วันที่ 25 มกราคม 2568 เวลา 10:56 น.
บีบีซี รายงานว่า ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ศาลในประเทศจีนพิพากษาโทษประหารชีวิต นายโจว เจียเฉิง อายุ 52 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีใช้อาวุธมีดโจมตีแม่ลูกชาวญี่ปุ่นบริเวณด้านนอกโรงเรียนในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน และสังหารหญิงชาวจีนซึ่งเป็นพนักงานบนรถโรงเรียนที่เข้าช่วยเหลือสองแม่ลูก เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2567
โดยนายโจวให้การรับสารภาพ พร้อมระบุถึงแรงจูงใจว่าเพราะหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตหลังตกงานและเป็นหนี้ คดีดังกล่าวเป็น 1 ใน 3 กรณีโจมตีชาวต่างชาติในจีนเมื่อปีที่ผ่านมา และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นายโยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น กล่าวกับสื่อมวลชนว่าศาลตัดสินว่าการโจมตีดังกล่าวเป็น “การฆาตกรรมโดยเจตนา” และลงโทษขั้นเด็ดขาดเนื่องจากเป็นอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบทางสังคมอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ศาลไม่ได้กล่าวถึงญี่ปุ่นในระหว่างพิจารณาคดี
นายฮายาชิเสริมด้วยว่าเจ้าหน้าที่จากสถานกงสุลญี่ปุ่นในนครเซี่ยงไฮ้เข้าร่วมการพิพากษา และย้ำว่าคดีซึ่งทำให้ “ผู้บริสุทธิ์” เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บนี้ไม่สามารถให้อภัยได้อย่างสิ้นเชิง พร้อมกล่าวยกย่องน.ส.หู โหยวผิง พนักงานบนรถโรงเรียนที่เสียชีวิตจากการช่วยเหลือเหยื่อทั้งสองราย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 ม.ค. นายเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แสดงความคิดเห็นขณะแถลงข่าวประจำวันว่าคดีนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา และกำชับว่ารัฐบาลจีนจะดำเนินการเพื่อปกป้องความปลอดภัยของชาวต่างชาติในประเทศ
จีนเผชิญกับปัญหาความรุนแรงในที่สาธารณะเพิ่มขึ้น โดยผู้ก่อเหตุหลายคนให้การว่ามีสาเหตุมาจากความต้องการ “แก้แค้นสังคม” จึงใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นเพื่อระบายความคับข้องใจ เมื่อปีที่แล้วมีเหตุโจมตีผู้คนที่สัญจรไปมาหรือโจมตีคนแปลกหน้ามากถึง 19 ครั้ง เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีก่อนหน้านั้นซึ่งมีตัวเลขเพียงหลักเดียว
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ทางการจีนประหารชีวิตชายผู้ต้องหาในคดีขับรถพุ่งชนกลุ่มคนที่กำลังออกกำลังกายบริเวณศูนย์กีฬาเมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง เมื่อเดือนพ.ย.2567 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 35 ราย และบาดเจ็บกว่า 40 ราย
ส่วนในเดือนธ.ค.2567 ชายวัย 21 ปี ผู้ต้องหาสังหาร 8 ศพในเหตุการณ์แทงที่โรงเรียนอาชีวศึกษาในเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู เมื่อเดือนพ.ย.2567 ถูกตัดสินประหารชีวิตเช่นกัน
ขอบคุณ BBC