หน้าแรก > ต่างประเทศ

สหรัฐฯ พบมีจนท.คุมจราจรทางอากาศไม่เพียงพอ ตอนเกิดเหตุเครื่องบินชนเฮลิคอปเตอร์

วันที่ 31 มกราคม 2568 เวลา 14:52 น.


วอชิงตัน, 31 ม.ค. ซินหัว รายงานว่า — เมื่อวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) เดอะนิวยอร์กไทม์สเปิดเผยว่ารายงานภายในขององค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ ชี้ว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศที่ปฏิบัติงานขณะเกิดเหตุโศกนาฏกรรมอากาศยานชนกันในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ “กำลังทำงานที่ปกติต้องใช้เจ้าหน้าที่สองคน”

รายงานเบื้องต้นขององค์การฯ ระบุว่าการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำหอควบคุมการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานแห่งชาติโรนัลด์ เรแกน วอชิงตัน อยู่ใน “ภาวะไม่ปกติ” ขณะเกิดเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารชนกับเฮลิคอปเตอร์ทหารกลางดึก ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 67 ราย

เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศที่รับผิดชอบการกำกับควบคุมเฮลิคอปเตอร์ภายในอาณาบริเวณใกล้เคียงท่าอากาศยานฯ เมื่อคืนวันพุธ (29 ม.ค.) ยังทำหน้าที่ควบคุมเครื่องบินลำต่างๆ ที่กำลังลงจอดและขึ้นบินจากรันเวย์หลายเส้น ซึ่งถือเป็นงานที่ปกติแล้วต้องใช้เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศแยกกัน 2 คน

ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) ว่ามีการแจ้งเตือนล่วงหน้าบางส่วนก่อนเกิดเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารชนกับเฮลิคอปเตอร์กลางอากาศใกล้กับท่าอากาศยานฯ เมื่อคืนวันพุธ (29 ม.ค.) แต่การแจ้งเตือนนั้นล่าช้าอย่างมาก

ทรัมป์กล่าวว่าเขาได้ฟังเสียงบันทึกเทปที่น่ากลัวมาก โดยเฉพาะสิ่งที่เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศกำลังพูดถึง ขณะเดียวกันทรัมป์กล่าวว่ามีปัญหาเกี่ยวกับนักบินจากจุดของเฮลิคอปเตอร์ พร้อมยืนยันว่าไม่มีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ชนกันครั้งนี้ และการดำเนินงานในปัจจุบันปรับเปลี่ยนสู่การฟื้นฟูเยียวยาผลกระทบ

จอห์น ดอนเนลลี หัวหน้าสำนักดับเพลิงและการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินของเขตโคลัมเบีย กล่าวเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) ว่ามีการค้นพบร่างผู้เสียชีวิต 28 รายแล้ว ซึ่งเป็นผู้โดยสารจากเครื่องบิน 27 ราย และทหารจากเฮลิคอปเตอร์ 1 ราย

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม