หน้าแรก > อาชญากรรม

ร้องกองปราบ ถูกมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ ปลอมแปลงบัตรประชาชนผูกบัตรเครดิตออนไลน์ สูญเงินเกือบ 7 หมื่นบาท

วันที่ 20 มกราคม 2568 เวลา 12:01 น.


เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (20 ม.ค.68) นายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานเครือข่ายมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พานาย กิตติณัฐ อายุ 37 ปี พนักงานบริษัทสำรวจน้ำมัน นำหลักฐานเข้าแจ้งความ หลังถูกมิจฉาชีพที่อาศัยอยู่ จ.กระบี่ สวมรอยทำเอกสารบัตรประชาชนปลอมไปขอออกซิมมือถือใหม่ และโทรไปขอเปิดใช้บัตรเครดิตสูญเงินไปเกือบ 70,000 บาท

โดยนายกิตติณัฐ เล่าว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 68 สัญญาณโทรศัพท์มือถือของตนเองถูกตัด จึงมีการติดต่อไปยังเครือข่ายมือถือ ซึ่งทางเครือข่ายก็แจ้งว่าไม่ได้มีการตัดสัญญาณให้ตรวจสอบอีกครั้ง กระทั่งตนพบว่ามีการใช้จ่ายบัตรเครดิตของตนผ่านทางออนไลน์ 3 ครั้ง ในวันเดียวกันโดยใช้เวลา ไม่ถึง 10 นาที รวมเป็นจำนวนเงินเกือบ 70,000 บาท ซึ่งบัตรเครดิตตัวนี้เป็นบัตรเสริม ที่ไว้ใช้จ่ายออนไลน์เท่านั้นไม่ได้มีการออกเป็นบัตรจริง โดยมิจฉาชีพใช้จ่ายบัตรดังกล่าวเต็มวงเงิน จึงมีการพยายามเข้าแอพพลิเคชั่นบัตรเครดิตอีกหนึ่งใบ

ต่อมา ตนติดต่อไปยังเครือข่ายมือถืออีกครั้ง จนทราบว่าหมายเลขโทรศัพท์ของตนมีการแจ้งขอเปลี่ยนซิมเบอร์เดิม ที่สาขาในจ.กระบี่ ตนจึงได้มีการติดต่อไปยังสาขาดังกล่าว และทราบว่ามีหญิงและชายคู่หนึ่ง เดินทางมาแจ้งกับพนักงานสาขาว่าซิมหาย จึงขอเปลี่ยนซิมเบอร์เดิม โดยใช้หลักฐานเป็นภาพถ่ายบัตรประชาชนที่ปลอมโดยใส่ข้อมูลชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน รวมไปถึงวันเกิด ที่เป็นข้อมูลจริง ส่วนรูปภาพเป็นภาพของมิจฉาชีพ และรายละเอียดอื่นๆนั้นไม่ตรงกับของตน โดยพนักงานอ้างว่าที่อนุมัติให้ซิมใหม่ เนื่องจากพบว่ารูปบัตรประชาชนตรงกับตัวคนที่มาขอเปลี่ยนซิม ทางมิจฉาชีพจึงนำเบอร์ของตนไปเข้าระบบการใช้จ่ายออนไลน์ที่มีการผูกบัตรเครดิตออนไลน์ของตนไว้ได้ ตนจึงทำการอายัดซิมและโทรอายัดบัตรเครดิตทั้งหมด ส่วนข้อมูลของตนนั้น ก็ไม่ทราบว่ารั่วไหลได้อย่างไร

ทั้งนี้ ได้เข้าแจ้งความที่สน.ทุ่งสองห้อง ซึ่งพนักงานสอบสวน แจ้งว่า อำนาจการสืบสวนสอบสวนอยู่ที่จ.กระบี่ และไม่รับเรื่องไว้ ตนจึงมีการติดต่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้รับคำแนะนำว่าสามารถแจ้งความได้ทุกพื้นที่ ทางสน.ทุ่งสองห้อง ถึงได้รับแจ้ง

ทั้งนี้ ตนได้การประสานไปยังที่สภ.กระบี่แล้ว แต่ทางพนักงานสอบสวน สภ.กระบี่ แจ้งว่าตนต้องเดินทางไปยังพื้นที่ เพื่อทำการแจ้งความ ตนจึงเดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ทางพนักงานสอบสวน ช่วยเร่งรัดดำเนินคดีให้ เพราะมองว่าอำนาจการสอบสวนได้ครอบคลุม เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. รับแจ้งสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม