หน้าแรก > อาชญากรรม

สืบสวน ตม.บุกจับแหล่งลักลอบปลูกกัญชาผิดกฎหมายในอาคารพาณิชย์ ย่านเขตหลักสี่ รวบหนุ่มเวียดนาม รับเป็นแค่คนดูแล

วันที่ 29 มกราคม 2568 เวลา 03:15 น.


สืบสวน ตม.บุกจับแหล่งลักลอบปลูกกัญชาผิดกฎหมายในอาคารพาณิชย์ ย่านเขตหลักสี่ รวบหนุ่มเวียดนาม รับเป็นแค่คนดูแล

วันที่ 28 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ตม. 1 พร้อมกำลังฝ่ายงานเกี่ยวข้องนำหมายค้น ศาลอาญาที่ 35/2568 เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ภายในซอยงามวงศ์วาน 32 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ก่อนจับกุม ชายรายหนึ่ง (สงวนชื่และนามสกุล) สัญชาติเวียดนาม อายุ 49 ปี โดยแจ้งข้อหา ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.ก.บริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ และจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า (กัญชา) โดยไม่ได้รับใบอนุญาต พรบ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาฯ

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่รับแจ้งว่า มีการลักลอบปลูกกัญชาในอาคารพาณิชย์ 3 คูหา สูง 4 ชั้น โดยมีชาวต่างชาติเป็นผู้ดูแล ภายหลังพบว่ามีการลักลอบปลูกกัญชานับร้อยต้น ทั้งที่เป็นแบบโตเต็มวัย และกำลังเพาะชำในถุง รวมไปถึงต้นกัญชาเพิ่งแตกยอดอ่อนและเมล็ดสำหรับเตรียมงอก รวมกันทั้งหมดกว่า 900 ต้น โดยสถานที่ดังกล่าวมีการทำระบบให้น้ำ ระบบแอร์-พัดลม และระบบการให้แสงเพื่อให้ต้นกัญชาเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามการปลูกกัญชาดังกล่าว ไม่มีใบขออนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมายกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข แต่อย่างใด

จากการสอบปากคำผู้ดูแลชาวเวียดนาม ให้การอ้างว่า ถูกจ้างมาดูแลต้นกัญชาได้ 3 เดือนร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน แต่เพื่อนกลับบ้านไปก่อนเนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้ต้องดูแลต้นกัญชาเพียงคนเดียว ทั้งนี้ ในส่วนของการเก็บเกี่ยวและนำไปขายนั้น เป็นหน้าที่ของเจ้าของ พวกตนไม่ทราบรายละเอียดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตำรวจพบว่า เจ้าของผู้ครอบครองอาคารหลังนี้ เป็นชื่อนิติบุคคล จดทะเบียนใบอนุญาตจัดจำหน่ายแปรรูปกัญชาที่ จ.กาญจนบุรี แต่ไม่ได้จดทะเบียนจัดจำหน่ายแปรรูปกัญชาในพื้นที่กรุงเทพมหานครแต่อย่างใด

ดังนั้น อาคารพาณิชย์แหล่งดังกล่าวจึงปลูกกัญชาและแปรรูปดอกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนป้ายภายในอาคารที่ระบุว่าเป็นสถานที่แปรรูปกัญชาจึงเป็นป้ายที่ติดเพื่อสมอ้าง ส่วนใบอนุญาตของ อย. ที่พบในอาคารนั้น เป็นเพียงใบจดแจ้งว่ามีการปลูกกัญชากี่ต้นในระหว่างที่กฎหมายยังไม่ออก แต่ไม่ใช่ใบขออนุญาตแต่อย่างใด

สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น อาคารหลังดังกล่าวรวมทั้งแรงงานจะถูกดำเนินคดีฐานไม่มีใบอนุญาตแปรรูปและจัดจำหน่ายสำหรับการปลูกกัญชาที่มีพืชดอก ซึ่งถ้าหากพบว่ามีการส่งออกกัญชาแปรรูปไปยังต่างประเทศ ก็จะมีความผิดเพิ่มขึ้นอีก ส่วนของกลางนั้น ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจะดำเนินการยึดอายัดเอาไว้เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลต่อไป

สำหรับผู้ประกอบการที่คิดจะเพาะปลูกกัญชา โดยเฉพาะต้องการดอกกัญชามาใช้แปรรูปกับจัดจำหน่าย ต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานราชการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีค่าธรรมเนียมที่ไม่แพง รวมทั้งเป็นการควบคุมให้กัญชาที่เพาะปลูกขึ้นมานั้นจัดจำหน่ายอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการลักลอบจำหน่ายให้แก่เด็กและเยาวชนจนกลายเป็นปัญหาสังคมต่อไป

เบื้องต้นชุดจับกุมนำตัวนายเหงียน ส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิดต่อไป 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม