หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 26 มกราคม 2568

วันที่ 27 มกราคม 2568 เวลา 05:39 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 26 มกราคม 2568

>> พบแล้ว "น้องอั่งเปา" หายจากบ้านที่ปทุมฯ คนเจออยู่นนทบุรี

10.00 น. จากกรณีครอบครัวประกาศตามหา "น้องอั่งเปา" เด็กชายวัย 8 ขวบ หลังหายตัวไปกับคนเร่ร่อน หวั่นไม่ปลอดภัย พบเบาะแสสุดท้ายแถววัดดาวเรือง จ.ปทุมธานี วอนใครพบเห็นให้รีบแจ้งด่วน

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 26 ม.ค. 68 "ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา" ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแจ้งว่า พบตัวน้องอั่งเปา เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่หายตัวไปจากบ้านที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แล้ว

โดยได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ว่ามีพลเมืองดีพบตัวเด็กและบุคคลที่พาเด็กไป ในพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงได้ประสานตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ไปรับตัว เบื้องต้นเด็กปลอดภัย และทางตำรวจจะได้ดำเนินการสอบสวนผู้พาเด็กไป และนำเด็กเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่พ่อของเด็กเดินทางมารอรับลูกชายเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ พม. จะมาขอนำลูกชายไปเลี้ยงดูก่อน ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ประกอบกับตอนนี้ทางบ้านก็แย่ ตนยังไม่ได้ทำงาน หากฟื้นตัวดีขึ้นก็จะขอรับลูกกลับไปเลี้ยงดู

ต่อมา ร.ต.อ.สุวัส พรมหันต์ รอง สว.(ป) สภ.คลองหลวง ได้นำตัวตาเจี๊ยบ ซึ่งเป็นชายเร่ร่อนเข้ามาที่โรงพัก ตาเจี๊ยบอ้างว่า น้องเขาติดผม ถ้าผมทิ้งเขาแล้ว เขาจะไปอยู่ไหน ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ทำอะไรเด็ก ซึ่งตนเองขึ้นแท็กซี่ไปโดยมีคนมาช่วยเรื่องเงิน ตนไม่กลัวที่จะถูกดำเนินคดีเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ตนจะไปทำงานที่ปากเกร็ด ซึ่งทางเด็กบอกว่าไม่อยากกลับบ้าน เป็นปัญหาของครอบครัวเด็ก และเด็กร้องตามมากับตน

>> ไฟไหม้ป่าภูลำไยโคราชสงบแล้ว เสียหายแล้วกว่า 1,800 ไร่

12.30 น. สถานการณ์ไฟป่าที่เขาภูลำไย ภายในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน และเป็นพื้นที่ซึ่งถูกใช้ในการฝึกทางยุทธวิธีกองทัพภาคที่ 2 พื้นที่บ้านมาบพิมานหมู่ที่ 9 และบ้านซับก้านเหลือง หมู่ที่ 4 ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ที่ได้เริ่มลุกไหม้มาตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้า (26 มกราคม) พบว่า ไฟป่าส่วนใหญ่ได้มอดดับลงแล้ว หลังจากที่มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 19 หน่วยงาน เกือบ 200 นาย เข้าทำแนวกันไฟระหว่างพื้นที่ป่าและพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านโดยรอบ พร้อมกับจุดที่สามารถที่จะพอเข้าถึงได้ จนสามารถจำกัดวงและควบคุมสถานการณ์ได้ในที่สุด จึงทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องใช้อากาศยานเข้าทำการดับไฟ แต่อย่างไรก็ตามยังมีการจัดทีมเฝ้าระวังอยู่ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าไฟป่าจะดับสนิทและไม่ลุกลามสร้างความเสียหายเพิ่มเติม

เบื้องต้นประเมินว่าเหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้กินพื้นที่ป่าเขาภูลำไยไปประมาณ 1,800 ไร่ แต่ด้วยสภาพป่าที่เป็นป่าเต็งรัง ไฟป่าที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะลุกลามไหม้เฉพาะในส่วนที่เป็นต้นเพ็กและเศษกิ่งไม้ใบไม้แห้ง ในขณะที่ต้นไม้ใหญ่จะได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตรหรือแหล่งชุมชนของชาวบ้านแต่อย่างใด

>> ล่าตัว 2 ชายฉกรรจ์ ดักรุมทำร้ายหมอเจ้าของคลินิกเวชกรรม ย่านสีลม

13.20 น. ว่าที่ พ.ต.ท.สถิต สะดีวงศ์ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเหตุมีกลุ่มคนร้ายเข้าทำร้ายร่างกายแพทย์ เหตุเกิดที่บริเวณหน้ามาลิคลินิกเวชกรรม สาขาสีลม 3 ซอยพิพัฒน์ ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ ผู้บาดเจ็บคือ นพ.ชเนษฎ์ อายุ 37 ปี เป็นเจ้าของคลินิกดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บศีรษะถูกตีด้วยของแข็งจนเลือดอาบ จากนั้นจึงได้เข้าแจ้งความและตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ

นพ.ชเนษฎ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 เวลา 18.28 น. ขณะที่ตนออกจากคลินิกที่เกิดเหตุ มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแสด ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดดักรอบริเวณหน้าคลินิก เมื่อตนเดินออกมาที่หน้าคลินิก คนร้ายทั้งสองคนได้เข้ามารุมทำร้ายด้วยการใช้หมวกกันน็อกรุมตีจำนวนหลายครั้ง ตนจึงพยายามวิ่งหลบหนีและหกล้มกลางถนน ขณะนั้นมีรถยนต์ขับผ่านมา คนร้ายจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนสาทร

>> เกิดอุบัติเหตุรถบัสชนต้นไม้ ที่ สปป.ลาว มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ประสานขอส่งตัวมารักษาที่ จ.อุบลราชธานี

14.00 น. เกิดเหตุรถบัสโดยสารเวียงจัน-ปากเซ สปป.ลาว ชนต้นไม้ ที่หมู่บ้านภูดาวแจ้ง เมืองละคอนเพ็ง แขวงสาละวัน สปป.ลาว เบื้องต้นคนขับรถเสียชีวิตคาที่ ส่วนผู้โดยสาร 43 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติได้บาดเจ็บสาหัสถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลแขวงจำปาสัก เมืองปากเซ แต่ด้วยจำนวนผู้บาดเจ็บมีจำนวนมากเกินกำลังของโรงพยาบาลจำปาสัก จึงประสานมาที่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีคำสั่งให้โรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือในการรับต่อผู้ป่วยตามหลักมนุษยธรรม พร้อมแจ้งจิตอาสา 904 ที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ร่วมบริจาคเลือดทุกกรุ๊ปไว้สำรองจำนวนมาก ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อ.เมืองอุบลราชธานี ต่อมาเวลา 15.30 น. มีข้อมูลเบื้องต้นยืนยันส่งตัวผู้บาดเจ็บมายังโรงพยาบาลในตัวจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งหมด 14 ราย เป็นสีแดง 13 ราย และสีเหลือง 1 ราย

>> จยย.ฝ่าไฟแดง พุ่งชนนักท่องเที่ยวเกาหลีตรงทางม้าลาย ซ้ำรอยเดิมกับหมอกระต่าย

14.20 น. คลิปวิดีโอจากล้องหน้ารถคันหนึ่งบันทึกภาพขณะที่รถจอดหยุดตรงทางม้าลาย หลังจากมีสัญญาณไฟแดงขึ้น ก่อนจะมีคนเดินข้ามถนน แต่กลับมีรถจักรยานยนต์ขี่มาด้วยความเร็วไม่หยุดจอด พุ่งชนคนข้ามถนนล้มกลิ้่งไปกับพื้น จนได้รับบาดเจ็บนอนแน่นิ่งอยู่กลางถนน ซึ่งคลิปนี้ทางเพจเฟซบุุ๊ก “เรารักด่านตรวจ” ได้นำมาเผยแพร่ พร้อมระบุแคปชันว่า “จุดเดิมที่คุณหมอเคยโดนชน ไฟแดงไม่มีความหมาย”

ล่าสุด วันที่ (26 ม.ค.68) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ทราบว่าเหตุการณ์นี้เกิดเมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งจุดเกิดเหตุ ตรงบริเวณทางม้าลาย ถนนพญาไท ด้านหน้าโรงพยาบาลสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่หมอกระต่ายถูกตำรวจขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชน จนเสียชีวิตเมื่อ 3 ปีก่อน

ส่วนผู้บาดเจ็บ เป็นนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ อายุ 68 ปี ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ถูกนำส่งโรงพยาบาลพญาไท 1 ส่วนคนขี่จักรยานยนต์ผู้ก่อเหตุ บาดเจ็บเล็กน้อย ตำรวจนำตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ไม่พบ ก่อนแจ้งข้อหา “ขับรถประมาท” และส่งตัวดำเนินคดี

>> ไฟไหม้ตึกแถวย่านบางขุนเทียน หนีตายขึ้นดาดฟ้า ตักน้ำในแทงค์ราดตัวเอง

14.30 น. วันที่ 26 ม.ค.2567 สน.เทียนทะเล รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ ซอยเทียนทะเล 26 เขตบางขุนเทียน กทม. ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ปลูกติดเรียงกันหลายคูหา พบแสงเพลิงกำลังพวยพุ่งโหมกระหน่ำอยู่บริเวณชั้น 2 ของตัวอาคารซึ่งจดทะเบียนชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัด เปิดกิจการจำหน่าย ชิ้นส่วน อุปกรณ์พลาสติกสำหรับติดรถจักรยานยนต์ ก่อนจะลุกลามอาคารข้างเคียง รวม 3 คูหา ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดกั้นนานกว่า 4 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมแสงเพลิงไว้ได้

ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ติดค้างและได้รับอาการบาดเจ็บเล็กน้อยรวม 3 ราย ทางเจ้าหน้าที่สามารถให้การช่วยเหลือเอาไว้ได้พร้อมทั้งเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน

โดยระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัดจู่ๆ ผู้สูญหายที่ทางเจ้าหน้าที่พยายามหาตัว ได้ปรากฏตัวทราบชื่อต่อมาคือนายเกรียงศักดิ์ อายุ 57 ปี พร้อมเข้าโผกอดบุตรชายทั้งสองรายที่มาเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และอยู่ในอาการวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลาในทันที นายเกรียงศักดิ์ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ตัวเองได้วิ่งหลบหนีขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า เพื่อพยายามหาทางหนีเอาชีวิตรอด แต่เนื่องจากมีควันไฟหนาจำนวนมากทำให้ไม่สามารถมองเห็นทางที่หลบหนีได้ ก่อนไปพบเจอแทงค์น้ำใกล้กับต้นมะม่วง จึงพยายามตักน้ำในแทงค์มาราดตัวเองเป็นระยะๆ เมื่อรู้สึกแสบร้อน และโชคดีที่บนชั้นดาดฟ้ายังพอมีอากาศให้หายใจอยู่บ้างจึงเอาชีวิตรอดมาพบบุตรชายได้ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสรุปหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

>> ทอ.เปิดปฏิบัติการสกัดฝุ่น PM2.5 กทม.-ปริมณฑล ตั้งศูนย์เกาะติดสถานการณ์ ส่งเครื่องบิน โปรยน้ำแข็งแห้ง 2,000 กก.ต่อเที่ยว

15.50 น. พล.อ.ท. ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากรายงานคุณภาพอากาศ กรมควบคุมมลพิษ พบปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ในประเทศไทยเกินค่ามาตรฐาน หลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) มีปริมาณเกินค่าเกณฑ์มาตรฐาน และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) มีความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงสั่งการให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศ เพื่อประชุมวางแผน ติดตามสถานการณ์และบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยมีการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้

1. ภาคอากาศ ให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ จัดเครื่องบิน BT-67 จำนวน 2 เครื่อง ระหว่าง 26-30 ม.ค. 68 ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองร่วมกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ด้วยวิธีการเจาะชั้นบรรยากาศ ในรูปแบบการโปรยน้ำแข็งแห้งและสารฝนหลวง ซึ่งแต่ละเที่ยวบินสามารถบรรทุกน้ำแข็งแห้งหรือสารฝนหลวงประมาณ 2,000 กิโลกรัมต่อเที่ยวบิน

2. ภาคพื้น ให้พิจารณาการปฏิบัติงาน Work from Home ของกำลังพลให้สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวกับกำลังพลในการดูแลตนเองเพื่อลดความเสี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมแนะนำให้ใช้รถยนต์สาธารณะหรือ BTS ในการเดินทาง โดยการปฏิบัติหน้าที่ต้องสามารถปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง

>> นักท่องเที่ยวต่างชาติสุดดีใจ ลืมแหวนแต่งงาน 5 ปี ไว้ที่โรงแรมหาดเกาะกวาง จ.กระบี่ กลับมาเที่ยวอีกครั้งได้คืน

18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก สมศักดิ์ เตบบุตร ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านเกาะกวาง โพสต์ข้อความระบุ “พี่น้องผมลูกค้าลืมแหวนแต่งงาน 5 ปี เพิ่งมาเอาคืน พร้อมภาพการส่งมอบแหวนคืนให้กับเจ้าของ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวต่างชาติ ที่ชายหาดเกาะกวาง ม.3 บ้านเกาะกวาง ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ โดยมีผู้เข้ามาชื่นชมในความมีน้ำใจ ของเจ้าของโรงแรมกันเป็นจำนวนมาก

โดยเรื่องนี้ นางวารุณี กุลดี เจ้าของโรงแรม Bliss รีสอร์ตกระบี่ หาดเกาะกวาง เปิดเผยว่า เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งเป็นชาวนอร์เวย์เดินทางมาพักที่โรงแรม Bliss Rest Krabi ของตน เป็นครอบครัวใหญ่ นับ 10 คน ประมาณ 5-6 ห้อง

โดยอาศัยอยู่ประมาณ 1 เดือน หลังจากนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวกลับไปก็ได้เข้าไปทำความสะอาดห้องพบว่ามีแหวนเพชรตกอยู่ในห้อง 1 วงจึงได้เก็บไว้ และได้ติดต่อกับเจ้าของแหวน ทราบว่าเป็นแหวนแต่งงาน ให้ช่วยเก็บไว้ด้วยค่อยกลับมาเอา ”หลังจากนั้นเราก็ได้นำแหวนไปเก็บไว้และในวันนี้เราเข้าไปที่โรงแรม ปรากฎว่ามีนักท่องเที่ยวที่ลืมแหวนไว้ เข้ามาทักว่า จำฉันได้ไหม คนที่ลืมแหวนแต่งงานไว้ เรารีบบอกว่าจำได้และรู้สึกดีใจมาก ที่เจอกันและได้ไปนำแหวนที่เก็บไว้มาคืนให้กับเจ้าของหลังจากเก็บไว้นาน 5 ปี

”การกลับมาของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวในครั้งนี้เขากลับมากับเพื่อน 3 คน ทราบว่าสามีเสียชีวิตไปแล้ว ก็เลยมาเที่ยว จ.กระบี่ กับเพื่อน และมาพักที่โรงแรม และถือโอกาสมารับแหวนคืน 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม