24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 15 ก.พ.68

>> จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาลักลอบเข้าเมืองยามดึก 23 คน

08.30 น. หน่วยเฉพาะกิจราชมนู โดย กองร้อยเครื่องยิงหนัก หน่วยเฉพาะกิจราชมนู จัดกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการ ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ช่องทางข้าม บริเวณ สะพานมิตรภาพ (ไทย - พม่า) แห่งที่ 1 ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย บ.ริมเมย ม.2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก จึงเข้าตรวจสอบกลุ่มบุคคลดังกล่าว

ผลการปฎิบัติ พบเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 23 คน (ชาย 13 ราย / หญิง 10 ราย) จากการซักถามทราบว่าลักลอบเดินข้ามแม่น้ำเมยมาเพื่อไปทำงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หน่วยจึงได้ควบคุมตัวส่ง จนท.ตร.สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

>> จับสาวรัสเซียเปิดร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า บารากุ ให้นักท่องเที่ยว บนเกาะพะงัน

12.00 น. ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกันจับกุมเจ้าของร้านแอบลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าให้นักท่องเที่ยว ในพื้นที่ อ.เกาะพะงัน จำนวน 2 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก รายแรกจับกุมหญิง อายุ 27 ปี สัญชาติรัสเซีย และจับลูกจ้างสาว อายุ 41 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 47 อัน, เตาบารากุ จำนวน 9 เตา และยาบารากุ จำนวน 60 กล่อง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน

รายที่ 2 ร่วมกันจับกุม น.ส.พิน (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี ภายในร้านขายเสื้อผ้ามือสอง ไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 33 อัน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดี

>> สน.ลุมพินี - พม. ลุยตรวจจับขอทานย่านถนนสุขุมวิท

14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี พร้อม นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกันจัดระเบียบผู้ทำการขอทาน บริเวณถนนสุขุมวิท ตั้งแต่ สุขุมวิทซอย 3 จนถึงแยกอโศกมนตรี

พบผู้กระทำการขอทาน 8 ราย พร้อมผู้ติดตาม รวมจำนวน 13 คน โดยได้ดำเนินการเชิญตัวผู้ถูกจับกุมมาทำการคัดกรอง,ทำบันทึกจับกุม ที่ สน.ลุมพินี เนื่องจากกระทำผิดตามมาตรา 13 ของพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 ทั้งนี้ได้เปรียบเทียบปรับและดำเนินการตามกระบวนการฯ และได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับและ เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับตัวไปส่งที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เพื่อทำการตรวจสอบ DNA และทำการติดต่อหาพ่อแม่ หรือผู้ปกครองเด็กมารับตัว และจะทำบันทึก ข้อมูลพ่อแม่ หรือผู้ปกครองส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจสอบและดำเนินการตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

>> ดินสไลด์ถล่มทับ 2 คนงาน บาดเจ็บ กู้ภัยนำอุปกรณ์ช่วยชีวิต ก่อนนำส่ง รพ.

15.50 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากทาง รพ.หนองกี่ ว่า มีเหตุดินสไลด์ถล่มทับคนงานก่อสร้าง ขณะกำลังก่อสร้างท่อระบายน้ำใน รพ.หนองกี่ มีคนงานถูกดินทับ 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยหนองกี่ จึงนำอุปกรณ์เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย ชื่อนายบุญธรรม อายุ 55 ปี ถูกดินถล่มทับถึงต้นขา และนายสากล อายุ 35 ปี ถูกดินถล่มทับสูงถึงลำคอ หน่วยกู้ภัยจึงได้ใช้อุปกรณ์และเครื่องตัดถ่าง เร่งทำการช่วยเหลือทั้ง 2 คน โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จึงสามารถช่วยเหลือ 2 คนงานออกมาได้อย่างปลอดภัย จากการตรวจสอบสภาพร่างกายเบื้องต้นพบมีรอยขีดข่วน รอยฟกช้ำตามร่างกาย และมีอาการตื่นตกใจ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ประสบเหตุทั้งสองรายส่ง รพ.หนองกี่ เพื่อตรวจสภาพร่างกายอีกครั้ง

>> ระทึก! แผงเหล็กเวทีถล่ม ทับ สส.ยโสธร กระดูกสันหลังแตก ส่วนซาบีดาเจ็บที่ศีรษะเล็กน้อย

16.00 น. ที่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร มีรายงานอุบัติเหตุในงานบวงสรวงท้าวพรหมสหัสบดีและพญานกกระทา ปี 2568 ซึ่งมีประธานในพิธีเปิดคือ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย

ขณะที่ น.ส.ซาบีดา เปิดงานอยู่บนเวที เกิดมีลมกระโชกแรง ทำให้ฉากนั่งร้านขนาดใหญ่ของเวทีด้านหลังพังพล่มลงมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เร่งนำส่ง รพ.เลิงนกทา เบื้องต้นทราบว่า น.ส.ซาบีดา ถูกแผงเหล็กที่บริเวณศีรษะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และสามารถดำเนินการเปิดงานและร่วมถ่ายรูปร่วมกับพี่น้องประชาชนต่อได้ ก่อนจะเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยายาบาล และเข้ารับการตรวจร่างกาย ผลเป็นปกติ และกลับบ้านแล้ว

ขณะที่ นายธนพัฒน์ ศรีชนะ ส.ส.ยโสธร พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเข้าร่วมงานด้วยนั้น ทราบว่าจากผลเอ็กซเรย์และซีที สแกน พบกระดูกสันหลัง T3 แตก จึงส่งต่อไป รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ด้าน นายสุทธิชัย จรูญเนตร สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย รักษาต่อที่ รพ.เอกชน

>> รวบหนุ่มเยเมน ลอบขายน้ำผึ้งเสริมสมรรถภาพทางเพศ ยึดของกลางกว่า 1.5 ล้านบาท

18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) โดย พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ. พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการทลายสถานที่นำเข้า จัดเก็บ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มเสริมสมรรถภาพทางเพศรายใหญ่ ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดของกลาง จำนวน 10 รายการ รวม 7,942 ชิ้น มูลค่ากว่า 1,500,000 บาท

สืบเนื่องจากปรากฎข่าวเตือนภัยตามสื่อเกี่ยวกับ กระแสการบริโภค ซองน้ำผึ้ง (honey packets) ซึ่งกำลังระบาดในกลุ่มวัยรุ่นอเมริกา และยุโรป เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ในผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเรียกต่างๆ เช่น "Royal Honey for Him" และ "X Rated Honey for Men" โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ได้ประกาศเตือนภัยถึงผลการทดสอบ ผลิตภัณฑ์ซองน้ำผึ้ง ว่ามีส่วนผสมของตัวยารักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศผสมอยู่ ซึ่งยาเหล่านี้เป็นยาที่ต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง ผู้แพ้ยา และเป็นอันตรายอย่างยิ่งในกรณีทานเกินขนาด ซึ่งผู้บริโภค อาจไม่ทราบว่ามีการผสมตัวยาดังกล่าวเอาไว้

ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค จึงมีการเฝ้าระวังการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มเสริมสมรรถภาพทางเพศที่มีการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มาโดยตลอด โดยพบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มเสริมสมรรถภาพทางเพศรายใหญ่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงเข้าจับกุมได้พร้อมของกลาง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

ชื่นชม! แท็กซี่คนดี เก็บเงินสด 5.5 หมื่น ประสาน สวพ.FM91 คืนเจ้าของคนไทย

>> 17.50 น. ที่สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM91 กองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. คุณสกล ถาวรกาญจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายสื่อสารองค์กร สถานีวิทยุ สวพ.FM91 คุณจิตรภณุ ภูมิฉัฏฐ์มงคล ผู้จัดการ ฝ่ายรายการ TRAFFIC RADIO 104.5 ขอนแก่น สถานีวิทยุในเครือ บริษัท วิไลเซ็นเตอร์แอนด์ซันส์ จำกัด ผู้ร่วมดำเนินงานสถานีวิทยุ สวพ.FM91 ร่วมเป็นสักขีพยาน ส่งมอบเงินสด 55,000 บาท ส่งคืนเจ้าของคนไทย

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 คุณประสิทธิ์ มีอนุภาพ อายุ 56 ปี ชาวกทม. โชเฟอร์แท็กซี่ สีเหลือง ทะเบียน ทห-1420 กทม. เดินทางมาที่สถานีวิทยุ สวพ.FM91 โดยแจ้งว่า เก็บเงินสดได้ จำนวน 55,000 บาท ไม่มีเอกสารระบุชื่อ จึงนำมาฝากไว้ที่ สวพ.FM91 ประกาศตามหาเจ้าของ

ต่อมา สวพ.FM91 ได้รับแจ้งจาก คุณนพดล น้อยไพโรจน์ ระบุว่า ตนเองได้ลืมธนบัตรหนึ่งพันบาท จำนวน 1 ปึก เป็นเงินจำนวนประมาณ 50,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจะต้องนำไปใช้ทำธุระซึ่งตนเองจำไม่ได้ว่า ลืมไว้บนรถแท็กซี่คันไหน ระหว่างคันแรก ขึ้นจากภัตตาคารแห่งหนึ่ง ตรงสะพานพระราม 8 โดยบอกให้โชเฟอร์ไปส่งที่โรงแรม แถวสะพานกรุงธน แต่สื่อสารเรื่องเส้นทางกันไม่เข้าใจ จึงได้ลงกลางทาง ก่อนที่จะเรียกรถแท็กซี่อีกคัน มาลงที่โรงแรมแถวสะพานกรุงธน

คุณนพดล น้อยไพโรจน์ เจ้าของเงิน กล่าวว่า “ตนเองทำงานที่ลำปาง เดินทางมาทำธุระที่กรุงเทพฯ ใช้บริการรถแท็กซี่และไปร้านอาหารไม่แน่ใจว่า หายที่ไหน แต่พอรู้ว่าเงินหายไป ตกใจมาก ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ไม่รู้จะได้คืนหรือไม่ คิดว่าน่าจะยาก จึงติดต่อเพื่อนรุ่นพี่ เค้าแนะนำให้โทรมาที่ 1644 สวพ.FM91 จากนั้นได้รับการติดต่อกลับ ว่า มีแท็กซี่นำมาคืนไว้ พร้อมส่งคืนรู้สึกใจชื้น ดีใจมาก เพราะจะนำเงินมาจ่าย ค่าของต่างๆ และจะเดินทางกลับช่วงเช้าพรุ่งนี้แล้ว ขอบคุณสวพ.FM91และแท็กซี่คนดี ที่เก็บได้และส่งคืน” ทั้งนี้ เจ้าของเงินได้มอบสินน้ำใจ จำนวนหนึ่ง ให้กับแท็กซี่คนดี เพื่อเป็นการขอบคุณและชื่นชมในความดี

>> รวบตัวได้แล้วพ่อค้ายา กระโดดรถไฟหนี 14 ชั่วโมง เข้าวัดขอเงินพระค่ารถกลับพัทลุง

19.30 น. กรณีผู้ต้องหาชาย อายุ 31 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง คดีค้ายาเสพติดและคดีอื่นๆ ในท้องที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.พัทลุง รวม 4 คดีถูกจับที่ประเทศเมียนมา ได้หลบหนีการควบคุมตัวของตำรวจกองปราบปราม จากรถไฟขบวน 169 สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ – ยะลา เมื่อเวลา 03.30 น.ช่วงสถานีรถไฟท่าชนะ-สถานีรถไฟไชยา ระหว่างจะนำไปส่งดำเนินคดีที่สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง

ระหว่างหลบหนีได้ขโมยเสื้อและรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านหมู่ที่ 1 ต.วัง อ.ท่าชนะ ที่จอดเสียบกุญแจทิ้งไว้ขับหลบหนีได้ 3 กิโลเมตรน้ำมันหมดไปจอดทิ้งที่บ้านในเขา หมู่ที่ 1 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ และเดินเท้าหลบหนี

โดยชุดไล่ล่า ตชด. 434 พัทลุง ร่วมกับ ตชด.417 สุราษฎร์ธานี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ในสวนยาง ท้องที่ ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ท่าชนะ โดยก่อนถูกจับผู้ต้องหาได้เข้าไปที่วัดแห่งหนึ่ง ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ ขอเงินพระลูกวัดเพื่อจะนั่งรถกลับจ.พัทลุง พร้อมจะขอเลขบัญชีของพระเพื่อให้ญาติโอนเงินคืนให้ และจะขอยืมโทรศัพท์โทรหาญาติที่ จ.พัทลุง แต่พระไม่มีเงินให้

>> เพลิงไหม้ทาวน์โฮม ย่านทุ่งครุ หลังเพลิงสงบพบผู้เสียชีวิตหญิง 1 คน บริเวฯชั้น 3 ของบ้าน

02.10 น. (16 ก.พ.68) รับแจ้งจากศูนย์วิทยุพระรามดับเพลิง 199 รายงานรับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยประชาอุทิศ (ทุ่งครุ) 72 เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยทุ่งครุ ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณชั้นที่ 1 โดยรับแจ้งว่ามีผู้ติดค้างภายในอาคาร 1 คน

เวลา 02.30 น. เจ้าหน้าที่แจ้งล่าสุดเพลิงสงบ ส่วนผู้ติดค้างภายในอาคาร จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 คน อยู่บริเวณชั้น 3 ของบ้าน รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างตรวจสอบ