วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 03:30 น.
ตำรวจสอบสวนกลาง รวบโค้ชฟุตซอลโรงเรียนดัง ถ่ายคลิปอนาจาร ล่วงละเมิดนักกีฬา
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์, พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก., พ.ต.อ.ทรงกลด เกริกกฤตยา รอง ผบก.ฯ รรท.ผบก.ปคม., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ และ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม. สั่งการให้
เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปคม. นำโดย ว่าที่ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม., พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยะวงค์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม., พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์, พ.ต.ท.เอกรณการ นาคนิยม รอง ผกก.1 บก.ปคม. และ พ.ต.ท.ณัฏฐพัชร์ งามประดิษฐ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม.
ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ชายไทย อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 883/2568 ลงวันที่ 10 ก.พ.68
ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน
กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น โดยกระทำแก่ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยกระทำด้วยประการใด บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด
พฤติการณ์ บก.ปคม. มีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบ รวมถึงการกระทำความผิดที่เป็นการละเมิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ทุกประเทศทั่วโลก ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อวันที่ 7 ก.พ.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ได้รับแจ้งจากผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯว่า โค้ชฟุตซอลของโรงเรียน มีพฤติกรรมบังคับให้นักกีฬาฟุตซอล ซึ่งเป็น ลูกศิษย์ในความดูแล สำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง พร้อมทั้งบันทึกภาพและวิดีโอเก็บไว้ โดยได้กระทำต่อเนื่อง มานานกว่า 8 เดือน ตั้งแต่เดือน มิ.ย.67 ถึงวันที่ 6 ก.พ.68 โดยใช้ตำแหน่งและอำนาจในการควบคุมเด็กนักกีฬา ทำให้เด็กไม่กล้าขัดขืน และต้องยอมทำตามคำสั่ง
หลังจากรับแจ้ง กก.1 บก.ปคม. จึงได้เร่งทำการสืบสวน จนพบว่า “ชายคนดังกล่าว" เป็นอาจารย์และโค้ชผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอลของโรงเรียนซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ จึงได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวน พบพยานหลักฐานต่างๆ ที่ชี้ชัดได้ว่า มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนหลายครั้ง จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุม ที่สนามแข่งฟุตซอล ภายในสถานศึกษาแห่งหนึ่ง โดยหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นภายในสถานที่เก็บตัวนักกีฬาฟุตซอลภายในโรงเรียน และสามารถตรวจยึดของกลาง ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดในคดี ดังนี้ โทรศัพท์มือถือ สีเงิน จำนวน 1 เครื่อง, ไอแพด พร้อมอุปกรณ์ชาร์ต จำนวน 1 ชุด เสื้อยืด และกางเกงขาสั้น จำนวน 1 ชุด
จากการตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้ต้องหาดังกล่าว พบภาพนิ่งและคลิปวิดีโอลามกอาจารของเด็กนักเรียนชายหลายราย ซึ่งเป็นนักกีฬาฟุตซอลในความปกครองของผู้ต้องหา กำลังสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ
และจากการสอบถามเด็กผู้เสียหาย ทราบว่าผู้ต้องหาจะใช้วิธีการข่มขู่และบีบบังคับทางจิตใจ ทำให้เด็กเกิดความหวาดกลัว ไม่กล้าขัดขืน ต้องทำตามที่ผู้ต้องหาสั่ง เพราะถ้าไม่ทำตามอาจถูกตัดออกจากทีมและ หมดอนาคตในการเป็นนักกีฬาฟุตซอล เด็กที่ตกเป็นเหยื่อจึงไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง จนกระทั่งผู้ปกครองสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ จึงได้สอบถามเด็กจนทราบเรื่อง และตัดสินใจพาเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่สุด