25 ม.ค. 2568 จากสถานการณ์ฝุ่น ที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างหนัก โดยเฉพาะกับ พื้นที่กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล  รวมถึงจังหวัดต่างๆ ซึ่งฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวัน ทำให้คนบางกลุ่มต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะด้านสุขภาพ

ล่าสุุด สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกใช้หน้ากากอนามัย ในภาวะที่ค่าฝุ่นสูงแบบนี้ หน้ากากแบบไหนที่สามารถป้องกันฝุ่นได้มีประสิทธิภาพที่สุด แบ่งได้ดังนี้

1. หน้ากาก N95 สามารถป้องกันฝุ่นได้ถึง 97.2 %

2. หน้ากากอนามัย (SURGICAL MASK) สามารถป้องกันฝุ่นได้ถึง 56.3 - 83.2  %

3. หน้ากากผ้าฝ้าย สามารถป้องกันฝุ่นได้ถึง 40.9 - 42.4 %

4. หน้ากากผ้ามัสลิน สามารถป้องกันฝุ่นได้ถึง 37.8 %

5. หน้ากากฟองน้ำ สามารถป้องกันฝุ่นได้ถึง 33.5 %

ทั้งนี้ ควรเลือกหน้ากากให้เหมาะสม สวมกระชับกับใบหน้า ช่วยลดปัญหาฝุ่นจิ๋วได้ พักผ่อนให้เพียงพอ นอกจากนี้ ควรทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำให้มากๆ รับประทานผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ หลีกเลี่ยงการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หากเป็นวันที่ค่าของฝุ่น pm 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ให้พิจารณามาออกกำลังกายภายในอาคารแทน ปิดประตูหน้าต่างให้สนิทป้องกันการเล็ดลอดของฝุ่นเข้ามาในอาคาร ในผู้ป่วยกลุ่มโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ และหอบหืด ควรใช้ยาสูดทางปาก และยาพ่นจมูกต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ พิจารณาการล้างจมูกอาจช่วยลดทั้งฝุ่น pm 2.5 ในทางเดินหายใจส่วนบน และสารก่อภูมิแพ้ได้