วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13:43 น.
วันนี้ (21 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง พร้อมด้วย พลตำรวจโทภานุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), พลตำรวจโทประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจโทสุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 3 คดี โดยสามารถยึดยาบ้าและไอซ์จำนวนมาก ซึ่งเป็นผลจากการสืบสวนทำลายแหล่งพักยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อตัดวงจรการกระจายเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ
โดยคดีที่ 1 จับกุมโกดังพักยาที่อ่างทอง ยึดยาบ้า 8.4 ล้านเม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดใน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จนนำไปสู่การเฝ้าติดตามโกดังต้องสงสัยใน ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่พบถุงพลาสติกสีดำจำนวนมากถูกวางไว้ภายในโกดัง พร้อมกับพบชาย 4 คนขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายใน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบยาบ้า 8,400,000 เม็ด ซุกซ่อนมากับขิงเพื่ออำพรางกลิ่น จากการสอบสวน ผู้ต้องหายอมรับว่ายาเสพติดดังกล่าวเตรียมส่งให้ลูกค้า
ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก 1 ราย รวมเป็น 5 ราย พร้อมยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง อาทิ โทรศัพท์มือถือและยานพาหนะ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ทั้งนี้ หากยาเสพติดล็อตนี้ถูกนำไปจำหน่าย จะมีมูลค่าสูงถึง 160 ล้านบาท
ส่วนคดีที่ 2 ทลายเครือข่าย “แจ็ค หนองไผ่” จับกุม 4 ผู้ต้องหา พร้อมยาบ้า 3.2 ล้านเม็ด
จากการสืบสวนเครือข่ายยาเสพติดใน จ.ลพบุรี และ จ.อ่างทอง พบว่ามีการใช้รถกระบะตู้ทึบลำเลียงยาเสพติดจากภาคอีสานลงมายังภาคกลาง กระทั่งวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 16.30 น. เจ้าหน้าที่พบรถต้องสงสัยขนยาเสพติดจาก จ.เพชรบูรณ์ เข้าสู่พื้นที่ จ.ลพบุรี โดยมีรถนำทาง เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามจนรถคันดังกล่าวมาจอดที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน ต.โคกลำพาน อ.เมืองลพบุรี ก่อนเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย
ของกลางที่ตรวจยึดได้ ได้แก่ / ยาบ้า 3,200,000 เม็ด / รถยนต์ 3 คัน ที่ใช้ในการลำเลียงยาเสพติด / โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง / เงินในบัญชีผู้ต้องหากว่า 520,000 บาท
ผู้ต้องหายอมรับว่ารับจ้างลำเลียงยาเสพติดจากภาคอีสาน เพื่อนำไปกระจายในพื้นที่ภาคกลาง
ส่วนคดีที่ 3 บช.ปส. สกัดจับรถขนไอซ์ 2.4 ตัน มูลค่ามหาศาล เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจาก บช.ปส. ว่ามีรถต้องสงสัยขนยาเสพติดจากภาคเหนือมุ่งหน้าสู่ จ.ปทุมธานี โดยใช้รถตู้ทึบ 2 คัน มีรถนำและรถปิดท้าย เจ้าหน้าที่จึงตั้งจุดสกัดบริเวณถนนสายเอเชีย จ.พระนครศรีอยุธยา และสามารถสกัดจับรถต้องสงสัยได้เมื่อเวลา 07.00 น. จากการตรวจค้นพบไอซ์จำนวน 2,464 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถตู้ทึบทั้งสองคัน พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ซึ่งรับสารภาพว่าขนยาเสพติดมาจากภาคเหนือเพื่อส่งต่อที่ตลาดไท จ.ปทุมธานี
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เปิดเผยว่า ปัจจุบันยาเสพติดมีแนวโน้มเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงและใช้พื้นที่ภาคกลางเป็นแหล่งพักคอย เจ้าหน้าที่จึงมีการตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อติดตามและสกัดกั้นแหล่งพักยา รวมถึงขยายผลถึงผู้ผลิตในต่างประเทศ
ด้านพลตำรวจโทประจวบ วงศ์สุข ระบุว่า การสืบสวนทุกคดีมุ่งเน้นไปที่เส้นทางลำเลียงและเครือข่ายนายทุน โดยจะใช้มาตรการทางกฎหมายในการยึดทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้อง
พลตำรวจโทภานุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. มีแผนยกระดับการสืบสวนแหล่งพักยาเสพติดและจะเสนอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีอำนาจขยายผลมากขึ้น รวมถึงร่วมมือกับนานาชาติในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยเฉพาะการลักลอบนำยาเสพติดส่งออกไปยังประเทศที่สาม เช่น มาเลเซีย ไต้หวัน และฮ่องกง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเดินหน้าสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม เพื่อทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย