เวลลิงตัน, 27 ม.ค. ซินหัว รายงานว่า — รัฐบาลนิวซีแลนด์กำลังผ่อนปรนกฎเกณฑ์เกี่ยวกับวีซ่าเยี่ยมเยียนเพื่อเอื้อให้นักท่องเที่ยวสามารถทำงานทางไกลให้กับนายจ้างในต่างประเทศระหว่างเยือนนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นความพยายามล่าสุดในการกระตุ้นการท่องเที่ยวและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

นิโคลา วิลลิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเติบโตทางเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์ กล่าวว่ารัฐบาลกำลังยกระดับให้นิวซีแลนด์กลายเป็นจุดหมายที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับกลุ่มคนทำงานทางไกล หรือที่เรียกว่าดิจิทัลโนแมด (digital nomad) เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านไอที โดยการท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้จากการส่งออกอันดับสองของนิวซีแลนด์ ซึ่งสร้างเม็ดเงินเกือบ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ราว 2.11 แสนล้านบาท) และสร้างงานเกือบ 2 แสนอัตรา

ด้านเอริกา สแตนฟอร์ด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองของนิวซีแลนด์ เผยว่าวีซ่าเยี่ยมเยียนดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ (27 ม.ค.) ซึ่งจะเอื้อให้ผู้มาเยือนหลายคนสามารถขยายระยะเวลาการพำนักในนิวซีแลนด์และเพิ่มปริมาณการใช้จ่ายในประเทศ ทว่าผู้ที่ทำงานทางไกลนานเกิน 90 วันควรพิจารณาผลกระทบด้านภาษีที่อาจเกิดขึ้นด้วย

หลุยส์ อัปสตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์ ระบุว่าหลายประเทศออกวีซ่าให้กับกลุ่มคนทำงานทางไกล และนิวซีแลนด์ตั้งเป้าที่จะเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานและท่องเที่ยว (Workcation) ในต่างประเทศ เนื่องจากรูปแบบการทำงานมีความยืดหยุ่นและมีลักษณะเป็นดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ

อัปสตันเผยว่าเมื่อเทียบกับผู้มาเยือนประเภทอื่นๆ กลุ่มคนที่ทำงานทางไกลมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินและพำนักอยู่ในนิวซีแลนด์นานมากกว่า ซึ่งรวมถึงในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวด้วย

อย่างไรก็ดี ผู้มาเยือนที่จำเป็นต้องทำงานในนิวซีแลนด์อยู่แล้ว เช่น ตัวแทนจำหน่ายของบริษัทต่างประเทศ นักแสดง และผู้ที่มาทำงานให้กับนายจ้างในนิวซีแลนด์ ยังคงต้องขอวีซ่าที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การมาเยือนของตนเอง