หญิงชาวยูกันดาแกล้งชัก หลังเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารพบอยู่ในไทยเกินที่ได้รับอนุญาต (Overstay) เกือบ 2 ปี

จากกรณีที่โลกโซเชียลได้โพสต์ภาพวิดีโอ กลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียนับ 100 ชีวิต เช่าเสื่อปูจับจองพื้นที่หลับนอน บางกลุ่มนั่งดื่มแอลกอฮอล์เกลื่อนชายหาด ทั้งยังทิ้งขยะ พร้อมข้อความว่า indian Tourists in Pattaya โดยมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก หวั่นทำลายภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว

พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรใหญ่ ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1, พ.ต.ท.ศุภรัตน์ มีปรีชา สารวัตร ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา, เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และตัวแทนจากสมาคมชาวอินเดียในเมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตลอดแนวชายหาดพัทยา จนทราบว่าบุคคลที่นอนและนั่งดื่มอย่างสนุกสนาน และทิ้งขยะจนเกลื่อนขายหาดนั้น ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวเมียนมา ที่มีลักษณะคล้ายกับคนอินเดีย

จากการสอบถามได้ข้อมูลว่า กลุ่มแรงงานต่างด้าวเหล่านี้จะเลือกพื้นที่ชายหาดพัทยาเป็นจุดนัดรวมตัว สำหรับพักผ่อนหลังเลิกงาน โดยจะมาเช่าเสื่อแล้วนั่งจับกลุ่มล้อมวงดื่มเหล้าพูดคุยเฮฮากันจนดึก บางรายเมาหนักจนกลับไม่ไหวก็จะนอนกันอยู่ในจุดนั้นจนถึงเช้าก่อนแยกย้ายกันไปทำงาน

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประชาสัมพันธ์ในเรื่องการรักษาความสะอาด รวมไปถึงการที่จะมานอนรวมตัวกันจนเต็มชายหาดนั้นขอให้หลีกเลี่ยง เพราะเป็นภาพที่ไม่น่าดู

นอกจากนี้ยังได้ทำการสุ่มตรวจเอกสารแสดงตัวบุคคลของชาวต่างชาติที่อยู่ในละแวกนั้น พบว่ามีหญิงผิวดำ อายุ 39 ปี สัญชาติยูกันดา ท่าทีมีพิรุธ ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจสอบเอกสารแสดงตัวบุคคล แต่เจ้าตัวกลับวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจนทัน เจ้าตัวก็แกล้งลงไปนอนชักดิ้นชักงออยู่บนหาดทราย ภายหลังได้ตรวจสอบพาสปอร์ต จึงรู้สาเหตุที่วิ่งหลบหนี เนื่องจากอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินที่ได้รับอนุญาต หรือ โอเวอร์สเตย์ (Overstay) ตั้งแต่ปี 2023 นับว่านานถึง 603 วัน หรือเกือบ 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2566 จึงควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา และผลักดันกลับประเทศต่อไป

เครดิต Superball