วันที่ 4 มีนาคม. 2568 เวลา 00:14
กทม. ชวนคนกรุงร่วมแสดงพลังและลดใช้พลังงาน ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน 2 ทุ่มครึ่ง ถึง 3 ทุ่มครึ่ง เสาร์ที่ 22 มี.ค. 68
(3 มี.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเชิญชวนประชาชนและทุกภาคส่วน ร่วมแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์และลดใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นเพื่อช่วยโลกลดภาวะโลกร้อน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโลกที่ยั่งยืน ในกิจกรรม 60+ Earth Hour 2025 : ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ด้วยการปิดไฟที่ไม่จำเป็น ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน รวมถึงลดการใช้พลังงานทุกชนิด เป็นเวลา 1 ชั่วโมง พร้อมกันกับผู้คนอีกหลายล้านคนจาก 190 ประเทศ 7,000 เมืองทั่วโลก ในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568 เวลา 20.30 – 21.30 น.
ตั้งแต่ปี 2551 กรุงเทพมหานคร ร่วมกับองค์การ WWF ประเทศไทย และภาคีเครือข่าย รณรงค์กิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60 Earth Hour) ด้วยการปิดไฟที่ไม่จำเป็น เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 20.30 - 21.30 น. รวมระยะเวลา 17 ปี ลดการใช้พลังงานได้ 22,537 เมกกะวัตต์ สามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 12,272 ตัน โดยเมื่อปี 2567 จากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ 24.65 เมกกะวัตต์ เมื่อเทียบกับการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ในวันเสาร์ก่อนหน้าวันจัดกิจกรรมในช่วงเวลาเดียวกัน (โดยการคำนวณของการไฟฟ้านครหลวง) สามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 11 ตัน หรือเทียบกับการเดินทางด้วยเครื่องบิน จากกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ จำนวน 92 เที่ยวบิน หรือการใช้รถยนต์ดีเซลเป็นระยะทาง 66,000 กิโลเมตร หรือเทียบกับการปิดไฟครัวเรือน 49,500 ครัวเรือน
สำหรับปี 2568 กรุงเทพมหานคร ร่วมกับภาคีเครือข่าย ยังคงเดินหน้ารณรงค์กิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ซึ่งปีนี้กำหนดจัดกิจกรรมในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568 เวลา 20.30 – 21.30 น. ด้วยการขอความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทั้งองค์กรภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ ร้านค้า และประชาชน รวมทั้งสื่อมวลชนทุกแขนง ลดการใช้พลังงานและปิดไฟที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟประดับ ไฟอาคาร ตึกสูง ป้ายโฆษณา ไฟบ้านเรือน และการถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งานลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ในอาคารบ้านเรือน เป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยเชิญชวนร่วมแชร์การมีส่วนร่วมกิจกรรมในโซเชียลมีเดีย ด้วยการติดแฮชแท็ก คำว่า #EarthHour2025 หรือ #BiggestHourForEarth หรือ #MyHourForEarth
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือสถานที่ปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ในปีนี้ ประกอบด้วย 5 สถานที่หลัก ได้แก่ 1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร 2. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เขตบางกอกใหญ่ 3. เสาชิงช้า เขตพระนคร 4. สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด และ 5. ภูเขาทอง (วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร) เขตป้อมปราบฯ รวมถึงสำนักงานเขต 50 เขต ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย ผู้ประกอบการเจ้าของอาคาร/สถานที่ในพื้นที่เขต พร้อมใจกันร่วมปิดไฟเชิงสัญลักษณ์บริเวณอาคาร บ้านเรือนในถนนด้วย
กรุงเทพมหานคร ขอเชิญชวนประชาชน ร่วมแสดงพลังในกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน” ในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568 เรามีนัดปิดไฟที่ไม่ใช้งาน ตั้งแต่เวลา 2 ทุ่มครึ่งถึง 3 ทุ่มครึ่ง (20.30 – 21.30 น.) พร้อมกับ 7,000 เมือง 190 เมืองทั่วโลก ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟภายในบ้านแล้ว ยังเป็นการช่วยชาติประหยัดพลังงาน ประหยัดงบประมาณ และช่วยรักษ์โลกรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน และถ้าเราทุกคนร่วมมือกันทำต่อเนื่องในทุกที่ทุกเวลา จนเป็นกิจวัตรในชีวิตประจำวัน จะช่วยผลักดันให้การลดใช้พลังงานไปสู่การบรรลุเป้าหมายในการลดภาวะโลกร้อน การรณรงค์ปิดไฟ 1 ชั่วโมง ในวันนี้ ไม่ใช่แค่การแสดงพลังของคนกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่ยังเป็นการรวมพลังงานของประเทศไทย ในการช่วยกันลดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นในชีวิตประจำวันเพื่อบ้านเมืองของเรา เพื่อโลกของเรา
4 มีนาคม. 2568
4 มีนาคม. 2568