หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 30 มกราคม 2568

วันที่ 31 มกราคม 2568 เวลา 05:42 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 30 มกราคม 2568


>> เพลิงไหม้ภายในอู่ซ่อมรถ ย่านพระราม 3 รถเก๋งเสียหาย 1 และรถจักรยานยนต์วอดนับ 10 คัน

06.04 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ใกล้เคียง สถานีสูบน้ำคลองขุดวัดช่องลม ไม่มีเลขที่ ซอยพระรามที่ 3 ซอย 72 ถนนพระรามที่ 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นเพิงชั้นเดียวโครงสร้างไม้หลังคาสังกะสี ประกอบกิจการเพิงสำหรับซ่อมรถ จอดรถ และที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในเพิงบริเวณส่วนที่เป็นที่พักอาศัย เพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด ลุกลามรถยนต์ จำนวน 1 คัน เป็นรถนั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร และจักรยานยนต์จำนวน 10 คัน ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 100 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยทุ่งมหาเมฆ


>> รถกระบะชนต้นไม้ร่องกลางถนนพหลโยธิน มีผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

06.30 น. สมาคมกู้ภัยลำปางจุดสบปราบ รับเเจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในยานพาหนะ ถนนพหลโยธิน ใกล้เคียงทางกลับรถบ้านวังยาว ในพื้นที่ อ.สบปราบ จ.ลำปาง

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา ป้ายทะเบียน ลำปาง ลักษณะชนเข้ากับต้นไม้ที่ร่องกลางถนน ตรวจสอบพบว่าผู้ขับขี่ได้เสียชีวิตแล้ว ทางอาสาสมัครจึงดำเนินการนำร่างออกจากยานพาหนะ และตรวจสอบเอกสาร ทราบต่อมา คือ สิบตำรวจโท อายุประมาณ 21 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.เถิน ในส่วนของสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สบปราบ


>> ศาลพิพากษา จำคุกตลอดชีวิต "กำนันนก" สั่งฆ่า สว.แบงค์

09.00 น. ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาคดีสั่งฆ่า "สารวัตรแบงค์" หรือ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ตำรวจทางหลวงในงานเลี้ยงวันเกิด เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 โดยนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" อดีตกำนันชื่อดังในจังหวัดนครปฐม ถูกฟ้องในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ตามคำฟ้องของอัยการจำเลยได้จ้างวานให้นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ "หน่อง ท่าผา" ซึ่งเป็นคนสนิทของกำนันนก ใช้อาวุธปืนยิงสารวัตรแบงค์จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะเดียวกันยังมีผู้บาดเจ็บอีกคนคือ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ดังกล่าว

แม้ว่า "กำนันนก" จะให้การปฏิเสธและสู้คดี แต่ศาลได้พิจารณาพยานหลักฐานและได้ตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตตามข้อกฎหมายในฐานะที่กระทำโดยเจตนาให้ผู้อื่นเสียชีวิต ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 กำหนดโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15–20 ปี ศาลมีคำพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต "กำนันนก" สำหรับคดีนี้


>> นายกฯ เปิดปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน แก้ปัญหายาเสพติด

10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน พร้อมมอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับการป้องกันยาเสพติดเข้าสู่ประเทศ

นายกฯ ระบุว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนทหารและอาสาสมัครในทุกมิติ พร้อมเน้นย้ำการให้โอกาสผู้ที่เคยติดยาเสพติดได้กลับมาทำประโยชน์ให้สังคมอีกครั้ง รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการทำงานให้ผู้ที่ผ่านการบำบัด ซึ่งจำเป็นต้องบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน ทั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกหน่วยที่ทำงานอย่างหนักเพื่อประเทศชาติ และขอให้ทุกคนมั่นใจว่า หากงานนี้สำเร็จไปด้วยดี จะสร้างคนที่มีคุณภาพกลับคืนสู่สังคม


>> สั่งปิดเว็บพนันติดป้ายโฆษณาข้างรถสองแถว จ.นครศรีธรรมราช เร่งขยายผล-ออกหมายจับผู้ว่าจ้าง

10.29 น. พล.ต.ต.จารุต ศรุตยาพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช แถลงผลการกวาดล้างอาชญากรรมห้วงที่ 3 ระหว่างวันที่ 22-26 ม.ค. 68 ระบุรู้ตัวและออกหมายจับผู้ว่าจ้างติดป้ายประชาสัมพันธ์เว็บพนันข้างรถสองแถว สายหัวถนน-สนามกีฬาฯ แล้ว พร้อมทั้งขยายผลการจับกุม พบเป็นเว็บไซต์ที่ฝากเซิร์ฟเวอร์ไว้ที่ต่างประเทศ ซึ่งในขณะนี้ได้สั่งปิดเว็บไซต์ดังกล่าว และประสานไปยังตำรวจไซเบอร์ หรือกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไป

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เข้าทำการตรวจสอบ โดยเรียกรถสองแถวที่ใช้เส้นทางหัวถนน-สนามกีฬา เข้าทำการตรวจสอบ พบว่ามีรถติดป้ายโฆษณาเว็บพนันจำนวน 12 คัน และรถสองแถวได้ปลดป้ายดังกล่าวออกทั้งหมด โดยผู้ขับขี่เข้าใจว่าเป็นป้ายโฆษณาสินค้าบางอย่างเท่านั้น โดยไม่ทราบว่าเป็นเว็บการพนัน และให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้มีนายหน้ามาติดต่อเรื่องการปิดป้ายโฆษณาในราคาเดือนละ 300 บาท โดยเป็นช่วงที่รถไม่มีป้ายเข้าพอดี จึงรับจ้าง แต่มาทราบภายหลังว่านายหน้าหักค่าดำเนินการคันละ 50 บาท ได้รับจริงเพียง 250 บาท

เบื้องต้น ผู้ต้องหา 2 คน รับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา "ผู้ใดช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดนทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน หรือรับอนุญาตในการเล่นการพนันอันเป็นความผิด ในการเล่นการพนัน จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" จากนั้นควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


>> จับคนร้ายใช้หมวกกันน็อคฟาดหมอ เจ้าของคลินิกเสริมความงามย่านสีลม

10.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ จับกุม 2 คนร้ายชาย ดักตีหมอ พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยจับกุมเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค.68 คนร้ายเดินเข้ามาหาใช้หมวกกันน็อคตีหมอหนุ่ม ถูกที่บริเวณศีรษะ ใบหน้า แขน แล้ววิ่งหลบหนีไปทางถนนสาทร

จากการสืบสวนไล่ตรวจสอบกล้อง CCTV จนกระทั่งศาลได้อนุมัติหมายจับ ตามหมายจับ ลงวันที่ 27 มกราคม 2568 โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันทำร้ายคุณหมอจริง และอ้างว่าแค้น ที่ถูกเจ้าหน้าที่ของคลินิกด่าว่าตน ทำให้เจ็บใจจึงก่อเหตุดังกล่าว


>> ตำรวจท่องเที่ยว บุกรวบไกด์เถื่อนสาว แย่งอาชีพคนไทย

11.46 น. ตำรวจท่องเที่ยว บูรณาการกำลังร่วมกับกรมการท่องเที่ยวฯ เปิดปฏิบัติการหาข่าวแกะรอย เฝ้าติดตามพฤติกรรม ของชาวต่างชาติแอบลักลอบทำงานในไทย โดยทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์นำเที่ยวให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาติเดียวกัน หลังได้รับการร้องเรียนของกลุ่มมัคคุเทศก์ไทย

พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท.(สส) ได้สั่งการตามวิทยุ บช.ทท.ด่วนที่สุด ลงวันที่ 24 ม.ค.2568 ให้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นชาวต่างชาติทำงานผิดกฎหมาย และ อาชญากรรมในความผิดที่ส่งผลกระทบต่อ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวม

จากการสืบสวน พบหญิงสาวต่างชาติ 1 ราย แอบลักลอบทำหน้าที่มัคคุเทศก์ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ และจับกุม พร้อมแจ้ง 2 ข้อหา คือทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์จากนายทะเบียนฯ ตามมาตรา 86 ประกอบ มาตรา 49” แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวฯ และ เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้” (ทำงานมัคคุเทศก์) ตาม พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ จากนั้นชุดจับกุมนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> คุณตาวัย 70 กว่าปี ขับรถกระบะเสียหลักพุ่งลงสระน้ำข้างทาง เสียชีวิตติดอยู่ภายในยานพาหนะ จ.สุรินทร์

12.17 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิเจ้าพ่อตาดานสังขะ มีอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักตกสระเก็บน้ำ ริมถนนเส้นทางบ้านศาลา - บ้านชำเบง บริเวณบ้านศาลา ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์

ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา สภาพพลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่ในสระน้ำ ตรวจสอบพบว่ามีผู้ขับขี่ติดอยู่ภายในซากรถ ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการยกรถขึ้นจากน้ำ และนำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากยานพาหนะ แล้วตรวจสอบเอกสาร ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายไทย อายุประมาณ 72 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขะ


>> โจ๋ไล่ยิงอริ ย่านลำลูกกา มีผู้บาดเจ็บ 3 รายกู้ภัยนำส่ง รพ. ด้าน ตร.เร่งสืบสวนจับกุม

14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ได้รับแจ้ง มีเหตุวัยรุ่นไล่ยินกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย เหตุเกิดบริเวณ ซอยเทศบาล 2 หมู่ 21 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

ในที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน เป็นผู้ชาย 3 ราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพจึงได้รีบทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมทั้งนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย ส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง และโดยรอบที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด 9 มม ตกอยู่จำนวน 1 กระบอก มีลูกปืนขนาด .380 ค้างในปืนจำนวน 5 นัด และพบปลอกกระสุนปืน .380 จำนวน 10 นัดกระจัดกระจายอยู่อยู่ทั่วบริเวณ

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. ลำลูกกา ได้ลงพื้นที่เก็บปืนและปลอกกระสุนปืนพร้อมบันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานก่อนที่จะให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบหาภาพจากกล้องวงจรปิดและข้อมูลผู้ก่อเหตุเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> อัยการสั่งฟ้อง "ทนายตั้ม-พวก" คดีโกงเงินเจ๊อ้อย สั่งชดใช้คืน 111 ล้าน

16.13 น. นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า นักงานอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และพวก รวม 7 ราย ในข้อหาฉ้อโกง ฟอกเงิน และปลอมแปลงเอกสาร กรณีหลอกให้ลงทุนในแอปซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ และฉ้อโกงค่าส่วนต่างจากการซื้อรถหรู รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 111 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีการปลอมแปลงเอกสารและนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ผู้เสียหายหลายราย

โดยรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า คดีนี้มีความเกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงไทย ฮ่องกง และฝรั่งเศส ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร โดยอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนดำเนินการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้ อัยการยังขอให้ศาลสั่งให้ผู้ต้องหาคืนหรือชดใช้เงินแก่ผู้เสียหายทั้งหมดด้วย


>> รวบนักต้มตุ๋น หลอกขายที่ดินทิพย์ ในพื้นที่ลพบุรี มีผู้เสียหายเกือบร้อยราย

16.57 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาชาย อายุ 55 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ประชาชนฯ” โดยจับกุมได้บริเวณอาคารจอดรถ โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจากประมาณปลายปี พ.ศ.2564 มีผู้แอบอ้างเป็นนายหน้าของนายทุนชาวจีนเจ้าของที่ดิน จำนวน 773 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และได้หลอกลวงแบ่งเป็นแปลงขายที่ดินดังกล่าว โดยมีผู้ต้องหารายนี้ เป็นผู้ลงประกาศขายที่ดินผ่านช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ จนมีประชาชนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก

ต่อมาเมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.2565 กลุ่มผู้เสียหายที่ได้หลงเชื่อซื้อที่ดินดังกล่าว ไม่สามารถขอบ้านเลขที่ เพื่อขอสาธารณูปโภค และยังถูกเจ้าของที่ดินแจ้งความในข้อหาบุกรุก จึงได้ทราบว่าถูกหลอกลวง กลุ่มผู้เสียหายจำนวน 89 รายจึงได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เพนียด จ.ลพบุรี ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.เพนียด รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดลพบุรี ออกหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย 
จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังพบว่าผู้ต้องหารายนี้ มีประวัติถูกดำเนินคดีหลายคดี และหลบหนีไปในหลายจังหวัด หลังจับกุมได้ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อหา จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เพนียด จ.ลพบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> จับเพิ่ม 3 คน สมาชิก "แก๊งโอริโอ้" ร่วมกันรุมทำร้าย 2 นักศึกษาคาคอนโด

17.00 น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง ร่วมกันจับกุม

1. นายมอ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี, 2. นายสอ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี และ 3. นายฟอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ส่วน นายวอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี (ถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรีแล้วในคดีที่ทำร้ายร่างกายหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง) ซึ่งทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ" 
ด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ เปิดเผยว่า จากที่มีผู้เสียหายเป็นนักศึกษาชาย-หญิง ได้ไปร้องเรียนกับทีมงาน “กัน จอมพลัง” ว่าถูกแก๊งวัยรุ่นเข้าไปทำร้ายร่างกายในคอนโดและได้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ซึ่งทางผู้เสียหายได้ยืนยันแล้วว่ามีคนทำร้าย

ขณะนี้ยืนยันได้ 4 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง จึงได้ติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี และส่วนจะมีผู้ก่อเหตุคนอื่นเพิ่มเติมหรือไม่นั้น อยู่ในระหว่างพิสูจน์ทราบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ


>> รถนั่งส่วนบุคคล 2 คันชนกัน มีผู้บาดเจ็บหลายราย

19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จุน รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถนั่งส่วนบุคคล 2 คันชนกันและมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนทางหลวงหมายเลข 1021 เยื้องโรงสีข้าว ในพื้นที่ ต.ทุ่งรวงทอง อ.จุน จ.พะเยา

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า ยารีส สีขาว ป้ายทะเบียน มหาสารคาม ลักษณะชนกับรถนั่งส่วนบุคคล นิสสัน อมีร่า สีขาว ป้ายทะเบียน พะเยา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 6 ราย โดยเป็นผู้ชาย 1 และผู้หญิง 5 ราย ทางอาสากู้ภัยให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.จุน ในส่วนของสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวน


>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ กลางถนนพุทธมณฑล สาย 5 มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จ.นครปฐม

20.21 น. สมาคมอาสากู้ชีพร่วมกตัญญู จังหวัดนครปฐม รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนพุทธมณฑล สาย 5 มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี ช่วงหลัก กม.ที่ 5+500 ในพื้นที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ลักษณะพุ่งลงป่าหญ้าข้างทาง และห่างออกไปบนกลางถนน พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง - ขาว สภาพรถคว่ำพังเสียหาย และใกล้กันพบร่างของผู้บาดเจ็บ 1 รายมีอาการสาหัส ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยเร่งช่วยเหลือปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อ นายวรรณะ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว


>> กระทรวงการต่างประเทศ แถลงฯ 5 คนไทยในฉนวนกาซา ได้รับการปล่อยตัวแล้ว

20.30 น. ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้ แถลงการณ์หลังได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟว่า ตัวประกันคนไทย จำนวน 5 คน ได้รับการปล่อยตัวแล้ววันนี้ และอยู่ระหว่างการนำตัวไปยังพื้นที่ปลอดภัยเพื่อรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลต่อไป โดยจะมีเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเดินทางไปช่วยเหลืออำนวยความสะดวก พร้อมทั้งติดต่อกับครอบครัวในประเทศไทยโดยทันที

กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งต่อครอบครัวพี่น้องคนไทยทั้ง 5 คนที่ได้รับการปล่อยตัว และขอแสดงความซาบซึ้งใจต่อกาตาร์ อียิปต์ อิหร่าน ตุรกี สหรัฐฯ และมิตรประเทศ รวมทั้งสภากาชาดสากล และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีบทบาทสำคัญในการปล่อยตัวประกันคนไทยในฉนวนกาซา และขอขอบคุณอิสราเอลที่ช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกให้คนไทยทั้ง 5 คนในการเดินทางกลับประเทศ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ตัวประกันไทยอีก 1 คน และตัวประกันที่เหลืออยู่ทั้งหมดในฉนวนกาซาจะได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุดเพื่อเดินทางกลับสู่มาตุภูมิและครอบครัวอย่างปลอดภัยต่อไป 
 

>> ไฟไหม้บ้านบ้านเรือน ย่านร่มเกล้า เจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

01.46 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุ เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยร่มเกล้า 21 ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดียวคอนกรีต 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง เพลิงลุกไหม้เสียหาย โต๊ะหมู่บูชา ลุกลามพัดลม และเครื่องปรับอากาศ พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 9 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากจุดธูปเทียนทิ้งไว้ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยร่มเกล้า

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม