วันที่ 30 มกราคม 2568 เวลา 23:56 น.
รวบอดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สวมบัตรเครดิตผู้เสียหาย ผูกบัญชีซื้อของออนไลน์ เสียหายกว่า 1.2 ล้านบาท
กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) โดย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย
1. นายสิน (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 23 มกราคม 2568 โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่น แทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสดของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น”
จับกุมได้ที่ ซอยพหลโยธิน 67 แขวงอนุสาวรัย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
2. นาย ทรัยพ์ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 23 พ.ค.2568 โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสดของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น"
จับกุมได้ที่ แจ้งวัฒนะ 1 แยก 5 ตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
ตรวจยึดของกลาง จำนวน 5 รายการ
1. Macbook
2. บัญชีเงินฝาก
3. โทรศัพท์มือถือ
4. พาสปอร์ต 2 เล่ม ระบุชื่อทั้ง 2 คน
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปลายเดือนธันวาคม 2567 ผู้เสียหายได้ตรวจสอบพบว่ามีการทำธุรกรรมจากบัตรเครดิตของผู้เสียหายจำนวน 2 ใบ โดยมีรายการทำธุรกรรมจำนวน 26 รายการ มูลค่าความเสียหายกว่า 1.2 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายไม่ทราบที่มา จากนั้นจึงได้มีการดำเนินการให้ทางธนาคารช่วยตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่ามีคนร้ายปลอมแปลงข้อมูลสวมบัตรเครดิตของผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี และต่อมาได้ร้องขอให้ทาง กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยด่วน เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนทั่วไปได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก มีผลกระทบต่อสังคมเป็นวงกว้าง พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.พงศธร รัชตวัชรางกูร สว.กก.3 บก.ป. ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุม
จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มคนร้ายมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยเริ่มจากการที่คนร้ายนำข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหายไปสวมรอยโทรแจ้งพนักงานธนาคาร อ้างว่าต้องการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับบัตรเครดิต จากนั้นเมื่อเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ได้แล้ว คนร้ายจะนำรหัสยืนยัน OTP ไปยืนยันเพื่อเอาข้อมูลจากบัตรเครดิต และคนร้ายจะใช้ข้อมูลบัตรเครดิตดังกล่าวไปผูกกับบัญชีของกลุ่มคนร้ายในแอปพลิเคชันซื้อขายสินค้าออนไลน์ และทำการสั่งซื้อสินค้า โดยจะเลือกเฉพาะสินค้าที่มีราคาสูง เช่น สร้อยคอทองคำ, Macbook จากนั้นจะให้จัดส่งมายังที่อยู่ของกลุ่มผู้ต้องหา โดยมีการอำพรางหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ในการติดต่อ เพื่อให้ยากต่อการติดตาม และนอกจากนี้ในการสั่งสินค้าจะไม่นัดรับสินค้าที่บ้านพักอาศัย
ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และทำการออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมด 3 คน โดยจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาไม่มีอาชีพการงานเป็นหลักแหล่ง เชื่อว่ามีพฤติการณ์ ในการหลอกลวงผู้เสียหายเพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สิน โดยมีเจตนาทุจริต จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.3 บก.ป. จึงได้ทำการสืบสวนติดตามตัวแล้วขอหมายค้น ศาลอนุมัติตามคำขอ
กระทั่งเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ป. ได้นำกำลังลงพื้นที่ 3 จุด ในกรุงเทพฯ เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา จนสามารถจับกุมนายสิน (นามสมมุติ) ได้ที่ ซอยพหลโยธิน 67 แขวงอนุสาวรัย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ และจับกุมนายทรัพย์ (นามสมมุติ) ได้ที่ แจ้งวัฒนะ 1 แยก 5 ตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดย 1 ในกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเคยทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝ่ายเทคนิคระบบหลังบ้านที่อยู่ปอยเปต กัมพูชา กระทั่งภายหลังการทำงานไม่ตอบโจทย์ รายได้ตก เจ้านายเห็นผลประโยชน์มากกว่าเพื่อนร่วมงาน จึงได้ตัดสินใจลาออกก่อนข้ามกลับมาไทย ซึ่งภายหลังตนเองไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง จึงตัดสินใจนำข้อมูลที่ได้มาจากการทำงานที่ ปอยเปต มาหลอกลวงเพื่อสวมบัตรเครดิตดังกล่าว