หน้าแรก > สังคม

“สมศักดิ์” เปิดมหกรรม LONG LIFE...THAI FIT ฟิตกายฟิตใจ ออกกำลังกายทั่วไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

วันที่ 23 ธันวาคม 2567 เวลา 15:53 น.


“สมศักดิ์” เปิดมหกรรม LONG LIFE...THAI FIT ฟิตกายฟิตใจ ออกกำลังกายทั่วไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมบรรยายพิเศษ “คนไทยห่างไกล NCDs แนะดูแลสุขภาพ ช่วยชาติประหยัดงบฯ ถึง 2.6 หมื่นล้านบาท

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.เวลา 17.45 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดมหกรรม LONG LIFE...THAI FIT ฟิตกายฟิตใจ ออกกำลังกายทั่วไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยก่อนการเปิดงานนายสมศักดิ์ พร้อมด้วยนายนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย นำผู้บริหาร ข้าราชการกระทรวง เดินออกกำลังกายจากหน้ากรมควบคุมโรค มายังบริเวณพิธีหน้าสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จากนั้นได้กล่าวนำคำสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล และร่วมกันเต้นแอโรบิก LONG LIFE...THAI FIT

นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานว่า การจัดมหกรรมในครั้งนี้ มุ่งเน้นการสร้างความสามัคคี และความแข็งแรง ทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ในการสร้างเสริมให้คนไทย มีสุขภาวะที่ดี ห่างไกล NCDs อีกด้วย และขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า ขอให้ทุกท่านมีความสุข มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ช่วยกันยกระดับงานด้านสาธารณสุข เพื่อพี่น้องประชาชน

นายสมศักดิ์ กล่าวบรรยายพิเศษคนไทยห่างไกล NCDs ว่า สภาวะโลกที่เปลี่ยนไป ทั้งโลกร้อน ฝุ่นควัน PM 2.5 เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคใหม่ๆ เช่น โรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs และยังมีสภาวะทางสังคมผู้สูงอายุ เมื่อปี 2566 ไทย เข้าสู่สภาวะ “สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์

สองเรื่องนี้ ถือเป็นความท้าทายทายเศรษฐกิจ และภาระงบประมาณของประเทศ โรค NCDs มีต้นทุนทางเศรษฐกิจ สูงถึง 1.6 ล้านล้านบาท ต้นทุนทางตรง (ค่ารักษาพยาบาล) 139,000 ล้านบาท ต้นทุนทางอ้อม (ตายก่อนวัยอันควร การขาดงานบ่อย) 1.5 ล้านล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 9.7 ของ GDP ภาระด้านงบประมาณ เฉพาะในส่วนของ สปสช. ปี 60 สูงถึงกว่า 62,138 ล้านบาท คิดเป็น 48 % ของงบภาพรวม ปี 67 สูงถึงกว่า 79,537 ล้านบาท คิดเป็น 52 % ของงบภาพรวม ส่วนที่สอง คือ ภาระในการดูแลผู้สูงอายุ ปีละประมาณ 2,760.5540 ล้านบาท (10,442 บาทต่อคนต่อปี) หากผู้สูงอายุติดเตียง ส่วนใหญ่เป็นภาระของลูกหลาน เช่น การดูแลที่บ้าน มีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 – 36,000 บาทต่อเดือน อยู่ที่สถานดูแลผู้สูงอายุ ก็จะมีค่าบริการ 15,000 – 40,000 บาทต่อเดือน เหล่านี้คือต้นทุนทางตรงและทางอ้อมในการดูแลผู้สูงอายุ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ห้วงวิกฤตโควิด 19 เมื่อปี 2563 ทำให้เกิดวิกฤตด้านสุขภาพ และเศรษฐกิจเหล่านี้เป็นปัญหาที่ไทยกำลังเผชิญ กระทรวงสาธารณสุข คือส่วนหนึ่งที่ต้องหาทางแก้ ประหยัด บริหารจัดการงบประมาณกันใหม่ ส่งเสริมเศรษฐกิจสุขภาพ อย่างแรก คือ จัดการที่ต้นเหตุ ภาระใหญ่ของงบประมาณ คือ ผู้ป่วย NCDs เดือนพ.ย.ที่ผ่านมาเรา รณรงค์นับคาร์บ อสม. นับคาร์บแล้ว กว่า 1,069,372 คน ประชาชนทั้งประเทศ นับคาร์บแล้ว 9,054,294 คน ปัจจุบันเรากำลังจัดตั้งศูนย์ NCDs เพื่อเก็บข้อมูลการทำนับคาร์บ หากอสม.ทั้งหมด 1 ล้านกว่าคนเรียนรู้การนับคาร์บ และส่งต่อความรู้ให้ประชาชน ดูแลตัวเอง จะช่วยรัฐประหยัดค่ารักษาพยาบาลกว่า 26,850 ล้านบาทต่อปี

“นอกจากนี้ยังต้อง ระวังโซเดียม คือ ตัวอันตราย ห้ามเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน

มนุษย์ เกิดมาแล้ว เท่ากัน ถ้ากินไม่ดี ดูแลตัวเองไม่ดี มากไป น้อยไป ก็จะป่วยได้ นอกจากนี้ กินดีแล้ว ต้องเพิ่มการออกกำลังกายด้วย การเต้นลองไลฟ์ไทยฟิต เป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เพิ่มการแข็งแรงของหัวใจ กล้ามเนื้อ เพิ่มการเผาผลาญ จึงอยากเชิญชวนทุกท่านให้หันมาใส่ใจสุขภาพ โปรตีนอย่าให้ขาด คาร์บอย่าให้เกิน เพิ่มเติมด้วยไขมันดี และขยับกายให้เพียงพอ เราก็จะห่างไกลจากโรค NCDs เรื่องการกินและการออกกำลังกาย คือ การช่วยประเทศ ประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ลดคนเข้าโรงพยาบาล” นายสมศักดิ์กล่าว

นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์อีกว่า กิจกรรมอันยิ่งใหญ่วันนี้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขและพันธมิตรได้ทำกิจกรรมขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567น้อมนำพระราชกรณียกิจในเรื่องการออกกำลังกายมาใช้เป็นแนวทางในการบอกกับประชาชน ว่าการออกกำลังกายเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกาย หัวใจกล้าม เนื้อ การเต้นแอโรบิกที่อนามัยจัดขึ้นจะเป็นการออกกำลังกายในลักษณะของการเต้นแอโรบิกเกี่ยวกับคาร์ดิโอหัวใจ นอกจากนี้ เราพยายามรณรงค์เรื่องการนับคาร์บการบริโภคอาหาร โดยเป้าหมายการนับคาร์บ ภายในสองปีต้องนับได้แล้ว 50 ล้านคน เมื่อประชาชนทำได้แล้วและน้ำหนักลดลงก็ต้องหันมาออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับเส้นเลือดหัวใจสมอง จะได้ไม่เจ็บป่วย และการเจ็บป่วยก็ใช้งบประมาณค่อนข้างสูงเราต้องทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง และข้าราชการมีความพร้อมเพรียงอย่างมากในการป้องกันโรคNCDs

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุด วันนี้เราต้องพึ่งหมอพยาบาลซึ่งทำงานหนักมาก ปีหนึ่ง 304,000,000 ครั้งที่ต้องดูแลประชาชนปีนี้ก็เอาเรื่องของการกินไม่ป่วยรับและเอ็นซีดีเข้าไปในหัวใจพี่น้องประชาชน มั่นใจว่าการที่ประชาชนเหนื่อยหรือต้องมารอคิวรักษาพยาบาลใน 1-2ปีนี้จะเรียบร้อยหมดไปและมั่นใจว่าหมอพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ที่ยังขาดอยู่นั้น ถ้าเราป่วยน้อยลงก็ไม่จำเป็นต้องเร่งผลิตมาก แต่ที่จะต้องผลิตเพิ่มก็คือนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพต่างๆ

ข่าวยอดนิยม