หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าวประจำวันที่ 1 มีนาคม 2568

วันที่ 2 มีนาคม. 2568 เวลา 05:13 น.


24 ชั่วโมงข่าวประจำวันที่ 1 มีนาคม 2568

>> ทลายเว็บพนันรายใหญ่ เงินหมุนกว่า 240 ล้านต่อปี ยึดทรัพย์กว่า 100 ล้านบาท

10.00 น. ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ บช.สอท. (เมืองทองธานี) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวนร่วมแถลงจับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปสมัครเป็นสมาชิกและเข้าเล่นพนันออนไลน์จากการสืบสวนพบว่า เครือข่ายเว็บพนันดังกล่าวมีเงินหมุนเวียน 20 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่ารวมกันประมาณ 240 ล้านบาทต่อปี จึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการเบื้องต้นจำนวน 12 คน

โดยเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจค้นเป้าหมายพร้อมกัน 3 จุด

จุดที่ 1 บ้านหลังหนึ่ง ย่านถนนสรรพาวุธ แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯตรวจยึดธนบัตรไทยฉบับละ 1,000 บาท รวมมูลค่า 7,260,000 บาท เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ และวัตถุคล้ายทองคำและพระเลี่ยมทอง จำนวนหลายรายการ คาดว่ามีมูลค่านับร้อยล้านบาท

จุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่ง ในซอยพัฒนาการ 38 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ตรวจยึดธนบัตรไทยฉบับละ 1,000 บาท รวมมูลค่า 3,300,000 บาท โทรศัพท์มือถือ จำนวน 10 เครื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คและอุปกรณ์ส่วนควบ จำนวน 5 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝาก บัตรกดเงินสด หลายรายการ รถยนต์ 1 คัน มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท และทรัพย์สินคล้ายทองคำแท่ง กำไลทอง แหวนเพชร และอื่น ๆ ซึ่งคาดว่ามีมูลค่านับ 10 ล้านบาท

จุดที่ 3 ห้องพักในอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง หมู่ 3 ซอยร่วมจิตรพัฒนา เทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ ตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ จำนวน 10 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง เครื่องส่งสัญญาณไวไฟ เราเตอร์ จำนวน 6 เครื่อง กล้องวงจรปิดและอื่น ๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดกว่า 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตำรวจยังจับบุคคลซึ่งทำหน้าที่แอดมิน ในการให้บริการลูกค้าเว็บพนันออนไลน์จำนวน 5 ราย หนึ่งในนั้นมีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดา ลงวันที่ 26 ก.พ.2568 ซึ่งมีหน้าที่กดถอนเงินสด โดยจับขณะกำลังถอนเงินที่หน้าตู้เอทีเอ็ม ในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ

>> จเรตำรวจฯ ยืนยันสอบเข้ม 119 คนไทย ที่รับตัวจากปอยเปต หากพบร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องรับโทษร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

12.30 น. ที่ ด่านพรมแดนคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) กล่าวถึงการรับตัว 119 คนไทยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในเมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย กัมพูชา กลับมาประเทศไทย

ระบุว่า วันนี้จะมีการรับตัวคนไทย 119 คน แบ่งเป็นเยาวชน 4 คนผู้ใหญ่อีก 115 คน ทั้งหมดจะเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง-คัดแยก โดยทางการไทยจะมีการตรวจสอบว่าบุคคลใดมีหมายจับบ้างซึ่งส่วนหนึ่งยืนยันว่าเป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับที่ผู้เสียหายคนไทยแจ้งความไว้ก่อนหน้า หากพบว่า 119 คนมีส่วนในการกระทำความผิด เกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จะมีการขอศาลออกหมายจับทุกรายโดยมีการตั้งฐานความผิด 'องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ' ถือเป็นข้อหาที่รุนแรงมีโทษจำคุกเกิน 10 ปี

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนที่ทางการกัมพูชาแถลงข่าวว่า ทั้ง 119 คนไทยไปทำกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ และการที่อยู่ในประเทศกัมพูชาไม่ได้ถูกบังคับขู่เข็ญหรือทำร้ายร่างกายไปโดยสมัครใจ ข้อมูลนี้ก็จะเป็นข้อมูลประกอบให้ทางการไทย แต่อย่างไรก็ตามทางประเทศไทยเองก็มีพยานหลักฐานที่จะดำเนินการต่อ ผลสอบสวนของกัมพูชาเพียงจะทำให้เจ้าหน้าที่ไทยทำงานก็จะง่ายขึ้น

การจัดการ 119 คนไทยที่ทำผิด ตำรวจยืนยันว่าจะทำให้เป็นตัวอย่าง การที่คนไทยหลอกคนไทยต้องถูกดำเนินคดีเราไม่อยากเห็นภาพพี่คนไทยหลอกคนไทย หรือช่วยต่างชาติให้มาหลอกคนไทยแล้วกลับมาแสดงตัวว่าเป็นเหยื่อ "ใครตกเป็นเหยื่อเราก็ยินดีที่จะคัดแยกและช่วยเหลือ แต่คนที่เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เราจะต้องไปดำเนินคดีที่หนักที่สุด"พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าว

>> เพลิงไหม้บ้านวอดทั้งหลัง เจ้าของบ้านพยายามเข้าไปขนทรัพย์สิน โชคดีเพื่อนบ้านช่วยนำตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย

13.00 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่บ้านนาเจริญ ต.หนองหมี อ.ราศีไศล จ.ศรีสะเกษ นำกำลังพร้อมรถดับเพลิงตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้าน 2 ชั้น โดยมีเจ้าของบ้านเป็นหญิงและชายสูงอายุนั่งร้องไห้อยู่ข้างบ้านที่กำลังถูกไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต. หนองหมี และจาก อบต.ใกล้เคียง พร้อมทั้งชาวบ้าน ได้ช่วยกันตักน้ำใส่ถัง และช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

โดยสอบถามหญิงเจ้าของบ้านให้ข้อมูลว่าตอนเกิดเหตุไฟไหม้ตนพยายามเข้าไปในบ้าน เพื่อจะไปเอาทรัพย์สิน และโฉนดที่ดินที่อยู่บนบ้าน แต่ก็หอบมาได้แค่กระเป๋าใส่เอกสารบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากตนเดินลำบาก โชคดีที่เพื่อนบ้านเข้ามาช่วยหิ้วปีกตนออกจากกองเพลิง

โดยเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เล่าเหตุการณ์ว่าก่อนเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงดังที่ชั้น 2 ของบ้านหลังเกิดเหตุ ก่อนจะมีประกายไฟ และเห็นไฟกำลังลุกไหม้จากชั้น 2 ตอนนั้นตนก็ร้องตะโกนเรียกพี่น้อง เรียกชาวบ้านคนอื่นๆ ให้เข้ามาช่วยดับไฟ และพาตัวเจ้าของบ้านออกมาจากบ้านที่กำลังถูกไฟไหม้ ซึ่งตามปกติทุกวัน เจ้าของบ้านจะชอบนอนอยู่ในบ้าน และจะไม่ค่อยมีใครเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับแก โชคดีที่ตนเห็นเหตุการณ์ก่อน จึงเข้าไปช่วยออกมาจากบ้านได้ทัน เพราะตอนนั้น ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลยมีเพียงเจ้าของบ้านอยู่บ้านคนเดียว แล้วหวงทรัพย์สิน พยายามจะเข้าไปเอาของในบ้าน

>> สืบนครบาล บุกทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ กลางกรุง ของกลางกว่าแสนรายการ

14.30 น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล ตำรวจสน.เพชรเกษม เข้าตรวจค้นโกดังบุหรี่ไฟฟ้าของกลางเป็นจำนวนมาก มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เข้าทำการตรวจค้นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงและเขตบางแค กรุงเทพฯ หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่าบ้านเลขที่ดังกล่าวมีการลักลอบนำสินค้าผิดกฎหมายลักษณะหลีกเลี่ยงกฎหมายศุลกากรเข้ามาเก็บภายในบ้าน

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นพบของกลาง หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 343,600 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้าชนิดพร้อมสูบ จำนวน 10,000 ชิ้น โดยโกดังชั้นล่างพบ 568 ลัง 227,200 ชิ้น มูลค่า 22,720,000 บาท ส่วนชั้นบนพบ 116,400 ชิ้น มูลค่า 11,640,000 บาท รวมมูลค่าของกลางประมาณ 30 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นพบผู้ต้องหาเป็นชาย 1 ราย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการสืบสวนรวมรวมพยานหลักฐานขยายผลนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> พายุฤดูร้อนพัดถล่ม 2 อำเภอ จ.เพชรบูรณ์ บ้านพังเสียหายกว่า 30 หลัง

15.00 น. จากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้เกิดพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง และ ลมกระโชกแรง พัดถล่มในพื้นที่อ.หล่มสัก และ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ บ้านเรือนราษฎรถูกกระแสลมที่กระโชกแรง พัดถล่มพังเสียหายไปกว่า 30 หลังคาเรือน

โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รายงานสถานการณ์วาตภัย เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ว่า ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ในพื้นที่อำเภอหล่มสัก จำนวน 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ 4 และหมู่ 6 ตำบลบ้านไร่ มีบ้านเรือนพังเสียหาย ในเบื้องต้นจำนวน 6 ครัวเรือน และในพื้นที่อำเภอศรีเทพ 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ 9 และหมู่ 16 ต.คลองกระจัง มีบ้านเรือนพังเสียหาย ในเบื้องต้นจำนวน 26 ครัวเรือน รวมพื้นที่ประสบภัย 2 อำเภอ 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย จำนวน 32 ครัวเรือน

ทั้งนี้ นายศรัณยู มีทองคำ ผวจ.เพชรบูรณ์ สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ให้ นายอำเภอหล่มสัก นายอำเภอศรีเทพ และนายกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จัดชุดปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน เร่งสำรวจความเสียหายให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ แจ้งกำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกแห่ง ได้เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรกลสาธารณภัย รองรับสถานการณ์ เพื่อให้พร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ตลอด 24 ชม.

>> เสียงร้องไห้ระงม เผาแล้ว 18 ร่างผู้เสียชีวิต เหยื่อรถทัวร์พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทนที่ปราจีนบุรี

17.00 น. จากอุบัติเหตุรถทัวร์ 2 ชั้น เดินทางจากจ.บึงกาฬ ไปดูงานที่จ.ระยอง เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำบนถนนสาย 304 บริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มีผู้เสียชีวิต 18 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก

โดย ที่​วัดป่าวิเวกธรรมคุณ​ ต.พรเจริญ​ อ.พรเจริญ​ จ.บึงกาฬ​ ได้มีพิธีฌาปนกิจศพร่างผู้เสียชีวิต หลังเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิต ออกมาเข้าประจำที่เชิงตะกอน​ ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้าและอาลัยจากครอบครัว

สำหรับเงินช่วยเหลือ​ และค่าสินไหมทดแทน​ เบื้องต้น​ที่ญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง​ 18 รายจะได้รับ​ คือ​ เงินค่าจัดการศพ​ 29,700 บาท/ราย​ จากเทศบาลตำบลพรเจริญ​​ เงินจากกระทรวงยุติธรรม​ 200,000 บาท/ราย​ เงินจาก​ ประกันภัย​ภาคบังคับ พรบ.​ 500,000​ บาท/ราย​ เงินจากประกันภัยภาคสมัครใจ​ ประเภท​ 3 500,000​ บาท/ราย​ ส่วนค่าใช้จ่ายการจัดงานศพ​ เทศบาลตำบลพรเจริญจะเป็นผู้รับผิดชอบ​ทั้งหมด

>> เก๋งเสียหลักแหกโค้งชนเสา ก่อนพุ่งตกหนองน้ำเสียชีวิต

19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักพุ่งตกไปในหนองน้ำขนาดใหญ่ มีคนติดคาอยู่ภายในรถ ริมถนนแหลมมะขาม ซอย 12 ต.ทับมา อ.เมืองระยอง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์รพ.ระยอง แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมนักประดาน้ำ หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล

ที่เกิดเหตุเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ กว่า 20 ไร่อยู่ติดกับถนน พบร่องรอยรถเสียหลักพุ่งชนเสากั้นทางโค้งจนหักแล้วตกลงไปในหนองน้ำจมหายทั้งรถทั้งคน เศษชิ้นส่วนรถยนต์ตกอยู่ โดยมีคนงานแคมป์ก่อสร้าง ให้ข้อมูลว่า ขณะนั่งอยู่ในแคมป์คนงานได้ยินเสียงรถชนและเสียงดังตูมมาทางหนองน้ำ

จึงรีบเดินไปดูเห็นรถเก๋งสีขาวกำลังจมลงไปในน้ำกว่าครึ่งคันแล้ว รีบตะโกนให้เพื่อนคนงานมาช่วย แต่ไม่ทันรถจมหายไปทั้งคันอย่างรวดเร็ว จากนั้นทีมนักประดาน้ำลงงมค้นหาใช้เวลาค้นหาในน้ำประมาณ 1 ชั่วโมง จึงพบรถยนต์และนำร่างคนขับที่ติดคาอยู่ในรถขึ้นมา เป็นผู้ชาย สภาพศพไม่พบบาดแผล คาดจมน้ำขาดอากาศหายใจเสียชีวิต จากนั้นเจ้าหน้าที่ประสานรถเครนมายกรถเก๋งขึ้นจากน้ำ พบเป็นรถเก๋งฮอนด้า สีขาว ทะเบียน จ. ระยอง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพร้อมเร่งติดตามญาติมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

>> ด.ต.เกิดวูบ ทำรถตำรวจทางหลวงลงข้างทาง ผู้ต้องหาบาดเจ็บ

20.20 น. พ.ต.อ.สำเนาว์ กรุยกระโทก ผกก.สภ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถสายตรวจตำรวจทางหลวงเสียหลักตกถนนพลิกคว่ำพังยับเยิน มีตำรวจและผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บ ริมถนนมิตรภาพ ช่วงหน้าโรงพยาบาลโนนศิลา อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น จึงรีบแจ้งประสานพนักงานสอบสวนรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัย

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งสายตรวจตำรวจทางหลวง ทะเบียน 4 ขข 6606 กทม. สภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้าพังยับเยินทั้งคัน โดยมีนายดาบตำรวจ คนขับรถได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่หว่างคิ้ว ส่วนผู้ต้องหาชายบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะที่ผู้ต้องหาหญิง นอนเจ็บอยู่ข้างรถ ต้องรีบนำตัวส่งรพ.โนนศิลา ก่อนส่งต่อไปรพ.ขอนแก่น

พ.ต.อ.สำเนาว์ เปิดเผยว่า ตำรวจทางหลวงขับรถนำส่งผู้ต้องหา 2 รายจากจ.นครราชสีมา ไปที่สภ.เมืองขอนแก่น จากการสอบถาม ด.ต.คนขับ บอกว่าขณะเดินทางมาเกิดอาการวูบหลับในก่อนจะเสียหลักลงร่องกลางถนน โดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนผู้ต้องหาชายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเช่นเดียวกัน แต่ในส่วนของผู้ต้องหาหญิงขณะนี้ได้ส่งตัวรักษาต่อที่รพ.ขอนแก่น ในส่วนของทรัพย์สินราชการที่เสียหายก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม