เมื่อเวลา 23:50 น.วันที่ 3 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถชนกันกันหลายคันและมีผู้บาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนสะพานข้ามคลองเจ็ก ถนนสาย 340 (บางบัวทอง-สุพรรณบุรี) ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จากนั้นจึงเร่งเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุถนนสาย 340 (บางบัวทอง-สุพรรณบุรี) ขาเข้า มุ่งหน้าเข้าเขต อ.บางบัวทอง จุดเกิดเหตุอยู่กลางสะพานข้ามคลองเจ็ก พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีฟ้า ทะเบียน กทม. สภาพรถพังเสียหายยับเยินทั้งด้านหน้าและหลัง ใกล้กันเป็นรถกระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่น นาวารา สีบรอนซ์ ทะเบียน กทม. สภาพหน้ารถและท้ายพังเสียหายเช่นกัน ส่วนอีก 1 คันเป็นรถกระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ด รุ่น เรนเจอร์ สีเทา ทะเบียน กทม. หน้ารถพังเสียหาย ซึ่งทั้ง 3 คันลักษณะชนอัดติดกันและขวางถนนจนรถอื่นไม่สามารถผ่านทางได้ ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย ชาย อายุ 43 ปี (คนขับ) , หญิง อายุ 39 ปี (นั่งข้างคนขับอาการสาหัส) และหญิงอีกราย อายุ 17 ปี (นั่งเบาะหลัง) โดยทั้ง 3 คนมากับรถเก๋ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะเดียวกันเหตุการณ์นี้ยังมีรถกระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ทะเบียน สุพรรณบุรี ที่บรรทุกชุดโต๊ะหินอ่อนมาเต็มคัน ซึ่งถูกชนที่ด้านท้ายพังเสียหายด้วย

จากการสอบถาม ชาย อายุ 37 ปีคนขับรถกระบะบรรทุกโต๊ะหินอ่อน กล่าวว่าในขณะที่ตนเองขับรถบรรทุกชุดโต๊ะหินอ่อนมาจากสุพรรณบุรี เพื่อไปส่งยังตลาดสนามหลวง 2 ถนนทวีวัฒนา กทม. ในระหว่างขับมาถึงกลางสะพาน จู่ๆก็ถูกแรงกระแทกจากด้านท้าย หลังจากนั้นตนเองก็ค่อยๆประคองรถลงไปจอดเชิงสะพาน หลังจากลงมาดูก็เห็นว่ามีความเสียหายด้านท้ายของรถ และสังเกตเห็นรถกระบะ นิสสัน นาวารา จอดอยู่บนสะพานหลังเกิดเหตุได้ประมาณ 10 นาทีรถเก๋งก็มาพุ่งชนเข้าที่ท้ายรถกระบะ นิสสัน นาวารา คันดังกล่าวขวางถนน จนกระทั่งถูกรถกระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ด มาพุ่งชนซ้ำอีกคันเป็นคันสุดท้ายจนทำให้ทั้ง 3 คันขวางถนนรถอื่นไม่สามารถผ่านทางได้

ทางด้านชาย อายุ 32 ปีคนขับรถกระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ดกล่าวว่า ขับรถมาจาก อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมุ่งหน้า อ.บางใหญ่ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบนสะพานค่อนข้างมืด และเหมือนมีอะไรขวางถนนอยู่พยายามเบี่ยงหลบไปทางซ้าย แต่ก็ไปไม่ได้จึงตัดสินใจเหยียบเบรคเต็มแรงแต่ไม่ทันทำให้เกิดพุ่งชนซ้ำดังกล่าว ขณะที่ชาย อายุ 42 ปีคนขับรถกระบะนิสสัน นาวารา ให้การเพียงว่าระหว่างขับมายอมรับว่ามองไม่เห็นรถกระบะที่บรรทุกโต๊ะหินอ่อนจนพุ่งชนท้ายอย่างเต็มแรงก่อนที่ตัวรถจะจอดหยุดนิ่งอยู่บนสะพานและถูกพุ่งชนซ้ำซ้อน

หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายรถทั้ง 3 คันก่อนที่จะเปิดการจราจรซึ่งทางด้านพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำคนขับรถทั้ง 4 คันเพิ่มเติมถึงสาเหตุอีกครั้ง