วันที่ 21 มีนาคม. 2568 เวลา 02:10 น.
ตำรวจสืบฯ ภูธรภาค 2 จับขบวนการ ตระเวนเปิดบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
(20 มี.ค.68) กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ได้สืบทราบขบวนการจัดหาบัญชีม้าผ่านโซเชียลมีเดีย จึงได้ให้สายลับติดต่อรับจ้างเปิดบัญชี โดยจะได้รับค่าตอบแทนบัญชีละ 4,000 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 เมื่อสายลับตอบตกลง ได้มีหนึ่งในขบวนการโทรศัพท์ติดต่อสายลับและขับรถมารับที่ย่าน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามที่นัดหมาย โดยผู้ขับรถได้รับหญิงบัญชีม้าอีกคนหนึ่งคนมาด้วย แล้วพาตระเวนเปิดบัญชีม้าตามธนาคารต่าง ๆ คนละ 4 บัญชี จากนั้นได้พากันเดินทางไปยัง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อส่งบัญชีม้าให้กับคนท้องถิ่นพาข้ามแดนไปยังเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อสแกนหน้าให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามรถคันนี้มาตลอด จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. รถได้จอดที่บริเวณศูนย์การค้าอินโดจีน เพื่อรอคนท้องถิ่นมารับพาข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวตรวจสอบและจับกุม พบ นายดอ (นามสมมุติ) เป็นผู้ขับรถ พบสายลับและบัญชีม้าชื่อ น.ส.พอ (นามสมมุติ) รวมบัญชีม้า 2 คน อยู่ในรถ พบในตัว น.ส.พอ มีบัญชีธนาคารออมสิน 2 เล่ม, กรุงไทยและกสิกรไทย รวม 4 เล่ม เปิดบัญชีเมื่อ 19 มีนาคม 2568 เพื่อนำไปใช้ในขบวนการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์
สอบถามให้การยอมรับว่า รับจ้างเปิดบัญชีเหล่านี้ให้ผู้อื่นโดยได้รับค่าตอบแทน โดย นายดอ เป็นผู้นำพาไปเปิดและจ่ายเงินค่าเปิดบัญชีให้ จึงจับกุม นายดอ ในข้อหาเป็นธุระจัดหาบัญชีม้า จับกุม น.ส.พอ ในข้อหาเปิดบัญชีม้าให้ผู้อื่น อันเป็นความผิดตาม พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566
เจ้าหน้าที่ขอประชาสัมพันธ์ว่า บัญชีม้าถือเป็นส่วนหนึ่งในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการจัดหาบัญชีม้ามีความผิดข้อหา เป็นธุระจัดหา ฯ มีอัตราโทษสูงถึง 5 ปี ปรับ 500,000 บาท ผู้เปิดบัญชีม้ามีอัตราโทษ 3 ปี ปรับ 300,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาศาลลงโทษจำคุกเกือบทุกราย ขอให้ประชาชนอย่าเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งการจัดหาบัญชีม้า เป็นผู้เปิดบัญชีม้าหรือนำพาบัญชีม้าข้ามแดน นอกจากนั้นหากบัญชีม้ามีเงินจากการฉ้อโกงหลอกลวงโอนเข้าบัญชี จะมีความผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชนอีกส่วนหนึ่งด้วย
เครดิต Superball th