หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบหนุ่มใหญ่ ใช้รถสวมทะเบียน เจ้าของตัวจริง ดีใจเร่งมารับรถคืน

วันที่ 16 มีนาคม. 2568 เวลา 19:29 น.


16 มี.ค. 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาชายไทย 1 ราย อายุ 58 ปี ในความผิดฐาน “ใช้เอกสารราชการปลอม” พร้อมตรวจยึดของกลาง เป็นรถส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน สีดำ ติดแผ่นป้าย กรุงเทพมหานคร , ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่น และป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปี 1 แผ่น โดยจับกุมได้บริเวณทางหลลวงหมายเลข 3 หลักกม.185-186 ในพื้นที่ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจากในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติหน้าที่บนทางหลวงหมายเลข 3 ระหว่าง กม.185-186 (มุ่งหน้าสัตหีบ) ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้มีรถนั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน นั่งสามตอน สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ขับผ่านมาในช่องทางเดินรถด้านขวาสุดแล้วได้เปลี่ยนช่องทางเดินรถ แบบกระทันหัน เกรงว่าจะเกิดอันตราย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดรถตรวจ

เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวได้หยุดแล้ว พบผู้ขับขี่เป็นชาย จึงขอตรวจสอบรถใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล ผู้ขับขี่สามารถแสดงได้ เป็นใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สอบถามถึงการขับรถเปลี่ยนช่องแบบกระทันหัน ผู้ขับขี่ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าตนจะเลี้ยวรถเข้าโรงพยาบาล จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สอบถามซึ่งเป็นหมายเลขทะเบียนและแผ่นป้ายชำระภาษีที่ติดมากับตัวรถเพื่อนำมาตรวจสอบ โดยไม่ปรากฏข้อมูลทะเบียนรถ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เช็คหมายเลขตัวถัง และเลขเครื่อง จดทะเบียนเป็นหมายเลขทะเบียน ระยอง วันสิ้นสุดอายุภาษี 9 สิงหาคม 2564 สถานะรถปรากฏ ระงับใช้รถ เจ้าหน้าที่จึงได้ถอดแผ่นป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร มาตรวจสอบ พบว่าไม่มีปั๊มสัญลักษณ์ “ขส” บริเวณตัวอักษรด้านหลังแผ่นป้ายทะเบียน

จากนั้นจึงได้ขอตรวจสอบแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปีที่ติดอยู่บริเวณกระจกหน้ารถด้านซ้าย พบว่า หมายเลขทะเบียนไม่ตรงกับข้อมูลที่ตรวจสอบจากเลขตัวถังของรถ จึงสันนิษฐานได้ว่า แผ่นป้ายทะเบียนและแผ่นป้ายชำระภาษีประจำปี ที่ติดมากับตัวรถ เป็นเอกสารราชการปลอม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ใช้เอกสารทางราชการปลอม”

สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับว่าได้รถของกลางมาจากนายนิว (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ซึ่งนายนิวได้รับจำนำรถของกลาง มาจากตลาดมืด และนำรถของกลางมาฝากไว้กับผู้ต้องหา โดยติดต่อกันผ่านทาง Facebook และอนุญาตให้ผู้ต้องหาใช้รถได้ กระทั่งผู้ต้องหาถูกจับกุมในครั้งนี้

ในส่วนของ ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของรถ ได้เดินทางมาให้ถ้อยคำว่า ก่อนหน้าประมาณ 7 ปี ผู้เสียหายได้ซื้อรถจากเต็นท์รถมือสองและได้มอบให้น้องชายไว้ใช้เป็นการส่วนตัว ต่อมาภรรยาของน้องชายได้แอบนำรถไปใช้ และสูญหายไปโดยผู้เสียหายไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ ซึ่งภายหลังเมื่อทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถของผู้เสียหาย ก็รู้สึกดีใจมาก โดยขอชื่นชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่มีปฏิภาณไหวพริบและความละเอียดรอบคอบ 

 

ข่าวยอดนิยม