วันที่ 14 มกราคม 2568 เวลา 03:22 น.
ลูกสาวสุดทน ร้องเพจสายไหมต้องรอด ช่วยเหลือ หลังครอบครัวและตนเองถูก หนุ่มทาสยาประจำซอย ตามคุกคาม ราวี ไม่เลิก เวลาหลอนยาจะเอามีด เอาไม้ มาไล่แทง ไล่ทำร้าย อ้างว่าบ้านตนเองปล่อยพลังงานเข้าไปในหัว
วันที่ 13 ม.ค. 68 ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 น.ส.พา (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี (ลูกสาว) พร้อม น.ส.พร (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี (แม่) เข้าร้องทุกข์กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกนายดำ (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นอดีตแฟน น.ส.พรทิพย์ เข้ามารังควาน ตามด่าทอลูกสาวถึงที่ทำงาน ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย
น.ส.พร เปิดเผยว่า ตนคบหากับนายดำ ได้ประมาณ 5-6 ปี กระทั่งช่วงปี 62-63 นายดำ มีการเสพยาเสพติด และเริ่มมีพฤติกรรมตบตีทำร้ายร่างกายตน ซึ่งขนาดนั้นตนตั้งท้องได้ 5 เดือน จึงตัดสินใจเลิกรากันไป จากนั้นนายดำ ก็ได้มีการหยุดยา และหายไปสักระยะ ก่อนจะมีการติดต่อกันเพื่อมาหาลูกคนเล็กที่เกิดกับนายดำ แต่ช่วงประมาณปี 65-66 นายดำ ก็เริ่มกลับมาเสพยา และเริ่มมีพฤติกรรมตามราวีตนและลูกสาวหนักขึ้น มีทั้งมาด่าทอที่บ้านตนซึ่งเป็นร้านขายของชำอยู่ที่ชุมชนบางบัวสะพานไม้ 2 แต่ช่วงหลังๆ นายดำ ได้ไปราวีลูกสาวตนเป็นส่วนใหญ่ ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมาน้องชายของตนทนไม่ไหว จึงเดินไปถามว่ามีปัญหาอะไร และมีการนำไม้ไปตีนายดำ ก่อนแต่ไม่แรง แต่ตัวนายดำ ก็ใช้มีดแทงคืนที่หลังสองแผล
น.ส.พา กล่าวว่า นายดำ ได้มีการมาราวีตนหนักขึ้นทุกวันเนื่องจากการเสพยา โดยเหตุผลที่มาตามราวีตนนั้น นายดำ อ้างว่าตนนำไมโครชิพไปฝังในหัวเขา ทำให้มีเสียงพูดอยู่ในหัวอยู่ตลอดเวลา และมาทำการขอรหัสไมโครชิพกับตน จากนั้นก็มีการปาหิน ปาขวดเบียร์ นำมีด นำไม้หน้าสาม มาข่มขู่ด่าทอบางคืนตลอดทั้งคืน และมีการมาดักด่าตนตอนเช้าก่อนออกไปทำงาน นอกจากนั้นยังมีถือมีดเข้ามาในบ้าน และมีการทำลายทรัพย์สินโดยนำกาวร้อนไปสาดใส่รถยนต์ของตน ซึ่งตนได้แจ้งความในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้องไปแล้ว แต่ด้วยตอนนั้นตนไม่มีกล้องวงจรปิดด้วย ตำรวจจึงแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินคดีได้เพราะเป็นร้านค้า คนสามารถเข้าออกได้ และเหตุไม่ได้เกิดซึ่งหน้า แต่เรื่องก็เงียบมาตลอด โดยแม่ตนก็มีการไปแจ้งความด้วย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็แจ้งว่าเรื่องผัวเมียเดี๋ยวก็คงจบ
ซึ่งล่าสุดตนทนไม่ไหวเนื่องจากมีการไปตามราวีหาเรื่องตนถึงที่ทำงาน โดยตัวนายดำ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปพร้อมกับเพื่อนที่คาดว่าน่าจะเสพยาและพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่ชุมชนหมู่บ้าน ตนเห็นแล้วจึงเข้าไปหลบ นอกจากนั้นได้มีการวนมาหาตนในช่วงเย็น ทำให้ตนต้องลางานหนีไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด และทำการแจ้งความที่ สน.บางเขน ซึ่งรวมมูลค่าความเสียหายตอนนี้ที่ตนถูกคุกคามรังควานอยู่ประมาณหลักแสนบาท
น.ส.พร กล่าวว่า โดยก่อนหน้านี้ตนได้มีการติดต่อไปกับทางแม่ของนายดำ แต่ทางด้านของแม่ได้มีการปัดให้ไปแจ้งความ แต่เมื่อตนแจ้งความแล้วทางตำรวจก็บอกว่าจะสามารถตรวจปัสสาวะได้ก็ต่อเมื่อแม่ของนายดำต้องมาเซ็น
ขณะที่นายเอกภพ ระบุว่า จะพาผู้เสียหาย ไปลงพื้นที่ และจะประสานไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง ให้ช่วยเร่งรัดดำเนินการ ถึงแม้จะไม่สามารถจับกุมในกรณีคดียาเสพติดได้ แต่ก็สามารถบังคับใช้กฎหมายในการจับกุมคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้ ถ้าเกิดปล่อยไว้แบบนี้วันดีคืนดีอาจจะไปทำร้ายร่างกายคนอื่นได้