วันที่ 22 มกราคม 2568 เวลา 13:50 น.
ปภ. มุ่งขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการของขวัญปีใหม่มหาดไทยให้ประชาชน ปี 2568 “มหาดไทยเติมน้ำ เติมสุข บำบัดทุกข์ คลายแล้ง” – “มหาดไทย อุ่นใจ สวมหมวกนิรภัย ปลอดภัยทุกคน”
22 ม.ค. 68 - กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มุ่งขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการของขวัญปีใหม่มหาดไทยให้ประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยในปีนี้กระทรวงมหาดไทยได้คัดเลือกโครงการของ ปภ. จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ “มหาดไทยเติมน้ำ เติมสุข บำบัดทุกข์ คลายแล้ง” และ “มหาดไทย อุ่นใจ สวมหมวกนิรภัย ปลอดภัยทุกคน” เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่พี่น้องประชาชน ตามแนวทางของกระทรวงมหาดไทยที่มุ่ง “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” รวมถึงสร้างประเทศไทยให้มีความพร้อมในการเผชิญสาธารณภัย มีศักยภาพในการจัดการสาธารณภัย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการสร้างประเทศไทยให้มีความมั่นคงอย่างปลอดภัยและยั่งยืน
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงเริ่มต้นปี พุทธศักราชใหม่ รัฐบาลโดยส่วนราชการ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจได้ร่วมกันขับเคลื่อนมาตรการ/โครงการ/กิจกรรมสำคัญต่าง ๆ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คนไทยทั่วประเทศ กระทรวงมหาดไทยก็เช่นเดียวกันได้มีการคัดเลือกมาตรการ/โครงการ/กิจกรรมเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยโครงการที่ผ่านการคัดเลือกจะเป็นโครงการที่สอดคล้องกับภารกิจหลักของกระทรวงมหาดไทยที่เน้นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ของประชาชน โดยมุ่งหวังให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตามแนวทางของกระทรวงมหาดไทยที่มุ่ง “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” แก่ประชาชนมาโดยตลอด โดยในปี พ.ศ. 2568 นี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาสาธารณภัย ได้เสนอโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการมหาดไทย เติมน้ำ เติมสุข บำบัดทุกข์ คลายแล้ง และโครงการมหาดไทย อุ่นใจ สวมหมวกนิรภัย ปลอดภัยทุกคน
โดยโครงการมหาดไทย เติมน้ำ เติมสุข บำบัดทุกข์ คลายแล้ง เป็นโครงการที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภค - บริโภคในช่วงฤดูแล้ง โดยการสูบน้ำเข้าไปกักเก็บตามแหล่งน้ำต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภค – บริโภคอย่างเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง ดำเนินการโดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 – 18 ที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะทำการสำรวจ ประเมินสภาพพื้นที่ และกำหนดพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดที่รับผิดชอบ พร้อมวางแผนสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย โดยเฉพาะเครื่องสูบน้ำขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล อัตราการสูบ 28,000 ลิตร/นาที รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกลและรถสูงส่งน้ำ ไม่น้อยกว่า 35,000 ลิตร/นาที และส่งน้ำระยะไกลไม่น้อยกว่า 10 กิโลเมตร พร้อมอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนพื้นที่ขาดแคลนน้ำ โดยการสูบน้ำจากลำน้ำหรือแหล่งน้ำที่ยังมีปริมาณน้ำมาก ส่งไปกักเก็บในแหล่งน้ำที่มีปริมาณน้ำเหลือน้อยหรือขาดแคลนน้ำ เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ซึ่ง ปภ. ได้ดำเนินการโครงการนี้มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 และจะดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2568
สำหรับอีก 1 โครงการของ ปภ. คือ โครงการมหาดไทย อุ่นใจ สวมหมวกนิรภัย ปลอดภัยทุกคน ซึ่งเป็นโครงการที่ ปภ. ได้รับการสนับสนุนหมวกนิรภัยจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย จำนวน 200 ใบ และได้ทำการส่งมอบหมวกนิรภัยให้กับกระทรวงมหาดไทยนำไปมอบให้กับประชาชนผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการบาดเจ็บสาหัสที่ศรีษะกรณีประสบอุบัติเหตุ และประชาชนมีหมวกนิรภัยที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานไว้ใช้สวมใส่ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่งผลให้เพิ่มความปลอดภัยกับประชาชนในการเดินทาง โดยโครงการนี้ ปภ. ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 หรือตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2567 - มกราคม 2568 ที่ผ่านมา
“ของขวัญปีใหม่ภายใต้มาตรการ/โครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงายในสังกัดกระทรวงมหาดไทยได้มอบเป็นของขวัญปีใหม่แก่คนไทยดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่พี่น้องประชาชน ตามแนวทางของกระทรวงมหาดไทยที่มุ่ง “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชนด้วยดีมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม การทำงานของ ปภ. ในการบริหารจัดการสาธารณภัยยังมีอีกหลากหลายโครงการ/กิจกรรมที่ ปภ. ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นตลอดทั้งปี ตามภารกิจในการป้องกันและการบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ ด้วยการทำงานแบบเชิงรุก ควบคู่ไปกับการประสานงานร่วมกันทั้งส่วนกลาง ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานภาคีเครือข่ายอย่างเข้มแข็ง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และสามารถดูแลประชาชนที่ประสบภัยได้อย่างดีที่สุด เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่มอบให้ทุกหน่วยงานนำไปปฏิบัติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยในการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่ประชาชน และสร้างสังคมไทยให้มีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการเผชิญเหตุสาธารณภัย มีศักยภาพในการจัดการสาธารณภัยทุกรูปแบบ และบรรลุเป้าหมายในการสร้างประเทศไทยให้มีความมั่นคงอย่างปลอดภัยและยั่งยืน” นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าว