24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 15 มีนาคม 2568
>> ปฏิบัติการสายฟ้า! ล่าเหมืองเถื่อน บุกจับขบวนการลอบใช้ไฟฟ้าขุดเหมืองบิทคอยน์ ความเสียหายกว่า 11 ล้านบาท
09.45 น. ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้นำกำลังตรวจยึดอุปกรณ์ขุดสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 63 เครื่อง , ชุดควบคุมอุปกรณ์ขุดสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 3 เครื่อง , แผงวงจรไฟฟ้า , เราเตอร์ , อุปกรณ์กระจายสัญญาณ , มิเตอร์ไฟฟ้าดัดแปลง
การจับครั้งนี้สืบเนื่องจาก ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้สืบสวนเกี่ยวกับการลักลอบใช้ไฟฟ้าตามสถานที่ต่าง ๆ หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่คลอง 6 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ว่ามีบ้านร้างหลายหลังถูกใช้เป็นแหล่งขุดเหมืองบิทคอยน์เถื่อน โดยพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้ามาดัดแปลงหม้อแปลงไฟฟ้าและมิเตอร์ไฟฟ้า เมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบอาคารพาณิชย์ 3 หลังที่มีลักษณะดัดแปลงระบบไฟฟ้าเพื่อขุดบิทคอยน์ จาาการเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายทั้ง 3 หลัง ซึ่งจากการตรวจค้นพบเครื่องขุดบิทคอยน์รวมกว่า 63 เครื่อง และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขุดเหมือง รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ตรวจสอบพบว่ามูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับการไฟฟ้าจากบ้านทั้ง 3 หลัง อยู่ที่กว่า 11 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดดำเนินคดีต่อไป
>> อุบัติเหตุ บนมอเตอร์เวย์ M6 เสียชีวิต 2 ราย
11.50 น. หน่วยกู้ภัย ฮุก31 สีคิ้ว รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำชนเสาไฟส่องสว่าง บริเวณถนนบนมอเตอร์เวย์ M6 กม.ที่ 145 บ้านหนองบัว ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ที่เกิดเหตุ บาดเจ็บ และเสียชีวิต ติดภายในยานพาหนะ อาสาสมัครกู้ภัย ฮุก 31 สีคิ้ว ดำเนินการนำอุปกรณ์ตัดถ่างให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ นำออกมาจาก ยานพาหนะได้ ผู้เสียชีวิต ที่เกิดเหตุ เป็นชาย 2 ราย ผู้บาดเจ็บหญิง 1 ราย ชาย 1 ราย เด็ก ชาย 1 ราย อาสาสมัครกู้ภัย ฮุก 31 สีคิ้ว ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลสีคิ้ว ส่วนผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 2 ราย นำส่งโรงพยาบาลสีคิ้ว เพื่อให้แพทย์ชันสูตรต่อไป เขตท้องที่ สภ.สีคิ้ว
>> คนร้ายลอบวางระเบิดรถหุ้มเกราะทหารพราน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 นาย
13.20 น. เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดโจมตีกำลังพลหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน ขณะเดินทางกลับนราธิวาส บนเส้นทางหลัก บริเวณเชิงสะพานตะลุโบะ ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กรมทหารพราน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน 8 นาย เดินทางด้วยรถยนต์กระบะหุ้มเกราะ มุ่งหน้ากลับจากการซ่อมรถที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ไปยังหน่วยในพื้นที่ จ.นราธิวาส ขณะเดินทางถึงเชิงสะพานตะลุโบะ ซึ่งเป็นพื้นที่ก่อสร้าง ทำให้ช่องทางจราจรค่อนข้างแคบ เจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ก่อเหตุรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ จึงนำระเบิดแสวงเครื่องแบบติดตั้งเร็วลอบวางไว้
เมื่อรถยนต์ของเจ้าหน้าที่มายังจุดเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้จุดชนวน แรงระเบิดทำให้รถยนต์ด้านหน้าเสียหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้ง 8 นายต่างวิ่งลงจากรถยนต์ และหาที่ปลอดภัยสำหรับกำบัง และเตรียมจู่โจม อย่างไรก็ตาม ไม่มีการก่อเหตุซ้ำ
เบื้องต้นมีการนำเจ้าหน้าที่ทั้ง 8 นาย ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี รวมทั้งมีคนงานก่อสร้างได้รับบาดเจ็บ 1 คน โดยขณะเกิดเหตุได้ขับรถยนต์บรรทุกทรายมายังพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งขับตามหลังรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างตรวจสอบและเก็บรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม รวมทั้งเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุ
>>ทลายแก๊งขายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ ตามล่า ‘กองทัพมด’ ขนเข้ากรุง
15.00 น. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมกำลัง ร่วมแถลงผลปฏิบัติการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าและอาชญากรรมออนไลน์ โดยตำรวจไซเบอร์ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่อเนื่อง โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่ระบาดหนักในกลุ่มเยาวชน ได้ใช้ปฏิบัติการ “ล่อซื้อ” ทางออนไลน์ จับกุม ผู้ต้องหาชาย อายุ 55 ปี พร้อมของกลางจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลงทุนออนไลน์ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 ราย พร้อมย้ำเตือนประชาชนระวังการหลอกลวงทางออนไลน์ โดยเฉพาะการทำธุรกรรมทางการเงิน
โดยเจ้าหน้าที่ร่วมกันปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะการขายออนไลน์ในลักษณะ “กองทัพมด” ที่มีการขนเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ จึงต้องใช้วิธีล่อซื้อจับกุม จากการปฏิบัติการ 15 วัน ปิดเพจขายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ได้ 2,198 เพจ จับกุมผู้ต้องหา 1,160 ราย ยึดของกลาง 577,053 ชิ้น มูลค่ากว่า 118 ล้านบาท และเตรียมทำลายของกลางตามนโยบายรัฐบาล
>> เพลิงไหม้ โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ ย่านไทรน้อย จ.นนทบุรี วอดทั้งโกดัง
15.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรน้อย รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ เลขที่ 88/9 ม.6 ภายในซอยวัดเสนีย์วงศ์ ถนนไทรน้อย-ต้นเชือก ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิง อบต.หนองเพรางาย อบต.บ้านใหม่ อบต.ทวีวัฒนา และอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย
ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นโกดังโรงงานปลูกติดกัน 3 โกดัง ต้นเพลิงเกิดขึ้นโกดังกลางซึ่งเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัดรายหนึ่ง ผลิตเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ เพลิงโหมลุกใหม่ด้านในอย่างรุนแรง ทำให้โครงหลังคาทรุดตัวถล่มลงมา เจ้าที่หน้าที่ดับเพลิงต้องเร่งใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังโกดังใกล้เคียง โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ หลังเพลิงสงบพบว่าวัสดุอุปกรณ์เครื่องจักรภายในโรงงานเสียหายทั้งหมด
สอบถามเจ้าของโรงงาน ให้ข้อมูลเพียงว่า ช่วงเกิดเหตุไม่มีคนงานหรือผู้อยู่อาศัยภายในโรงงาน ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ส่วนวัสดุที่เสียหายเป็นไม้ที่ใช้สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องจักร รวมถึงรถโฟล์คลิฟท์เสียหายทั้งหมด ต้องให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง
>> หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง ดวลปืน แก๊งค้ายาชาวลาว ตรวจยึดยาบ้า 6 ล้านเม็ด
>> 16.20 น. ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด ได้เดินทางมาร่วมแถลงข่าวและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ในการปะทะกับผู้ค้ายาเสพติด พร้อมยึดยาบ้าจำนวน 6 ล้านเม็ด และสารตั้งต้น 1,061 กิโลกรัม โดยมีเจ้าหน้าที่กองกำลังผาเมือง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว
โดยการปะทะกับผู้ค้ายาเสพติด หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ได้ปฏิบัติการสกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติด บริเวณบ้านปงของ ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนพบเรือกาบต้องสงสัยลำเลียงสิ่งของขึ้นฝั่ง จึงเข้าตรวจสอบ แต่กลุ่มผู้ต้องสงสัยประมาณ 5-6 คน เปิดฉากยิงใส่ ทำให้เกิดการปะทะนานกว่า 10 นาที
ภายหลังการปะทะ เจ้าหน้าที่ปลอดภัยและสามารถตรวจยึดยาบ้า 6 ล้านเม็ด บรรจุในกระสอบ 20 ใบ พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย เป็นชายชาวลาว อายุ 25 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ นำตัวสอบสวนขยายผลต่อไป
>> เจ้าหน้าที่ ขสป. แม่ยวมฝั่งขวา ระดมกำลังดับไฟป่าสำเร็จ 2 พื้นที่ พบเสียหายประมาณ 35 ไร่
17.00 น. นายกฤษฎา อุตมา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ยวมฝั่งขวา รายงานว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ยวมฝั่งขวา(ขสป. แม่ยวมฝั่งขวา) กลุ่มป่าที่ 4 กลุ่มป่าสาละวิน รายงานจุด Hotspot จากข้อมูลดาวเทียม ประจำวันที่ 15 มี.ค.68 พบจุด Hotspot รอบเวลา 02.19 น. จำนวน 3 จุด
สำหรับพื้นที่แรก จำนวน 1 จุด พื้นที่บ้านวังคัน ม.5 ต.แม่ลาน้อย อ.เเม่ลาน้อย จ.เเม่ฮ่องสอน ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจเขตฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จุดเฝ้าระวังไฟป่าบ้านวังคัน ทั้งหมดจำนวน 10 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้งจุดความร้อน (Hotspot) เนื่องจากไฟได้ลามเป็นวงกว้าง ภูเขาสูงชัน ยากต่อการเข้าถึง จึงดับไฟได้บางส่วนและร่วมกันทำแนวกันไฟไว้เพื่อไม่ให้ไฟได้ลุกลาม เข้าเริ่มดับไฟเวลา 09.30 น.ดับไฟเสร็จเวลา 16.30 น. พบพื้นที่เสียหาย 20 ไร่ สาเหตุเกิดจากการหาของป่า
ส่วนพื้นที่ที่ 2 พื้นที่บ้านแม่แลบ ม.8 ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.เเม่ฮ่องสอน พบจุดความร้อน จำนวน 2 จุด เจ้าหน้าที่จุดสกัดแม่แลบร่วมกับเจ้าหน้าที่จุดเฝ้าระวังไฟป่าบ้านแม่ลางิ้ว ทั้งหมดจำนวน 15 นาย เข้าดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้งจุดความร้อน (Hotspot) เนื่องจากไฟได้ลามเป็นวงกว้าง ภูเขาสูงชัน ยากต่อการเข้าถึง จึงดับได้บางส่วนและร่วมกันทำแนวกันไฟไว้เพื่อไม่ให้ไฟได้ลุกลาม เข้าเริ่มดับไฟเวลา 09.00 น. ดับไฟเสร็จเวลา 15.30 น. พบพื้นที่เสียหาย 15 ไร่ ส่วนสาเหตุหาของป่า ทั้งนี้ รวมพื้นที่เสียหายจากไฟป่า 2 พื้นที่ จำนวน 3 จุด ประมาณ 35 ไร่
>> เตือนผู้ปกครองช่วงปิดเทอม เฝ้าระวังเด็กจมน้ำ แนะดูแลเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด ย้ำปิดเทอม 2568 เล่นน้ำให้สนุกและปลอดภัย เผยจากข้อมูล ปี 67 พบเด็กจมน้ำช่วงปิดเทอม เสียชีวิตถึง 173 คน
18.50 น. นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายโรงเรียนกำลังเข้าสู่ช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งทำให้เด็กมีเวลาว่างมากขึ้น ประกอบกับอากาศที่ร้อน ทำให้เด็กออกไปเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติโดยไม่มีผู้ดูแล อาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ เช่น การลื่นตกน้ำ การจมน้ำ หรือเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ จากข้อมูลกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปี 2567 มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิต 173 ราย
สำหรับข้อมูลการเสียชีวิตจากกรณีเด็กจมน้ำ พบว่าเป็นกลุ่มอายุ 10 - 14 ปี เสียชีวิตมากที่สุด ร้อยละ 39.3 รองลงมา คือ อายุ 5 - 9 ปี ร้อยละ 32.4 และอายุ 0 - 4 ปี ร้อยละ 28.3 โดย "เพศชาย" จมน้ำสูงกว่า "เพศหญิง" ถึง 2.8 เท่าตัว โดยจังหวัดที่มีการเสียชีวิตสูงที่สุด คือ นครราชสีมา 13 คน ปัตตานี 9 คน ศรีสะเกษ และอุดรธานี จังหวัดละ 8 คน และจากข้อมูลระบบรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการตกน้ำ จมน้ำ ของกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค ช่วงเดือน มีนาคม - พฤษภาคม ปี 2567 พบว่า แหล่งน้ำที่พบเด็กจมน้ำมากที่สุด ได้แก่ แหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เช่น บ่อขุด สระน้ำ คลอง แม่น้ำ ร้อยละ 72.3 เขื่อน อ่างเก็บน้ำ ฝาย ร้อยละ 10.9 และสระว่ายน้ำ สวนน้ำ ร้อยละ 5.8 ทั้งนี้ สาเหตุเกิดจากการไปเล่นน้ำมากที่สุด ร้อยละ 72.3 รองลงมาคือ พลัดตกลื่น ร้อยละ 14.9 “รัฐบาลห่วงใยต่อปัญหาการจมน้ำเสียชีวิตของเด็กไทย ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยกันเฝ้าระวังและป้องกันอุบัติเหตุจากการจมน้ำ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ใช้ช่วงเวลาปิดเทอมอย่างปลอดภัยที่สุด แนะนำผู้ปกครองควรดูแลเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด