หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 19 มกราคม 2568

วันที่ 20 มกราคม 2568 เวลา 05:49 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 19 มกราคม 2568

>> เพลิงไหม้บ้านไฟคลอกผู้ป่วยติดเตียงดับย่านหนองจอก

08.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลำผักชี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้มีผู้เสียชีวิต บริเวณชั้นล่างบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 2 แขวงลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.ลำผักชี พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ออกไปตรวจที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ด้านล่างพบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายจำลอง อายุ 77 ปี เสียชีวิตนอนอยู่ในสภาพถูกไฟคลอกเผาร่างกายจนกลายเป็นสีดำอยู่บนเตียงนอน

จากการสอบปากคำหลานผู้เสียชีวิต ผู้พบศพคนแรกแจ้งว่า ผู้ตายป่วยเป็นผู้ป่วยติดเตียง คาดว่าน่าจะจุดยากันยุงขดแล้ววางไว้ใกล้มุ้งแล้วเปิดพัดลมไว้ ทำให้มุ้งปลิวไปติดกับยากันยุงทำให้เกิดไฟไหม้ดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งกองพิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจที่เกิดเหตุ ส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป

>> แตกตื่น! พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกในบ้านซอยศรีบูรพา 4

09.40 น. พ.ต.ต.ศักรินทร์ นวลศรี สว.(สอบสวน) สน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยศรีบูรพา 4 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สน.ลาดพร้าว สั่งการให้สายตรวจ สน.ลาดพร้าว ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอีโอดี ร่วมบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจสอบเป็นบ้านร้างไม่มีผู้พักอาศัย เจ้าของใหม่อยู่ระหว่างทำการรีโนเวท

จากการสอบถามพบพยานช่างรับเหมาในที่เกิดเหตุให้ข้อมูลว่า ได้รับงานจากเจ้าของใหม่ให้มาทำความสะอาดบ้าน พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดวางอยู่ภายในบริเวณบ้าน จึงได้นำออกมาไว้ข้างนอก เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบวัตถุคล้ายระเบิดมือชนิดลูกเกลี้ยง 3 ลูก จึงได้เเจ้งผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เเละเเจ้งเจ้าหน้าที่ EOD มาตรวจสอบดำเนินการเก็บกู้แบ้ว จากการตรวจสอบพร้อมใช้งาน 1 ไม่พร้อมใช้ 2 ลูก

ด้านพ.ต.อ.ธนาพันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบกรณีดังกล่าวพบว่าเป็นระเบิดจริง ขั้นตอนต่อไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีโอดีนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อเร่งตรวจสอบระเบิดดังกล่าวว่ามีดีเอ็นเอของคนที่ครอบครองไว้หรือไม่ เนื่องจากมีการให้ข้อมูลว่าบ้านดังกล่าวเป็นบ้านร้าง อาจจะมีคนเข้าออกที่ไม่ทราบว่าใครมาซุกซ่อนระเบิดดังกล่าว หากตรวจสอบแล้วไม่พบผู้เป็นเจ้าของจะดำเนินการประสานตำรวจอีโอดีทำลายวัตถุระเบิดดังกล่าวที่ยังใช้ได้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อไป

>> เจ้าหน้าที่ช่วย "สีดอแสบ" ช้างป่าขึ้นจากสระน้ำได้แล้ว ล่าสุดเหยียบชาวบ้านบาดเจ็บ 1 ราย

11.30 น. จากกรณีชาวบ้านพบช้างป่า 3 ตัวลงเล่นในสระน้ำสวนมังคุด ม.4 บ้านเสือดาว ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด เมื่อคืนวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา โดยช้าง 2 ตัวขึ้นจากสระน้ำได้ แต่ช้างสีดอ เจ้าแสบขึ้นจากสระไม่ได้ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่อุทยานน้ำตกคลองแก้วชุดเฝ้าระวังช้าง อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว จึงนำรถแบ็คโฮเพื่อมาช่วยจนช้างสามารถขึ้นมาจากสระได้ โดยช้างสีดอมีอาการตื่นกลัว และเดินเข้าป่าไปทางบริเวณด้านหลังของวัดเสือดาว ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด ท่ามกลางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และชาวบ้าน ต่างหนีออกห่างจากช้างสีดอ เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายนั้น

มีรายงานว่า ช้างสีดอ เจ้าแสบ ที่เดินหนีเข้าไปที่เขาปอ ระหว่างทางพบชาวบ้าน 1 รายถูกทำร้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ช้ำตามลำตัว หายใจไม่ออก และมีขาขวาหักผิดรูป โดยห่างจากสระน้ำประมาณ 1 กม. โดยนายบุญมั่น ไชยวงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ได้รับแจ้งจึงเดินทางเข้าไปช่วยเหลือ พบนายอนันต์ อายุ 54 ปี ผู้บาดเจ็บ จึงเร่งนำส่งโรงพยาบาล

นายวิวัฒน์ เล็กวงษ์ หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วกลุ่มติดตามช้างป่า อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว และชุดเฝ้าระวังช้าง เปิดเผยว่า ระหว่างกำลังจะเดินทางกลับอุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้วได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บจากช้างสีดอ เจ้าแสบ ได้ทำร้ายชาวบ้านเนื่องจากภรรยาของผู้ได้รับบาดเจ็บได้เห็นช้างสีดอผ่านเข้ามาในสวนยางพาราเกรงว่าจะเข้ามาทำลายพืชไร่จึงให้สามีไปจุดประทัดไล่ช้าง (ลูกปิงปองไล่ช้าง) แต่ช้างเมื่อเห็นจึงวิ่งเข้าทำร้ายจนสามีได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ขณะที่นายบำเพ็ญ พฤกษากิจ อดีตกำนันตำบลสะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด เปิดเผยว่า ช้างป่าที่ทำร้ายคนครั้งนี้ เพราะกลัวและตกใจ จึงเข้าทำร้ายคนอย่างกรณีนี้ และช้างตัวนี้ที่กำลังตกใจและมีอาการหงุดหงิด เนื่องจากเพิ่งออกจากสระน้ำ ประชาชนควรจะระวัง ซึ่งขณะนี้ได้เร่งให้ทางเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามและผลักดันให้ออกจากพื้นที่ของประชาชนโดยเร่งด่วน

>> ดส.จับสาวรับทำวีซ่าก่อนจะเชิดเงินหนึ มีหมายจับคดีฉ้อโกง 10 หมายจับ มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท

12.30 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ร่วมกันจับกุม น.ส.สร (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 10 หมายจับ จับกุมได้บริเวณปากซอยพุทธบูชา 7 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 18 ม.ค. เวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก น.ส.สร (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ได้เปิดบริษัทรับจัดทำวีซ่า โดยมีที่ทำการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 13 ซึ่งมีลูกค้าได้ว่าจ้างให้ น.ส.สร (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ดำเนินการจัดทำวีซ่า จองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก แต่ปรากฏว่ามีลูกค้าจำนวนหลายรายที่ว่าจ้างและชำระเงินค่าจ้างไปเรียบร้อยแล้วไม่ได้รับงานตามที่ว่าจ้าง น.ส.สร (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ได้ทำการบ่ายเบี่ยงเรื่องงานว่าติดขัดปัญหา และสำหรับบางรายจะทำการคืนเงินให้ แต่ปรากฏว่าก็ไม่ได้คืนเงินให้กับผู้ว่าจ้าง ผู้เสียหายประมาณ 20 กว่าราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท

ต่อมา ชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.ดส. ได้ทำการสืบทราบว่า น.ส.สร (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี เดินทางมาบริเวณปากซอยพุทธบูชา 7 จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ดังกล่าว

>>รถกระบะชนท้ายรถบรรทุกพ่วง ดับ 3 เจ็บ 2 คาดหลับใน

13.00 น. ร.ต.ท.หญิง จิตติณัฐ สีตลพฤกษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกอ้อย มีผู้บาดเจ็บหลายราย ตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกำแพงเพชร ที่เกิดเหตุบนถนนสายขาณุวรลักษบุรี (ป่าพุทรา) - บึงสามัคคี (ทุ่งสนุ่น) ต.ป่าพุทรา อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พบรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุดีแมคซ์ 4 ประตู (สีเทา) ป้ายทะเบียน กำแพงเพชร ชนท้ายพ่วง รถบรรทุก 18 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ (สีขาว) ป้ายทะเบียน กำแพงเพชร สภาพรถกระบะพังเสียหายทั้งคัน

มีรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย และผู้บาดเจ็บ 2 ราย 1. นายเสริมฤทธิ์ อายุ 31 ปี (คนขับบาดเจ็บ) 2. น.ส.อักษรสวรรค์ ภรรยา อายุ 29 ปี (เสียชีวิต) 3. ด.ญ.นันริณี อายุ 1 ปี 8 เดือน (เสียชีวิต) 4. ด.ญ.นันท์นภัส อายุ 7 ปี นั่งหลังคนขับ ได้รับบาดเจ็บที่แขนและขาเล็กน้อย และ 5. ด.ช.ธนกฤต อายุ 9 ปี หลานชาย (เสียชีวิต)

ขณะที่ญาติเดินทางมายังจุดเกิดเหตุต่างร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์สลดครั้งนี้ และให้ข้อมูลว่าทั้งหมดได้เดินทางไปเที่ยวที่บึงสีไฟ ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร และขากลับอีกเพียง 5 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านในพื้นที่ ต.ยางสูง อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร แต่มาเกิดอุบัติเหตุสลดดังกล่าวก่อน

>> ไล่สกัดจับแก๊งขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง

13.35 น. กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) จับกุมนายออย (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี (ผู้ขับขี่) และผู้ต้องหา สัญชาติเมียนมา จำนวน 12 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง รถกระบะ ยี่ห้อ TOYOTA สีเทา 1 คัน

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล. ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ออกตรวจเส้นทาง ทล.11 กม.131 พบ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อTOYOTA สีเทา ขับขี่มาและสังเกตเห็นว่ามีน้ำหนักที่รถมากกว่ารถยนต์ปกติ มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมาย

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเรียกให้รถยนต์คันดังกล่าวหยุด เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวหยุด จากการตรวจสอบพบนายออย (แสดงตนเป็นผู้ขับขี่) แสดงท่าทางมีพิรุธ และมีการใช้โทรศัพท์ตลอดเวลาและมีบุคคลจำนวน 12 คน จากการสอบถามนายออย ให้การยอมรับว่าตนได้ขับขี่รถยนต์กระบะ โดยได้ขับขี่มารับตัวทั้งหมดมาจาก จ.ลำปางและจะนำไปส่งที่ จ.สระบุรี โดยกระทำแบบนี้เป็นครั้งที่สอง ได้ค่าจ้างจำนวน 3000บาท/ครั้ง และทราบดีอยู่แล้วว่าผู้โดยสารมาทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทับคล้อ ภ.จว.พิจิตร ดำเนินการตามกฎหมาย

>> จนท.ระดมกำลังทุกภาคส่วนปฏิบัติการดับไฟป่าเขากระทิง อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ สามารถควบคมไฟป่าได้แล้ว

14.00 น. นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มอบหมายให้ นายอนุศักดิ์ พิริยอมร นายอำเภอสัตหีบ บัญชาการเหตุการณ์เพลิงไหม้ป่าบริเวณเขากระทิง ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ โดยเหตุการณ์เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2568 และสิ้นสุดในวันที่ 19 มกราคม 2568 หลังการปฏิบัติการดับเพลิงประสบผลสำเร็จ และสามารถปิดสถานการณ์ได้เรียบร้อยแล้ว

การปฏิบัติการครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน รวมถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฐานทัพเรือสัตหีบ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ป่าไม้บ่อทอง เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว และเทศบาลเมืองสัตหีบ โดยมีการใช้เฮลิคอปเตอร์ดับไฟจากทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และฐานทัพเรือสัตหีบ ช่วยระงับเหตุอย่างเต็มกำลัง

เจ้าหน้าที่ระบุว่าเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ป่าบริเวณเขากระทิงในวงกว้าง แต่ความร่วมมือจากทุกฝ่ายช่วยลดความรุนแรงของสถานการณ์และควบคุมเพลิงได้อย่างรวดเร็ว

>> ดาราจีน ขอบคุณตำรวจไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยให้รอดพ้นจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนสามารถกลับประเทศได้อย่างปลอดภัย

15.30 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์แสดงความขอบคุณรัฐบาลไทย หลังทำการช่วยเหลือ “ซิงซิง” นักแสดงชายชาวจีน ผ่านทางเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย

โดยระบุว่า สถานทูตจีนและสถานกงสุลใหญ่จีนประจำประเทศไทยขอขอบคุณรัฐบาลไทยและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สำหรับความพยายามและการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือครั้งนี้ รวมทั้ง ซิง ซิง ได้แสดงความขอบคุณตำรวจไทย คนไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การช่วยเหลือจนสามารถกลับประเทศได้

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ยืนยันว่าประเทศไทยไม่เคยมีการบังคับขู่เข็ญ หรือหลอกลวงให้ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศไทยไม่ได้เป็นแหล่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และไม่มีการหลอกลวงชาวต่างชาติมาทำงานผิดกฎหมายอย่างแน่นอน

>> เพลิงไหม้ชุมชนบ้านไม้ ย่านถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน

20.13 น. รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุพระราม 199 ได้รายงานว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน เหตุเกิดเป็นชุมชนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน ถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ซึ่งภายหลังทางเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ ได้รุดเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ

จากการตรวจสอบลักษณะที่เกิดเหตุเป็นชุมชนบ้านไม้ ปลูกติดกันหลายหลัง โดยเพลิงกำลังลุกไหม้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการใช้น้ำ เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยธนบุรี,บางอ้อ,บวรมงคล ร่วมสนับสนุนที่เกิดเหตุ

เวลา 20.37 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ เพลิงสงบ โดยลักษณะที่เกิดเหตุเป็นเพิงพักชั้นเดียว หลังคามุงสังกะสี ปลูกติดกันประมาณ 15 ห้อง เสียหายทั้งหมด ตรวจสอบแล้วไม่พบผู้ติดค้าง และผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตและค่าเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม 
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม