วันที่ 30 มกราคม 2568 เวลา 15:44 น.
“อนุทิน” แจง มท.ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์เองไม่ได้ หลัง “ทักษิณ” ชี้ทําได้ เผย กฟภ.ชงเรื่องไปแล้ว แต่เงียบเหมือนสายลม
วันนี้ (30 ม.ค.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า กระทรวงมหาดไทยสามารถตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เลย หากสัญญาซื้อขายไม่ถูกต้อง ว่า หากกระทรวงมหาดไทยส่งไฟฟ้าเข้าไปในตึกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็สามารถทำได้เลย แต่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.ทำสัญญากับบริษัทที่ทางการเมียนมา และทางการรัฐบาลไทยรับรอง
ทั้งนี้การตัดไฟทำง่ายมากสำหรับผู้จ่าย และผู้ตัด แต่คนประสานงานจ่ายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้าน ต้องแจ้งให้เราหยุด ไม่ใช่เราฟังข่าวแล้วหยุดเลย เพราะจะถูกต่อว่า ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องจะเดือดร้อน ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีเงื่อนไขสัญญาขายไฟฟ้าอยู่ หากทำผิดสัญญา คนที่ลงนามสัญญา ครม.ให้การรับรองการขายไฟให้ประเทศเพื่อนบ้าน หน่วยงานที่ประสานเหล่านี้ต้องแจ้งกระทรวงมหาดไทย ซึ่งตนยืนยันหลักการนี้ ถ้าแจ้งมา เราสับสวิตซ์ทันที
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ตนจะไปรู้ได้ยังไงว่า ไฟฟ้าเข้าไปในบ้านเลขที่เท่าไหร่ ในจังหวัดชเวโก๊กโก ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเราข้ามชายแดนไปได้หรือไม่ ไม่มีคู่เจรจา เพราะฉะนั้นต้องขีดเส้นทำงานให้ชัดเจน จะได้รู้ว่า ใครควรรับผิดชอบในส่วนงานด้านไหน ส่วนงานของตนถูกสั่งให้ขาย เมื่อตนถูกสั่งให้หยุดก็จะหยุด
นายอนุทิน ยังกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า สั่งมาสิ สั่งมาให้เรียบร้อย และตนก็ต้องรับฟังคำสั่งที่ถูกต้อง มีกฎหมายรองรับ ไม่ใช่ตามข่าว ความรู้สึก ความเชื่อ หรือการวิเคราะห์ของตัวเอง ไม่ใช่บริษัทส่วนตัว ตนจะไปสั่งอะไรได้ เพราะเป็นเรื่องของรัฐ และสนธิสัญญาต่าง ๆ
เมื่อถามว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่ากระทรวงมหาดไทยก็เป็นหน่วยงานความมั่นคง สามารถชงเรื่องตัดไฟฟ้าได้ นายอนุทิน กล่าวว่า ชงไปแล้ว กฟภ.ทำหนังสือไปแล้ว ซึ่งยังไม่ได้รับคำตอบ คำตอบคือ สายลม ดังนั้น หากมีคำตอบจากหน่วยงานที่ทำเรื่องไป เราก็พร้อมดำเนินการทันที ต้องขีดเส้นให้ถูก และนายกฯ ยังไม่ได้สั่งตนเลย จะไปทำตามคนอื่นได้ยังไง
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ต้องถึงนายกฯ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานนายกฯ ซึ่งคิดว่า เรื่องสำคัญแบบนี้ต้องรายงาน คิดว่านายกฯ คงจะมีบัญชาอย่างใดอย่างหนึ่งมา เราถือเป็นผู้รับปฏิบัติ