส โกเฟรช ลาดปลาเค้า 52 ถ.ลาดปลาเค้า กทม.

สืบเนื่องจากกลุ่มผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อ พงส.กก.1 บก.ปคบ. ให้ดำเนินคดีกับบริษัท บ. กับพวก ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวต่างประเทศ มีสำนักงานตั้งอยู่ ใน ซ.โชคชัยสี่ ซอย 49  ซึ่งเป็นสถานที่ร้างไม่มีคนอยู่อาศัย หรือสำนักงานตั้งอยู่แต่อย่างใด ซึ่งกรณีดังกล่าวมีผู้ได้รับความเสียหาย จำนวนมากโดยแบ่ง 3 กลุ่ม ดังนี้

1.กลุ่มที่ถึงกำหนดการเดินทางไปท่องเที่ยวแต่ไม่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวตามหนด มีผู้เสียหายจำนวน 4 ราย รวมความเสียหายทั้งหมดเป็นเงิน 339,550 บาท

2.กลุ่มที่ถึงกำหนดการเดินทางไปท่องเที่ยวและไปท่องเที่ยวมาแล้วแต่บริษัท บ. นี้ กับพวก ไม่ได้มีการดำเนินการให้ตามข้อตกลงตามเพคเกจการท่องเที่ยวที่ซื้อไว้มีผู้เสียหาย จำนวน 9 ราย รวมความเสียหายเป็นจำนวนเงิน  807,726 บาท

3.กลุ่มที่จองเพกเกจท่องเที่ยวไว้แต่ยังไม่ถึงกำหนดวันเดินทางไปท่องเที่ยวตามเพคเกจ แล้วเกิดความไม่มั่นใจ และได้ติดต่อกับกลุ่มผู้ต้องหาขอยกเลิกเพคเกจการท่องเที่ยวที่จองไว้และขอคืนเงินแต่ไม่สามารถ ซึ่งจากการติดต่อกับกลุ่มผู้ต้องหาได้ อีกจำนวน 21 คน รวมความเสียหาย 1,015,893 บาท รวมความเสียหายทั้งหมด 2,163,169 บาท และคาดว่ายังไม่ผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความ

จนเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. ได้ร่วมกันจับกุมหนึ่งในผู้บริหารของบริษัทได้ คือ นางปิ อายุ 73 ปี ส่วนบุคคลอื่นที่ยังหลบหนี จะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีภายในอายุความ จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหา เบื้องต้นนางปิ ยังให้การปฏิเสธ ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวแต่อย่างใด ส่วนคนอื่นอาศัยอยู่ต่างประเทศ