24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 29 มกราคม 2568
>> ในหลวง และพระราชินี ทรงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
08.43 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จลง ณ บริเวณด้านหน้าพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน พุทธศักราช ๒๕๖๘
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน ธูป ที่โต๊ะเครื่องสังเวย ทรงจุดธูปหางแล้วทรงปักที่เครื่องสังเวย สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปหางแล้วทรงปักที่เครื่องสังเวย จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทรงกราบ เสร็จแล้ว ทรงเผากระดาษเงิน กระดาษทอง สมควรแก่เวลา จึงเสด็จขึ้นพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
พระราชพิธีสังเวยพระป้าย จัดขึ้นครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดสร้างพระป้ายพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดสร้างพระป้ายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดสร้างพระป้ายพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช กับพระนามสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งเวหาศจำรูญ พระราชวังบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดสร้างพระป้ายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งเวหาศจำรูญ พระราชวังบางปะอิน เพื่อประกอบพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์กลางถนน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
09.15 น. รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนทางหลวงหมายเลข 215 เส้นทางสุวรรณภูมิ - เมืองร้อยเอ็ด ในพื้นที่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ไม่พบป้ายทะเบียน ลักษณะชนกับรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีขาว ป้ายทะเบียน ร้อยเอ็ด และมีผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย 2 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 31 ปี และอายุ 18 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทางรถกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลสุวรรณภูมิ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุวรรณภูมิ
>> ตำรวจไซเบอร์ บุกจับร้านขายน้ำกระท่อม 24 ชม. ใกล้สถานศึกษามหาวิทยาลัย
10.24 น. กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 (บก.สอท.3) เปิดปฏิบัติการ “บุกจับร้านจำหน่ายน้ำกระท่อมให้นักศึกษาหน้ามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี” ยึดของกลางน้ำกระท่อมบรรจุขวด ขนาดขวดละ 1 ลิตร รวมทั้งสิ้น 310 ขวด
สืบเนื่องจากมีผู้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการเปิดหน้าร้านจำหน่ายน้ำกระท่อมซึ่งให้บริการตลอด 24 ชม. ประกอบกับข้อมูลจากสายตรวจไซเบอร์ ได้ตรวจพบการโพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ว่ามีการเปิดร้านจำหน่ายน้ำต้มพืชกระท่อม โดยจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นเยาวชนและนักศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบร้าน 24 น. เปิดเป็นร้านจำหน่ายพืชน้ำกระท่อม เยื้องกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการ สอท.3 ให้สายลับเข้าไปทำการล่อซื้อน้ำต้มพืชกระท่อม บรรจุขวดพลาสติก จำนวน 1 ขวด ในราคาขวดละ 100 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าแสดงตัวและขอตรวจสอบธนบัตรที่สายลับได้ใช้ในการล่อซื้อน้ำกระท่อม มี นายสอ (นามสมมุติ) แสดงตัวเป็นผู้ครอบครอง และนำตรวจค้นภายในร้านพบน้ำกระท่อมบรรจุขวด ขนาดขวดละ 1 ลิตร รวมทั้งสิ้น 310 ขวด ที่เตรียมไว้จำหน่ายให้กับลูกค้า อยู่ในถังน้ำแข็งภายในร้าน (ของกลาง) จำนวน 7 ถัง แยกเป็นกลิ่นผลไม้หลากหลายกลิ่น จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และทำการจับกุมตัวนายสอ (นามสมมุติ) นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> ไฟเผาวอดโรงงานรีไซเคิลขยะพลาสติกที่ จ.สมุทรสาคร
11.00 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังพสาสติก พื้นที่หมู่ที่ 6 ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารโกดังชั้นเดียว มีอยู่ทั้งหมด 8 โกดังบนเนื้อที่ราว ๆ 15 ไร่ มีการกั้นเป็นล๊อคๆ แต่เชื่อมติดกันและเปิดช่องให้สามารถเดินถึงกันได้ ส่วนด้านหลังเป็นพื้นที่ลานกว้าง มีไว้เพื่อเก็บกองขยะพลาสติกจำนวนมหาศาล ทั้งนี้เพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงจนทำให้โครงสร้างโกดังทรุดตัวลงมา 2 โกดัง
ขณะที่การเข้าระงับเหตุในครั้งนี้มี นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายอนุตร ปางพุฒิพงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมบัญชาการเหตุการณ์ แต่การจะดับไฟให้สงบลงนั้นก็เป็นไปได้ค่อนข้างยากมาก เพราะด้วยวัสดุที่เป็นเศษขยะพลาสติกและอื่นๆ จำนวนมหาศาลประกอบกับปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอนั้น ล้วนแต่เป็นวัตถุติดไฟ และยังมีสารเคมีบางชนิดถูกเก็บกองอยู่ข้างใน ก็ยิ่งทำให้เชื้อเพลิงลุกไหม้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ส่วนเครื่องจักรที่ตั้งอยู่ภายในโกดังที่ 1 – 3 ไม่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ต้องใช้รถน้ำดับเพลิงจาก เทศบาลตำบลหลักห้า ร่วมกับ อปท.ต่างๆ ทั้งในจังหวัดสมุทรสาคร และพื้นที่ใกล้เคียงรวมกว่า 20 คัน รวมถึงรถสนับสนุนจากมูลนิธิและอาสากู้ภัยอีกหลายสินคัน เข้ามาช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามออกไปด้านนอกเขตรั้วโรงงาน ซึ่งก็ต้องใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง จึงจะสามารถดับเปลวไฟลงได้ ขณะเกิดเหตุไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและไม่ลุกลามไปยังชุมชนด้านนอก
แต่ผลกระทบจากกลุ่มควันไฟก็ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ห่างโรงงานออกไปในระยะประมาณ 2 – 3 กิโลเมตรได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นของกลุ่มควัน และมีอาการแสบตาม แสบจมูก เป็นต้น
>> ถังแก๊สอัดลูกโป่ง ระเบิดในงานวัดหลวงปู่อี๋ เจ็บสาหัส รถพังเสียหายจำนวนมาก
11.30 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุถังแก๊สอัดลูกโป่ง ระเบิดภายในงานวัดหลวงปู่อี๋ ที่วัดสัตหีบ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วย ทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ
ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บสาหัสขาขาด 1 ราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน นอกจากนี้แรงระเบิดยังส่งผลให้รถยนต์บริเวณใกล้เคียงเสียหายหลายคันด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบหาสาเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนี้
>> รวบมอไซค์หัวร้อน หวิดชนคนข้ามทางม้าลาย ตัดพ้อ สำนึกผิดแล้ว อยากขอโทษ
12.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้ร่วมจับกุม นาย จอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ในข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น, ขับรถผ่านทางม้าลายโดยไม่หยุดให้คนข้าม และขับรถย้อนศร”
โดยสืบเนื่องจากตามที่ปรากฏของสื่อสังคมออนไลน์ กรณีที่มีผู้ขับชี่รถจักรยานยนต์ขับฝ่าฝืนเครื่องหมายบนพื้นทางและเฉี่ยวชนผู้เสียหายที่กำลังเดินข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย ถนนราชดำริ หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้แล้ว โดยฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี จึงได้เชิญตัวผู้ต้องหา มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
โดยนาย จอ (นามสมมุติ) ให้การว่า ในวันเวลาเกิดเหตุ ขณะตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเพื่อไปรับแฟน เมื่อมาถึงบริเวณทางม้าลายหน้า รพ.จุฬา ตนไม่สามารถหยุดรถได้ทัน แล้วมีชายตะโกนด่าและพยายามวิ่งมาทำร้าย ตนจึงย้อนรถกลับเพื่อแกล้งไล่ชายคนดังกล่าว จากนั้นได้แยกย้ายกันไป และกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากขอโทษกับสิ่งที่ตนได้ทำลงไป
>> อุบัติเหตุ รถกระบะ 2 คันชนกัน กลางถนนสายอ่างทอง - พระนครศรีอยุธยา มีผู้เสียชีวิต 5 ราย
13.44 น. ได้รับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดอ่างทอง มีอุบัติเหตุรถกระบะ 2 คันชนกัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก เหตุเกิดที่บริเวณถนน 309 เส้นทางอ่างทอง - พระนครศรีอยุธยา (สายใน) ใกล้เคียงทางเข้าวัดสระแก้ว ในพื้นที่ ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง
ในที่เกิดพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายใน จำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้เครื่องตัดถ่างช่วยนำออกมาได้ 2 ราย อาการได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเร่งนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลป่าโมก และอีก 1 ราย เสียชีวิตอยู่ภายในซากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ได้นำออกมาพบว่าเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นทราบว่าทั้ง 3 ราย เป็นพ่อแม่ลูกกัน ส่วนพ่อกับแม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ได้เร่งนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลป่าโมก ด้านพ่อได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนลูกเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
และห่างออกไป พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน สิงห์บุรี สภาพรถยนต์เสียหายยับเยิน มีผู้ที่ติดอยู่ภายในซากรถยนต์ จำนวน 5 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เครื่องตัดถ่างช่วยเหลือออกมา 2 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลป่าโมก โดยพบว่าภายในซากรถยนต์มีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย เป็นผู้หญิง 2 ราย และผู้ชาย 1 ราย ในส่วนของสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าโมก
>> นายกฯ ต้อนรับเยาวชนโครงการ “เยาวชนไทย หัวใจเดียวกัน” ย้ำใช้ความแตกต่างมาพัฒนา ขับเคลื่อนหมู่บ้าน จังหวัด และประเทศชาติ
14.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวให้โอวาทแก่เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการเยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน รุ่นที่ 9 ที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จ.ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และ 4 อำเภอ ใน จ.สงขลา ได้แก่ อ.จะนะ อ.นาทวี อ.เทพา และ อ.สะบ้าย้อย จำนวน 120 คน ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล
นายกฯ กล่าวแสดงความรู้สึกดีใจที่ได้มาพบกับน้องๆ โครงการฯ นับเป็นโอกาสที่ดีในการศึกษาเรียนรู้ อยากให้ทุกคนตั้งใจเรียนรู้อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพในอนาคต
ทุกคนมีความแตกต่างกัน ทั้งที่อยู่อาศัย ศาสนา และวัฒนธรรม แต่ต้องเคารพและนำความแตกต่างเหล่านั้นมาใช้พัฒนา ขับเคลื่อนหมู่บ้าน จังหวัด และประเทศชาติให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
>> ผบ.ตร. เผยยังไม่พบประเทศเพื่อนบ้านใช้ไฟจากทางการไทย เดินหน้าล้มเสาสัญญาณ ตัดเส้นเลือดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
14.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ของประเทศเพื่อนบ้านที่อาจถูกนำไปใช้สำหรับการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีว่า เรื่องการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ได้มีการประสานทางกสทช. และจากการตรวจสอบ โดยกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพบว่า สิ่งที่เกี่ยวข้องและองค์ประกอบบุคคล เส้นทางการเงินและเสาสัญญาณ ขณะนี้เรามีข้อมูล และมีการประสานกับประเทศกัมพูชา ประเทศเมียนมา และประเทศลาวโดยมีจเรตำรวจแห่งชาติเป็นผู้เดินทางไปพูดคุยกับประเทศเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตอนนี้ไทยมีความพยายามที่จะนำผู้ที่มีหมายจับกลับมาดำเนินคดีส่วนเรื่องเส้นทางการเงินได้มีการประสานงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อทำการระงับยับยั้งการเงินที่ผิดปกติ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้ให้ความร่วมมือดีมากและอยู่ระหว่างให้แต่ละองค์กร หน่วยงานขับเคลื่อนเดินหน้าในหน้าที่ของตนเอง ส่วนเรื่องเสาสัญญาณพบว่ามีเสาสัญญาณที่น่าจะเชื่อว่า เป็นการให้สัญญาณ กับทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแต่ได้มีการประสานงานยกเลิกพร้อมล้มเสา และหันกลับมาให้คนไทยใช้งานในหลายจุด ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการต่อไป เพื่อเป็นการตัดเส้นเลือดในเรื่องของการใช้งานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ส่วนการลักลอบใช้ไฟของประเทศไทยนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เบื้องต้นเป็นเรื่องของการใช้เครื่องปั่นไฟ แต่การใช้ไฟของราชการไทยนั้นขณะนี้ยังไม่พบข้อมูล
>> ตร.ท่องเที่ยว รวบชาวอิสราเอล ใช้แบงก์ดอลลาร์ปลอม ตระเวนแลกเงินจริง ตามตู้แลกเงินในเมืองพัทยา
15.19 น. ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ได้รับแจ้งจากร้านรับแลกเงิน ภายในซอยบัวขาว ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล นำธนบัตร 50 ดอลลาร์ ปลอม จำนวน 24 ใบ มาแลกที่ร้านโดยคิดเป็นเงินไทยเป็นเงินประมาณ 40,488 บาท จึงทำการเข้าตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบ นายรามี่ อายุ 56 ปี สัญชาติอิสราเอล รับว่าเป็นผู้นำธนบัตรดังกล่าวมาแลกที่ร้านจริง ตำรวจ จึงไดเชิญตัวมาที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวพัทยา โดยมี น.ส.นวพร พนักงานร้านแลกเงิน เป็นผู้ตรวจสอบ และยืนยันว่าธนบัตรทั้งหมดเป็นของปลอม ซึ่งมีจุดสังเกตุที่ลักษณะผิวสัมผัสของธนบัตรปลอมมีความลื่นกว่า และเมื่อพลิกเอียงธนบัตรส่วนที่เป็นสีทองของตัวเลข 50 จะไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียว
จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า " มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรอันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอม " พร้อมด้วยของกลาง ธนบัตรสกุลดอลล่าส์ ฉบับละ 50 ดอลลาร์ จำนวน 24 ฉบับ (ประมาณ 40,488 บาท) โดย Mr.Rami อ้างว่าตนได้มาจากประเทศอิสราเอลก่อนนำมาแลก จึงนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพงส.สภ.เมืองพัทยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
>> นายกรัฐมนตรี นั่งรถไฟฟ้าฟรีลดฝุ่น PM2.5 ติดตามการให้บริการ ก่อนร่วมงานตรุษจีนเยาวราช
16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานีสนามไชยไปยังสถานีหัวลำโพง เพื่อร่วมงานตรุษจีนเยาวราชประจำปี 2568 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามผลตอบรับของผู้ใช้บริการจากมาตรการรถไฟฟ้าฟรี ซึ่งเป็นมาตรการที่อยากเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนเดินทางด้วยบริการสาธารณะ เพื่อลดปริมาณการใช้รถยนต์ในช่วงวิกฤตฝุ่น PM2.5 ที่ผ่านมา โดยรวมมีผู้ใช้บริการค่อนข้างมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำให้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูจำนวนรถไฟฟ้าให้เพียงพอต่อการให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนมากขึ้น ส่วนเรื่องฝุ่นยังเป็นประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญเร่งด่วนในช่วงนี้ และจะดำเนินมาตรการทุกอย่างให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ชีวิตปกติโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ระหว่างทางมีประชาชนเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปตลอดทาง
>> ศาลจังหวัดนนทบุรี กำชับทนายสองฝ่าย 'คดีแตงโม' ห้ามนำข้อมูลในห้องพิจารณาเผยแพร่ออกสื่อ
17.30 น. หลังสืบพยานจำเลยคดีดาราสาว แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้เดินลงมาจากศาลจังหวัดนนทบุรี โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน จากนั้นได้รีบเดินขึ้นรถยนต์ขับออกจากศาลไป
ต่อมา ทนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน ทนายวิวัฒน์ สมบัติหชาย ทนายของกระติก ได้เดินลงมาจากศาลจังหวัดนนทบุรี พร้อมกับกระติกซึ่งดูจาดสีหน้ามีความเครียดและไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชลก่อนขอตัวเดินทางกลับทันที
โดยทนายพรศักดิ์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ตนมายื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เรื่องขอให้พิจารณาเรื่องละเมิดอำนาจศาล และศาลจังหวัดนนทบุรีได้พิจารณาตามคำร้องที่ตนยื่นไป ซึ่งตอนนี้ทางศาลยังไม่เรียกผู้ที่ถูกร้องมาไต่สวน แต่ทางศาลรับทราบและนับเริ่มนับหนึ่งจากวันนี้ไป จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกไหม จึงจะสามารถพิจารณาโดยใช้ดุลพินิจของศาล ตนจึงมาแจ้งให้สื่อมวลชนทราบ
ส่วนเรื่องอื่นตนไม่ขอพูดเนื่องจากทางศาลได้กำชับมาว่าไม่ให้มีการเผยแพร่กระบวนการพิจารณาอะไรในคดีนี้อีกกับสื่อมวลชน ทางศาลได้มีคำสั่งออกมาแบบนี้ ตนจึงนำศาลจากคำสั่งศาลจังหวัดนนทบุรีมาแจ้งให้กับสื่อมวลชนทราบตามนี้
โดยหลังจากนี้วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ทางศาลจังหวัดนนทบุรี จะนัดสืบพยานจำเลยครั้งสุดท้าย ส่วนการนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้คาดว่าน่าจะประมาณเดือน พฤษภาคม 2568 ซึ่งถือว่าคดีดาราสาวที่มีมาอย่างยาวนานจะสิ้นสุดลง
>> ตร.เร่งไล่ล่า คนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ 2 ร้านสะดวกซื้อ กลางเมืองยะลา
19.56 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุ คนร้ายก่อเหตุ จี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ในเขตเทศบาลนครยะลา จำนวน 2 แห่ง หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.สันติ สิริเกตุ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังเข้าตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุ จุดแรก เป็นร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ใกล้เคียงธนาคารกรุงไทย สาขาสิโรรส เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบหลักฐานจากล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อมที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เบื้องต้น พบว่าคนร้ายได้เงินไปจำนวนหนึ่ง เป็นเหรียญจำนวน 600 บาท
ส่วนจุดที่สอง เป็นร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง อยู่ห่างจากจุดแรก ประมาณ 1 กิโลเมตร ในเขตเทศบาลนครยะลา เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยละเอียด เบื้องต้น คนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินไป
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นจากกล้องวงจรปิด พบคนร้าย 1 คน สวมเสื้อสีดำ กางเกงสามส่วนขาสั้น สวมหมวกกันน็อกสีขาว ใช้รถจักรยานยนต์ เป็นพาหนะ พร้อมทั้งมีอาวุธเป็นปืนพกสั้นเข้าก่อเหตุ ก่อนจะหลบหนีไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งสอบสวนเพื่อติดตามจับกุม
>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดเชียงใหม่
22.48 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 1.6 ความลึก 5 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน
>> หนุ่มรัสเซีย ขี่รถบิ๊กไบค์ชนคน กลางถนนจอมเทียนสายสอง มีผู้เสียชีวิตเป็นคนชาติเดียวกัน
23.11 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สนั่น โคตะนนท์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ พุ่งชนนักท่องเที่ยงชาวต่างชาติเดินข้ามถนนเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณหน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ถนนจอมเทียนสายสอง เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุ พบร่างของ นักท่องเที่ยวชายชาวรัสเซีย อายุประมาณ 40 ปี ลักษณะตัวกระเด็นไปอัดกระแทกขอบปูนกระถางต้นไม้ จนอยู่ในสภาพคอหัก กระโหลกศีรษะยุบ ขาข้างซ้ายฉีกขาด นอนเสียชีวิตคาที่ ใกล้กันพบร่างแฟนสาวนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ได้รับบาดเจ็บ
ห่างออกไป พบรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ สีส้ม ขนาด 1,100 ซีซี สภาพพังยับเยิน ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้พบว่ามีรถจักรยานยนต์ชาวบ้าน ได้รับความเสียหลักเล็กน้อยอีก 1 คัน ซึ่งจอดรอเลี้ยวกลับรถ แต่ถูกรถบิ๊กไบค์เสียหลักพุ่งชน จากนั้นไถลและมาชนซ้ำ โชคดีที่คนขับไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก ส่วนคนขับรถบิ๊กไบค์ เป็นชาวรัสเซีย อายุ 37 ปี อยู่ในอาการสาหัส จนท.จึงช่วยกัน เร่งปฐมพยาบาล ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาล
ขณะที่กล้องวงจรปิด พบว่าสามารถบันทึกเหตุการณ์ตอนชนไว้อย่างชัดเจน ในส่วนของสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
>> รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถไม่ทราบคู่กรณี มีผู้เสียชีวิต 2 รายกลางถนนรามอินทรา
23.37 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เบื้องต้น มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ เฉี่ยวชนกับรถไม่ทราบคู่กรณี และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บนถนนรามอินทรา ขาออก ใกล้เคียงซอยรามอินทรา 45/1 ในพื้นที่ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีฟ้า - ขาว ป้ายทะเบียน 951 กทม. ลักษณะล้มคว่ำอยู่บนถนนเลนซ้าย และห่างออกไปพบผู้บาดเจ็บ 2 ราย มีอาการสาหัสและหมดสติ ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตด้วยกันทั้งคู่ ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 20 ปี และ หญิงไทย อายุ 21 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน
>> ไฟไหม้ในร้านทำเฟอร์นิเจอร์ ย่านกรุงเทพ-นนทบุรี 13 เจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงเข้าใช้น้ำสกัด ไม่ลุกลาม
02.29 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 13 ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ปลูกติดกัน 8 คูหา ประกอบกิจการทำเฟอร์นิเจอร์ ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 1 ลุกลามชั้นลอย เพลิงลุกไหม้เสียหายเครื่องจักร โต๊ะ กองไม้ ชั้นวางทินเนอร์ เพดาน และหน้าต่าง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 40 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางโพ
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
03.01 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 1.6 ความลึก 3 กม. ภายในพื้นที่ของ ประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 78 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ