เผาศพสาวเมียนมา เหยื่อตึก สตง.ถล่ม ยังสูญหายอีก 8 คน

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 5 เม.ย.68 ที่วัดบางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ครอบครัวของ นางสาวเซน ชาวเมียนมา ผู้เสียชีวิตรายที่ 9 ทำงานเป็นคนส่งของไซด์ก่อสร้าง ได้รับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดบางม่วง และฌาปนกิจ โดยมีนายจ้างและเพื่อนร่วมงานเกือบ 300 คน มาร่วมในพิธีดังกล่าว ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

นอกจากนี้ที่ศาลา 3 ยังได้ตั้งรูปของ  Mr.Ko Ko อายุ 36 ปี  และ Mr.Than Toe Aung อายุ 32 ปี ซึ่งทำตำแหน่งเซฟตี้ โดยทางญาติและนายจ้างอยู่ระหว่างรอรับร่างจากสถาบันนิติเวชวิทยามาบำเพ็ญกุศล เนื่องจากติดขัดอยู่ระหว่างรอญาติเดินทางมาจากเมียนมาเพื่อมาติดต่อรับศพ โดยทางนายจ้างยังไม่แน่ใจว่าจะเดินทางมาถึงเมื่อไหร่ ส่วนอีก 8 รายยังเป็นผู้สูญหาย อยู่ระหว่างคนหาร่าง ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวเมียนมา ทำงานให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง

บรรยากาศในงานต่างมีเพื่อร่วมงานที่หนีรอดชีวิตออกมาได้ ญาติ และนายจ้างมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทุกคนอยู่ในอาการโศกเศร้า พร้อมกับความหวังว่าอีก 8 รายที่สูญหายจะรอดชีวิต ซึ่งเพื่อนๆได้ร่วมกันนำดอกกุหลาบสีแดงมาวางที่ด้านหน้ารูปของผู้สูญหาย บางคนทนไม่ไหวถึงกับร้องไห้
  
นายอดิศร ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ และที่ปรึกษากลุ่มนายจ้างที่ใช้แรงงานต่างด้าว กล่าวว่า สำหรับปัญหาในการขอรับศพชาวเมียนมา ที่เจอคือคนงานและนายจ้างไม่มีข่อมูลในการติดต่อขอรับศพที่หน้างานไม่มีข้อมูลให้ ไม่รู้ว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง พอเจอศพทางนิติเวชต้องรอเอกสารจากทางสถานทูตอีก ซึ่งตนคิดว่าไม่จำเป็นเพราะศพทั้งหมดฌาปนกิจในประเทศไทยไม่ได้นำออกนอกประเทศ ทำให้ขั้นตอนยิ่งล่าช้าไปอีกและยุ่งยากมากขึ้น

การขอรับเงินชดเชยยิ่งทำให้ล่าช้าไปอีก ตอนนี้ต้องรอวันเปิดทำการ อีกปัญหาคือเรื่องญาติที่มารับศพต้องเป็นญาติสายตรงเท่านั้นเพื่อตรวจดีเอ็นเอ บางกลุ่มที่มีญาติในประเทศไทยก็ง่าย ถ้าญาติอยู่ต่างประเทศทำให้ลำบาก บางเคสที่เจอสามี-ภรรยา แต่ไม่ได้จดทะเบียนทำให้ไม่สามารถรับศพได้ ขบวนการยุ่งยากมากขึ้น ตอนนี้ที่ทางตนทำคือพยายามประสานงานกับทางกรุงเทพมหานครให้ทำการบริการข้อมูลที่หน้างาน โดยเชิญสถานทูตให้ส่งเจ้าหน้าที่มาเพื่อให้ทำการส่งข้อมูลเอกสารที่เดียว และอยากให้ทำเอกสารในการชี้แจงขั้นตอนเตรียมเอกสารทั้งหมด ทางเครือข่ายเรามีล่ามที่จะเข้าไปช่วยเหลือทุกขั้นตอน

สำหรับที่ไซต์งานนี้มีคนงานที่เข้าไปทำงานทั้งหมด 72 คน เสียชีวิต 3 คน สูญหายอีก 8 คน ยังหาไม่พบ อีกเรื่องที่กังวลใจคือผู้ที่เป็นบุคคลที่ไม่สามารถระบุผู้สูญหายได้ จึงทำให้ไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบสัญชาติจำนวนมาก ตนก็อยากให้ทางศูนย์ที่รับเรื่องเมื่อมีญาติมาแจ้งก็ให้รับเรื่องไว้ก่อนแล้วค่อยมาตรวจเพื่อหาอัตลักษณ์ภายหลัง และเรื่องจุดแจ้งกับจุดตรวจดีเอ็นเอก็อยากให้อยู่ใกล้กัน เพื่อสะดวกในการใช้ล่ามในการทำงานเพื่อไม่ให้ล่าช้า ทำให้ญาติต้องมานั่งรอแล้วต้องเดินทางไปมาหลายครั้ง มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

เครดิต พิรฎา