หน้าแรก > อาชญากรรม

จับหนุ่มโปแลนด์หื่น ตีก้นสาวในร้านสะดวกซื้อ อ้างไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย

วันที่ 15 มกราคม 2568 เวลา 12:07 น.


วานนี้ ( 14 ม.ค.68 ) สืบนครบาล ร่วมกันสืบสวนจับกุมตัว  นายปีเตอร์ (นามสมติ) อายุ 31 ปี สัญชาติ โปแลนด์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 63/2568 ลงวันที่ 14 ม.ค.68 แจ้งข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น เกิดต่อหน้าธารกำนัล" โดยจับกุมตัวได้ที่ บริเวณหน้าห้องพัก ชั้น 36 คอนโดแห่งหนึ่ง ริมถนนนราธิวาสราชนครินทร์  เขตสาทร กรุงเทพมหานคร

หลังจากก่อเหตุใช้มือตีก้นผู้เสียหายหญิงไทย ในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านสาทร โดยผู้เสียหายเล่าว่า ขณะที่เธอซื้อของอยู่ในร้าน มีชายชาวต่างชาติ เดินมาตีก้นเธออย่างแรง เธอตกใจ จึงหันมองว่าเป็นใคร ในใจคิดว่าเป็นเพื่อนที่รู้จักมาแกล้งเธอเล่น แต่เมื่อมองไปกลับเป็นชายชาวต่างชาติที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน ขณะนั้นเธอหันไปดูรอบๆ เห็นลูกค้าคนอื่นๆ และพนักงานร้านสะดวกซื้อยืนจ้องมาที่เธอ ทำให้เธอรู้สึกถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ว่าเธอเป็นผู้หญิงไร้ค่า เธอจึงรีบเดินออกจากร้านสะดวกซื้อไปด้วยความอับอายจากนั้นเธอได้ปรึกษาคนรู้จักจนทราบว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิด จึงเดินทางไป สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อแจ้งความ

ทั้งนี้ เธอไม่ได้ต้องการสิ่งใดนอกจากคำว่า “ขอโทษ” จากผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนหญิง สน.ทุ่งมหาเมฆ จึงออกหมายเรียกผู้ต้องหาคนดังกล่าว และแจ้งผ่านเอเจ้นท์ที่ผู้ต้องหาเช่าห้องอยู่ เพื่อให้มีชี้แจงและไกล่เกลี่ยให้ผู้ต้องหามาขอโทษเธอ ตามที่เธอต้องการ แต่ผู้ต้องหาไม่มา กลับบอกผ่านเอเจ้นท์ว่า “ตนเองไม่ได้ตีแรง และเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง ตอนไปเที่ยวสถานบันเทิง ไม่เห็นจะมีใครว่าอะไร และคิดว่าตนเองไม่ได้กระทำความผิด การกระทำแค่นี้กฎหมายไม่สามารถเอาผิดอะไรได้ เดี๋ยวตนเองก็บินกลับต่างประเทศแล้ว” ด้วยคำพูดของผู้ต้องหาที่ไม่ได้สำนึกกับการทำผิด คิดว่าจะทำแบบนี้กับใครก็ได้ ประกอบกับความอับอายที่เธอรู้สึก จึงแจ้งความประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนหญิง สน.ทุ่งมหาเมฆ

หลังถูกจับกุม ผู้ต้องหาไม่ขอให้การเกี่ยวกับคดี แต่ยอมรับว่าบุคคลตามภาพกล้องวงจรปิดในร้าน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูเป็นตนเองที่เดินไปตีก้นผู้หญิงตามภาพจริง เคยตีก้นลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งตามสถานบันเทิง แต่ครั้งนี้ที่ไม่ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียกเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย และไม่ผิดกฎหมาย

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม