วันที่ 10 มกราคม 2568 เวลา 04:44 น.
นายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ย้ำเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ ปชช. ไม่สามารถรอได้
(9 มกราคม 2568) ณ อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีตรวจติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้พบปะทักทายประชาชนที่มาให้การต้อนรับ พร้อมมอบดอกกุหลาบสีแดงเพื่อแสดงความรัก และเป็นกำลังใจในการทำงานให้นายกรัฐมนตรี พร้อมถ่ายรูปร่วมกับนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นกันเอง จากนั้น นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์การบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ จาก นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล รองอธิบดีกรมชลประทานว่า อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ก่อสร้างระหว่างปี 2546-2551 ในยุคนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้งบประมาณกว่า 600 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาเนื่องจากน้ำในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตไม่เพียงพอต่อการใช้อุปโภคบริโภค และปัจจุบันจังหวัดภูเก็ต ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง ปริมาณน้ำดิบที่จะนำมาใช้ในการผลิตน้ำประปาจากอ่างเก็บน้ำของกรมชลประทานมีปริมาณไม่เพียงพอที่จะรองรับการใช้น้ำของจังหวัดภูเก็ตได้ จังหวัดจึงเล็งเห็นการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน โดยการขุดลอกตะกอนดินอ่างเก็บน้ำบางวาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกักน้ำ ซึ่งในระยะที่ 1 จะเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกัก 150,000 ลูกบาศก์เมตร โดยจะช่วยเป็นแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง และจัดหาแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับผลิตประปา เพื่ออุปโภคบริโภค ซึ่งการดำเนินการขุดลอกจะดำเนินการในช่วงที่น้ำในอ่างน้อย คือ ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ปี
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ชมอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ พร้อมสอบถามว่า ที่ผ่านมาขยายอ่างเก็บน้ำฯ ไม่ได้เป็นเพราะอะไร ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า ไม่สามารถสร้างได้ เพราะอยู่ที่วิธีการทำ ไม่มีพื้นที่ด้านข้าง ส่วนพื้นที่คลองโตนด หากสามารถสร้างได้แล้วเสร็จ จะช่วยให้ผันน้ำมายังคลองบางเหนียวดำได้ และขณะนี้ติดอยู่ที่เรื่องปัญหาการเวนคืนที่ดิน เนื่องจากแปลงตรงนั้นมีมูลค่าที่สูงมาก โดยที่ผ่านมาได้ศึกษาเรื่องการเวนคืนที่ดินแล้ว พบว่ามีมูลค่าที่สูงมาก เนื่องจากมีพื้นที่ 50 ไร่ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เสนอให้หารือกับกรมชลประทาน และนำมาเสนอว่าจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง เพราะหากเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการ จะชักช้าไม่ได้ หากเวลาผ่านไปทุกอย่างก็แพงขึ้น งบประมาณก็สูงขึ้น ขอให้ยึดความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะความเดือดร้อนของประชาชนไม่สามารถรอได้