วันที่ 31 มกราคม 2568 เวลา 21:12 น.
ตำรวจร่วมหารือทูตนานาประเทศ ตอบรับเข้าร่วมศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศ ปราบอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ออกมาตรการเข้มป้องกันการลักลอบข้ามแดนของต่างชาติ
วันนี้ (31 ม.ค.68) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ และ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศตคม.ตร./ผอ.ศปอส.ตร.) เป็นประธานการประชุมหารือความร่วมมือระหว่างประเทศปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมออนไลน์ โดยมี พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลน์ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. พ.ต.อ.ทรงกลด เกริกกฤตยา รอง ผบก.อก.บช.ส.รรท.ผบก.ปคม. พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตและผู้แทนจากนานาประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา อินโดนีเซีย ลาว เมียนมา ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย จีน บราซิล สหรัฐอเมริกา โมร๊อคโค อินเดีย เคนยา ยูเครน บังกลาเทศ รัสเซีย และผู้แทนจากสำนักงานป้องกันยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) กระทรวงการต่างประเทศ, และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการเชิญประเทศที่มีประชาชนถูกหลอกลวงให้ไปทำงานแก๊งคอลเซนเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเป็นการเดินทางผ่านประเทศไทย จากการพูดคุยขอความร่วมมือให้หลังจากนี้การประสานงานแต่ละประเทศเป็นไปโดยง่าย ขอให้สามารถพูดคุยกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน
“กรณีที่พบคนชาติใดก็ตามเดินทางไปในพื้นที่เป้าหมาย เช่น อำเภอแม่สอด ไม่ว่าจะเป็นการผ่านทางบกหรือทางอากาศ และไม่มีแผนการท่องเที่ยวที่ชัดเจน ทางเจ้าหน้าที่ประจำด่านจะต้องติดต่อกลับไปทางสถานทูตชาตินั้นๆเพื่อให้สื่อสารกันระหว่างคนของชาติ เป็นการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ ผลจากการหารือคือสถานทูตมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะทำตามแผนนี้คนต่างชาติที่เข้าพื้นที่อำเภอแม่สอดจะถูกซักถามเช่นเดียวกับ การที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าทางสนามบิน จะต้องมีการให้ข้อมูลได้ในส่วน ของการท่องเที่ยวเดินทางที่ชัดเจน” พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าว
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าจากข้อมูลที่ได้รับบุคคลที่ข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านด้วยทางผ่านอำเภอแม่สอด ทั้งหมด 100% ไปด้วยความสมัครใจ บางคนไปทำธุรกิจ ไปท่องเที่ยวจริง แต่ส่วนหนึ่งไปโดยไม่มีความชัดเจนว่าไปท่องเที่ยวที่ไหน ในที่ประชุมยังมีการหารือเพื่อที่จะปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านไทยแต่เกิดขึ้นทั่วโลก
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ทางการจีน ลงพื้นที่ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านและให้ข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ไทยอยู่เบื้องหลังแก๊งคอลเซนเตอร์ พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวยืนยันว่ายังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ การลงพื้นที่ของทางการจีน เป็นเพียงการตรวจตราตามศูนย์ประสานงานระหว่างชายแดน
ส่วนการที่ทางการไทยเตรียมตัดไฟฟ้าและระบบสื่อสารกับประเทศเพื่อนบ้านนั้น พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ไทยได้ตัดระบบสื่อสารครั้งใหญ่สุดไม่นานนี้ที่เมืองเมียวดี ซึ่งเป็นเส้นใหญ่ที่สุดพิสูจน์ทราบเชื่อได้ว่าสายสื่อสารดังกล่าวจะสามารถเลี้ยงระบบสื่อสารในเมืองดังกล่าวได้ทั้งเมือง และสามารถลากข้ามไปยังศูนย์กลางเศรษฐกิจพิเศษได้ 20 ถึง 30 กิโลเมตร
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ในที่ประชุมเห็นตรงกันในเรื่องการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ และอีกส่วนคือกังวลคือช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างในเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์หลายประเทศยังมีคนของเขาที่ถูกหลอกอยู่ ส่วนสถานการณ์คอลเซนเตอร์ทางเหนือของแม่สอดที่มีรายงานว่ามีจำนวนลดลง จำนวนนี้เชื่อว่ากำลังเคลื่อนย้ายฐานที่ตั้งไปตรงข้ามจังหวัดกาญจนบุรี
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความยินดีที่ได้รับความร่วมมือจากสถานเอกอัครราชทูตนานาประเทศ ในการเข้าร่วมศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศ ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อยุติปัญหาดังกล่าวให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเตรียมการจัดตั้งศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการประชุมติดตามประเมินสถานการณ์ทุกวัน ในเวลา 08.30 น. โดยเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป