24 ชั่วโมงข่าว ประจำวันที่ 8 มีนาคม 2568
>> ตำรวจแม่ฟ้าหลวง รวบผู้ต้องหา 6 คน อำพรางเป็นรถทหาร ซุกไอซ์ในถังน้ำมัน 1,500 กก.
05.00 น. บริเวณอนุสรณ์สถานวีรชน หมู่ 1 บ้านสันติคีรี ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย จับผู้ต้องหา 7 คน (ชาย 6 , หญิง 1)
โดยสืบสวนติดตามกลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติด มาจนถึงบริเวณ อนุสรณ์สถานวีรชน อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย ได้ ตรวจยึดไอซ์ ประมาณ 1,500 กก. ซุกซ่อนในถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร จำนวน 15 ถัง บรรทุกอยู่ในรถยนต์ 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ติดป้ายทะเบียนหน้ารถ ทะเบียนจักร 05875 ป้ายหลังถอดออก (อำพรางเป็นรถยนต์ทางราชการทหาร)
โดยขณะเข้าจับกุมคนร้ายได้ยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเหตุให้คนร้ายชาย จำนวน 2 คน ถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง และจับได้อีก 4 คน รวมเป็น 6 คน พร้อมยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
>> พายุงวงช้าง! ถล่มชะอำ พัดหลังคาบ้านปลิวว่อน เสียหายจำนวนมาก
11.00 น. ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงในพื้นที่ หมู่บ้านหนองโพ, หมู่บ้านหนองคาง ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และมีเกิดพายุงวงช้างขนาดใหญ่ตามมา พัดหลังคาบ้าน ป้ายโฆษณา ปลิวว่อนไปในอากาศ ก่อนที่จะตกลงมาใส่บ้านเรือนของประชาชนในละแวกใกล้เคียงได้รับความเสียหายไปกว่า10หลังคาเรือน โดยลมพายุดังกล่าวยังส่งผลให้ต้นไม้ล้มหักโค่นอีกหลายแห่งอีกด้วย แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
ต่อมา นายแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอชะอำ จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบวาตภัยในเบื้องต้น พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนรวมถึงร้านค้า ได้รับความเสียหายหลายหลังคาเรือน โดยจะส่งทีมเจ้าหน้าที่ฯ เข้าดำเนินการสำรวจมูลค่าความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
>> ก.ตร.ชี้ไล่ออก บิ๊กโจ๊ก รอ ผบ.ตร.ลงนาม
13.00 น. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการตร.มีมติไล่ออก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รองผบ.ตร.ว่า เมื่อคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ตามกฎหมาย รองผบ.ตร.ทุกคนเป็นกรรมการ ซึ่งวันประชุม พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผบ.ตร. เป็นประธาน ก่อนมีมติให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ โดย ผบ.ตร.จะต้องลงนามในคำสั่งไล่ออกจากราชการ ผบ.ตร.จะรายงานการลงโทษไปยัง ก.ตร.รับทราบ หรือมีเหตุอันสมควรจะสั่งการแก้ไขเปลื่ยนแปลงคำสั่ง ผบ.ตร.ได้ทั้งสิ้น
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า นับแต่วันที่ ผบ.ตร.ลงนามคำสั่งมีผล ผู้ถูกกล่าวหาสามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 30 วัน และมีกำหนดระยะเวลาพิจารณา 120 วัน ขยายเวลาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 60 วัน รวมทั้งสิ้น 240 วัน และหากวินิจฉัยเป็นคุณกับผู้กล่าวหา อุทธรณ์ฟังขึ้น ตร.จะต้องเรียกผู้ถูกกล่าวหากลับเข้ารับราชการภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีคำวินิจฉัย
แต่หากวินิจฉัยเป็นโทษ ยืนตามคำสั่ง ตร.ที่ให้ไล่ออกจากราชการ ผู้ถูกกล่าวหาสามารถฟ้องศาลปกครองสูงสุดภายในระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่วินิจฉัย โดยคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดเป็นที่สุด(ระยะเวลาการพิจารณา ประมาณ 1-2 ปี) หากศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดการลงโทษไล่ออกของ ผบ.ตร.เป็นไปตามกฏหมายถูกต้อง ตร.จะต้องดำเนินการในเรื่องการเสนอเพื่อถอดยศ และให้คืนเครื่องราขอิสริยาภรณ์ต่อไป
>> ไม่รอด! ตำรวจออกหมายจับ พ่อ-แม่ แก๊งไฟไหม้ทิพย์
14.35 น. จากกรณีคดีไฟไหม้บ้านพักข้าราชการแห่งหนึ่ง ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี โดยมีนายเอ (นามสมมุติ) และ นส.บี (นามสมมุติ) สองสามีภรรยา ได้เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ว่าเงินของเจ้านายที่เก็บไว้หัวเตียงถูกไฟไหม้สูญหายไป 10 ล้านบาท จนถูกออกหมายจับและตกเป็นผู้ต้องหาคดี วางเพลิงและแจ้งความเท็จ ก่อนหลบหนีออกไปยังประเทศกัมพูชา
วันที่ 8 มี.ค.68 ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับนางรุ่ง (นามสมมุติ) และนายเรือง (นามสมมุติ) พ่อและแม่ ของนายเอ (นามสมมุติ) หมายจากศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 401/68 และ 402/68 ข้อหา ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น ที่เป็นโรงเรือนที่คนอยู่อาศัยและร่วมกันร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของผู้ต้องหาได้เดินหลบหนีออกไปประเทศกัมพูชาคาดว่าทั้งหมด รวม 5 คน เพราะอาจจะรู้ว่าตำรวจจะออกหมายจับพ่อกับแม่ จึงได้พากันหลบหนีไป
>> ปทส.บุกยึดสิงโต-ไลเกอร์ลักลอบเลี้ยงไว้ในบ้านพักหรูกลางเมืองสงขลา
17.35 น. พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. รวมกับผู้เกี่ยวข้อง นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านพักหรูหลังหนึ่งในต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา หลังรับรายงานว่ามีการลักลอบเลี้ยงสัตว์ป่าอันตรายไว้ภายในบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจสอบพบสิงโตขาว เพศเมีย 1 ตัว และไลเกอร์(Liger) เพศผู้ สัตว์ลูกผสมระหว่างสิงโตกับเสือโคร่ง 1 ตัว รวมถึงงาช้าง ขนาดใหญ่อีก 2 กิ่ง โดยขณะที่เข้าตรวจค้นนั้นไม่พบตัวเจ้าของสัตว์ทั้ง 2 ตัวและงาช้าง จึงทำการตรวจยึดสัตว์และงาช้างทั้งหมดไว้เป็นของกลาง หลังจากนี้ก็จะเชิญตัวเจ้าของสิงโต มาทำการสอบสวนถึงที่ไปที่มาของสัตว์ในครอบครองทั้งหมดว่ามีเอกสารถูกต้องหรือไม่ ร่วมถึงการครอบครองงาช้างด้วย เบื้องต้นจะแจ้งข้อกล่าวหา “มีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าควบคุมโดยไม่แจ้งต่อพนักงาน”
>> กระบะข้ามเกาะกลางถนนพุ่งชนประสานงารถตู้ทึบ ดับ 3 ศพ
18.45 น. ร.ต.ท.วาทิต โตมอญ พนักงานสอบสวน สภ.ไทรงาม ได้รับแจ้งมีเหตุรถชนกันบนถนนหมายเลข115 (พิจิตร – กำแพงเพชร) หลัก กม.38-39 ม.1 ต.ไทรงาม อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ หลังรับแจ้งเดินทางตรวจสอบ พร้อมกับประสานกู้ภัยสว่างกำแพงเพชร และแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลไทรงาม
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน จ.พิจิตร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน จอดบนถนน ภายในรถมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย ติดอยู่ภายในด้านหน้า 2 ศพ ใกล้กันพบรถกระบะ 4 ล้อ ตู้ทึบ สีขาว ทะเบียน กทม. ด้านหน้ารถพังยับเยิน คนขับเสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายใน 1 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกำแพงเพชร ใช้เครื่องตัดถ่างกว่า 2 ชั่วโมง จึงนำผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากตัวรถได้
จากการสันนิษฐานเบื้องต้นรถกระบะสีขาว ได้ขับรถออกมาจากเส้นทางสายกำแพงเพชร มุ่งหน้า อ.ไทรงาม คาดว่าอาจจะหลับในรถเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางมายังช่องเดินรถที่กระบะตู้ทึบขับมาตาม ถนน 115 หมู่ 1 จาก อ.ไทรงาม มุ่งหน้ายังตัวเมืองกำแพงเพชร จนชนกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบสาเหตุเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
>> ทนายโต้ "ราชทัณฑ์" อดีตผกก.โจ้ ไม่สมัครใจขอขังเดี่ยว-ไม่ป่วยจิตเวช
19.00 น. บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางคลองเปรม ได้นำร่างของอดีตผู้กำกับโจ้ ไปชันสูตรพลิกศพที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม โดยมีญาติที่เดินทางออกมาจากภายในเรือนจำ และปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่ได้ให้นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความของอดีตผู้กำกับโจ้ ชี้แจงและนำเอกสารมอบให้กับสื่อมวลชนแทน
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ผู้กำกับโจ้ได้ฝากขอโทษพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตในคดีที่เกี่ยวกับยาเสพติดที่มีการคลุมถุงดำ โดยในวันนี้ ครอบครัวของผู้กำกับโจ้เสียใจ และยังติดใจกับสาเหตุและแรงจูงใจการเสียชีวิต เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ทางญาติได้มอบหมายให้ตนไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น เรื่องผู้กำกับโจ้ถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำทำร้ายร่างกาย โดยในเอกสารระบุชื่อผู้คุมที่เป็นคู่กรณีไว้
ต่อมา มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยผู้กำกับโจ้ตามระเบียบ โดยแจ้งว่าผู้กำกับโจ้ ขัดขืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ จนทำให้มีการย้ายแดนขัง และห้องขังแยก ซึ่งเป็นไปตามคำสั่ง ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม ที่ไม่ได้เกิดจากความสมัครใจของผู้กำกับโจ้ แต่ทางเจ้าหน้าที่อ้างว่า ผู้กำกับโจ้เต็มใจขอแยกห้องขังเดี่ยว ซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากตนไม่เห็นเอกสารลงชื่อยินยอมจากผู้กำกับโจ้ ภายหลังจากแจ้งความครั้งแรก ผู้กำกับโจ้ต้องการญาติกับทนายความเข้าไปด้วย แต่ทางเรือนจำไม่อนุญาต "ส่วนที่ระบุว่า ผู้กำกับโจ้เป็นผู้ป่วยจิตเวชนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
>> คนร้าย บุกยิง-คาร์บอมบ์ ที่ว่าการ อ.สุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่ อส. เสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บหลายราย
19.10 น. มีรายงานเหตุคนร้ายจำนวนกว่า 10 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ นั่งโดยสารรถกระบะ 1 คัน และรถเก๋ง 1 คัน ขับผ่านมาทางถนนหน้าโรงเรียนสุไหงโก-ลก ซึ่งอยู่ติดกันกับที่ว่าการ อ.สุไหงโก-ลก เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมีรถยนต์กระบะขับนำหน้า เมื่อถึงบริเวณจุดตรวจหน้าที่ว่าการ อ.สุไหงโก-ลก คนร้ายที่นั่งกระบะหลังจำนวน 6 ถึง 7 คนลงจากรถ จากนั้นรถเก๋งของคนร้ายที่ขับตามไล่หลังมา ได้จอดและมีคนร้ายจำนวน 5 ถึง 6 คนลงจากรถ จากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน อ.สุไหงโก-ลก ที่กำลังเข้าเวรยามอยู่ด้านหน้าประตู
ก่อนที่คนร้ายจะขับรถเก๋งซึ่งได้เตรียมประกอบคาร์บอมบ์ไว้ ไปจอดที่บริเวณหน้าอาคารห้องประชุม แล้วคนร้ายทั้ง 2 กลุ่มที่อยู่ด้านนอก ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่พร้อมทั้งได้มีการขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ จำนวน 3-4 ลูก เข้าไปในที่ว่าการอำเภอ แล้วคนร้ายได้ขับรถเก๋งคาร์บอมบ์ไปจอดแล้วรีบวิ่งหนีออกมา ก่อนที่จะมีเสียงระเบิดคาร์บอมบ์ดังขึ้น จากนั้นคนร้ายได้รีบขึ้นรถกระบะหลบหนีไป
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 ราย ส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 2 นาย เป็นอาสาสมัคร คือ
1. หมู่ใหญ่มูฮำหมัดซาบรี
2. อส.ทศพล
>> ผู้การนนท์ นำกำลังบุกจับแหล่งค้าบุหรี่ไฟฟ้าครบวงจร ได้ของกลางเพียบ
19.35 น. ตำรวจภูธรนนทบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมจับกุมแหล่งค้าบุหรี่ไฟไฟ้า ขนาดใหญ่ ที่บริเวณตลาดใหม่เรวดี ซอยเรวดี 56/1 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี ได้ผู้ต้องหาจำนวน 10 ราย ของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก , น้ำกระท่อมบรรจุขวด , คอมพิวเตอร์โน้ตบุ้ค , โทรศัพท์มือถือ 12 เครื่อง , รถกระบะตู้ทึบ 1 คัน และรถยนต์ไฟฟ้า 1 คัน จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า "ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามชาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า)" ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และ "ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร" ตามมาตรา 256 พรบ.ศุลกากร พ.ศ.2560
จากการลงพื้นที่พบว่าเป็นห้องเช่าชั้นเดียว พบแคทตาล็อกในคอมพิวเตอร์เป็นชนิดของบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้ลูกค้าเลือกสั่งทางโซเชียล นอกจากนี้ยังพบว่ามีการต้มน้ำกระท่อมขาย มีการผสมส่วนผสมอื่น แช่ในตู้เย็น ตรวจสอบในรถกระบะตู้ทึบ พบกล่องบรรจุบุหรี่ไฟฟ้า ตรวจสอบของกลางทั้งหมดมีอุปกรณ์ทุกชนิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า
ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้กันพื้นที่เพื่อเข้าตรวจสอบในช่วงสายวันนี้ วันที่ 9 มี.ค.68
>> รวบหนุ่มใหญ่ชาวฮังการี ทุบกระจกรถฉกเงิน 1.5 ล้านบาท หนีไปอาบแดดที่พัทยา
20.30 น. ตำรวจสืบสวนภาค 1 , สืบสวน จ.นนทบุรี และ สืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ควบคุมตัว หนุ่มใหญ่ชาวฮังการี อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 6 มี.ค. 2568 ข้อหา ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ สามารถจับกุมตัวได้ ขณะนอนอาบแดดริมสระน้ำที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ทะเบียน จ.ประจวบคีรีขันธ์ , เงินสด 187,850 บาท , โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เครื่องตัดสัญญานรีโมท 1 ตัว ควบคุมตัวส่งสภ.เมืองนนทบุรี
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 มี.ค.68 เวลา 12.30 น. มีผู้เสียหายนักธุรกิจหนุ่มวัย 38 ปี ได้ขับรถยนต์โตโยต้า ทะเบียน กทม. ไปจอดลานจอดรถ ชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งบนถนนงามวงศ์วาน ก่อนจะไปเบิกเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท จากธนาคารแรก เพื่อนำเงินไปฝากอีกธนาคาร แต่เนื่องจากมีคนมาใช้บริการจำนวนมาก ได้นำเงิน 1.5 ล้านบาท ไปเก็บไว้ที่รถ และกลับเข้าไปทำธุระภายในห้าง จากนั้นกลับมาที่รถเพื่อนำเงินไปฝาก ปรากฏว่ากระจกประตูหลังด้านขวาถูกทุบแตกทั้งบาน เงินจำนวน 1.5 ล้าน ได้หายไป โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติ หลบหนีไปที่บ้านพัก แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม. ได้เปลี่ยนป้ายทะเบียนรถ จยย.แล้วขับหลบหนีไปกบดานที่ พัทยา จ.ชลบุรี จนกระทั่งถูกตำรวจตามไปจับกุมตัวได้ เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ซึ่งหลังจากนี้จะประสานล่ามเพื่อทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ดำเนินคดีต่อไป
9 มีนาคม. 2568
9 มีนาคม. 2568