รวบสาวแสบหลอกติ่งเกาหลี ผู้เสียหายกว่า 20 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 2.5 แสนบาท

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) โดย พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ร่วมจับกุม  น.ส.นา (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 22 มกราคม 2568 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุมได้ที่ริมถนนหน้าคอนโดสมบัติบุรี ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
         
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2566 มีผู้ใช้แอปพลิเคชัน เอ็กซ์ หรือทวิตเตอร์  โพสว่าสามารถจองบัตรคอนเสิร์ตได้ จากนั้นได้มีกลุ่มผู้เสียหายสั่งจองบัตรคอนเสิร์ตผ่านแอปพลิเคชัน เอ็กซ์ หรือทวิตเตอร์ ดังกล่าว โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าบัตรคอนเสิร์ตใบละ 7,500 บาท เข้าบัญชีธนาคาร น.ส.นา (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี (ผู้ต้องหา) ซึ่งภายหลังจากที่กลุ่มผู้เสียหายได้โอนเงินไปแล้ว ต่อมาเมื่อทวงถามขอรับบัตรคอนเสิร์ตกลับไม่สามารถติดต่อกับผู้ใช้แอปพลิเคชัน เอ็กซ์ ได้อีก ผู้เสียหายจึงได้แจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบว่า น.ส.นา (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี (ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ย่าน ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบจนพบตัวและเข้าทำการจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาและนำตัว น.ส.นา (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ยังตรวจสอบพบว่า น.ส.นา (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี  มีหมายจับอีก 1 หมาย คือ หมายจับของศาลจังหวัดชุมแพ ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” 

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาให้การว่าตนมีหน้าที่ให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าบัตรคอนเสิร์ตเข้าบัญชีธนาคารตน หลังจากนั้นตนจะโอนเงินไปยังบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ท แล้วทำซองของขวัญส่งลิงค์ไปให้กดเงินออกอีกที โดยตนจะได้ส่วนแบ่งตามจำนวนคนที่โอนมา โดยทราบว่ามีผู้เสียหายโอนเงินเข้าประมาณ 20 กว่าราย เป็นเงินประมาณ  2.5 แสนบาท