หน้าแรก > อาชญากรรม

บช.น.แถลงปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดในห้วงระหว่างวันที่ 10 – 17 ม.ค.68 ปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติด 215 เป้าหมาย ตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 11 ล้าน

วันที่ 17 มกราคม 2568 เวลา 11:55 น.


เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รรท.รอง ผบช.น. ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ปปส.กทม.) ร่วมกันแถลงปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดในห้วงระหว่างวันที่ 10 – 17 ม.ค.68 ปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติด 215 เป้าหมาย เครือข่ายยาเสพติดที่เข้าดำเนินการปราบปราม 71 เครือข่าย จับกุมรวมทุกข้อหา 277 คดี จับกุมตามหมายจับ 57 คดี จับกุมข้อหาร้ายแรง 127 คดีสมคบ,สนับสนุนฯ 2 คดี จำหน่ายฯ 35 คดี ครอบครองฯ 90 คดี จับกุมข้อหาไม่ร้ายแรง 150 คดี ครอบครองเพื่อเสพ 131 คดี เสพ 19 คดี ตรวจยึดของกลางยาบ้า 9,098 เม็ด ไอซ์ 197 กิโลกรัม ยาอี 130 เม็ด เฮโรอีน 1.3 กิโลกรัม ตรวจยึดทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมูลค่า 11,231,199 บาท

พล.ต.ท.สยาม เปิดเผยว่า ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.ในฐานะผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะรอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะรอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะรองผอ.ศอ.ปส.ตร. จึงกำหนดให้เปิดปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติดพร้อมกันทั่วประเทศ โดยให้ทุกหน่วยดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายผู้ถูกซัดทอดตามข้อมูลการซักถามขยายผลยาเสพติด ในระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเป้าหมายสำคัญแรก และดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดอื่นดำเนินการสืบสวนอยู่เพื่อปราบปรามเครือข่ายผู้ค้ารายย่อยและรายใหญ่ในพื้นที่ไปพร้อมกัน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วน และจัดการปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดใน ขยายผลยึด และอายัดทรัพย์สิน การนำผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาและการดำเนินการต่อเบาะแสร้องเรียนยาเสพติด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความพึงพอใจของประชาชน

โดยคดีสำคัญ พ.ต.อ.เจษฎา สวยสม รรท.ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รองผบก.น.2 พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.2 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบด้วย พ.ต.ท.เข็มกล้า มั่นพลับ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางเขน พ.ต.ท.ประเทือง อ้นทอง สว.(สอบสวน) สน.บางเขน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายณรงค์ หรือปู  อายุ 38 ปี พร้อมของกลาง ยาไอซ์ รวมน้ำหนักยาไอซ์ ทั้งหมดประมาณ 109.12 กิโลกรัม ยาบ้าเม็ดสีแดง 30 เม็ด ถุงพลาสติกใสแบบปากถุงเลื่อนเปิด-กดปิด 1 แพ็ค หลอดพลาสติกสีแดง ตัดเป็นรูปปากฉลาม 1 อัน สำหรับตักยาไอซ์ เครื่องชั่งน้ำหนักสีส้มขนาดใหญ่ 1 เครื่อง เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลสีเงิน 1 เครื่อง อุปกรณ์การเสพยาไอซ์ กระสอบเปล่า สีรุ้ง 1 ใบ อาวุธปืนสั้น แบบไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 มม. พร้อมแม็กกาซีน 1 กระบอก อาวุธปืนสั้น ลูกโม่ ยี่ห้อ COLT ขนาด .32 1 กระบอก ลูกกระสุนปืนขนาด .38 33 นัด ลูกกระสุนปืนขนาด .32 28 นัด ลูกกระสุนปืนขนาด .380 35 นัด โทรศัพท์มือถือ 1ทเครื่อง รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน สีเทา คันหมายเลขทะเบียน 5 ขว 79XX กรุงเทพมหานคร 1 คัน ตรวจยึดทรัพย์สิน รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส 1 คัน  รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน

พ.ต.อ.อัครพล กล่าวว่า ก่อนการจับกุมใคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.2 ได้ทำการสืบสวน และขยายผลผู้ค้ายาเสพติด จากเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในเขตพื้นที่เตาปูน จนสามารถสืบสวนพิสูจน์ทราบว่า “นายณรงค์ หรือปู” มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและเก็บซุกซ่อนยาเสพติดไว้ภายในห้องพักเพื่อรอส่งให้กับลูกค้า จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมาวันที่ 16 ม.ค. 2568 ได้ยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาลอาญา เพื่อเข้าทำการตรวจค้นห้องพักภายในแมนชั่น แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ศาลอนุญาตให้ตรวจค้นทำการตรวจค้น เมื่อไปถึงพบ นายณรงค์ หรือปู จึงได้แสดงหมายค้น ผลการตรวจค้นพบยาไอซ์ จำนวน 1 ถุงเล็ก พบยาบ้าจำนวน 30 เม็ด พบอาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 มม.จำนวน 1 กระบอก พบอาวุธปืนลูกโม่ ยี่ห้อ COLT ขนาด.32 จำนวน 1 กระบอก และพบลูกกระสุนปืน จำนวน 96 นัด นอกจากนั้นยังได้นำตัวมาตรวจค้นรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน 5 ขว 79XX กรุงเทพฯ ซึ่งจอดอยู่ลานจอดรถใต้อาคาร พบยาไอซ์ อยู่ในกระสอบสีรุ้ง จำนวน 4 กระสอบ มียาไอซ์ จำนวน 105 กิโลกรัม อยู่ฝากระโปรงท้ายรถ จากการขยายผล ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายณรงค์ฯ มีหน้าที่ไปรับยาเสพติดตามจุดต่างๆ แล้วนำมาพักคอย เพื่อส่งให้กับลูกค้าตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง โดยได้รับเงินค่าจ้าง กิโลกรัมละ 1,000 บาท และรับว่าทำมาแล้วหลายครั้ง ยาเสพติดที่ถูกจับก่อนหน้าเมื่อ 2-3 วันที่แล้วนั้น ได้ไปรับมาจากเขต จ.สุพรรณบุรี จำนวน 6 กระสอบ (ประมาณกระสอบละ 25 กก. รวมประมาณ 150 กก.) และได้ส่งให้กับลูกค้าไปก่อนหน้านี้แล้วบางส่วน คงเหลือยาเสพติดอยู่เท่าที่ถูกจับกุม

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า ก่อนหน้านี้เคยรับการส่งยาเสพติดกับเพื่อน ปี 67 เพื่อนถูกจับกุม ตนขายสัตว์เลี้ยงสวยงามมีรายได้ 2-3 หมื่น แต่นายจ้างส่งยาดำเนินการส่งยาเสพติดค่อเนื่อง เข้ามาอยู่ในวงจรค้าขายปลายเดือนธ.ค. อยู่ในเขตต่างจังหวัดปริมณฑลเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ได้ค่าจ้างกิโลกรัมละ 1,000 บาท ขยายผลตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องการกระทำผิด เบื้องต้นข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์, ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจ่ายในกลุ่มประชาชน, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งสน.เตาปูน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านพ.ต.อ.นริศ กล่าว่า คดีดังกล่าวขยายผลการตรวจยึดทรัพย์จากผู้พักอาศัยภายในบ้านนำการตรวจค้นจากดารจับกุมยาเสพติด 15 ล้านเม็ด เมื่อปลายเดือนธ.ค.67 ที่ผ่านมา จากการผลการตรวจค้น  ไม่พบยาเสพติดหรือ สิ่งผิดกฎหมาย และได้ตรวจยึดสิ่งทรัพย์สินจำนวน 6 รายการ ประกอบด้วย สมุดเงินฝากบัญชีธนาคารกสิกร สมุดเงินฝากบัญชีธนาคาร อาคารสงเคราะห์ รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน อทน 98X กทม. ราคาประมาณ 50,000 บาท รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 4กฆ 73XX กทม. ราคาประมาณ 40,000 บาท รถยนต์ toyota vios หมายเลขทะเบียน กม 13XX พระนครศรีอยุธยา ราคาประมาณ 400,000 บาท ที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง มูลค่าประมาณ 2,000,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึด ประมาณ 2,490,000 บาท ก่อนนำส่ง ป.ป.ส. ภาค 1 ต่อไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม