เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 เวลา 15.00 น.  องค์การเภสัชกรรม โดยนางสุนิสา พรหมประสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองสื่อสารองค์กร นายวิชาญ ปล้องไหม ผู้อำนวยการกองพัฒนาองค์กรเพื่อความยั่งยืน และคณะ นำทีมลงพื้นที่มอบยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น ให้กับภญ.กนกพร ชนะค้า เภสัชกรเชี่ยวชาญ(ด้านเภสัชสาธารณสุข) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ 

จากนั้นเวลา 16.00 น. ได้ลงพื้นที่สร้างขวัญและกำลังใจพร้อมมอบยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นรวมถึงเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ผ้าห่ม ผ้าอนามัย กระดาษ ทิชชู ขนม ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ผ้าอ้อมเด็ก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรรมการองค์การเภสัชกรรม ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานองค์การเภสัชกรรมและครอบครัว ณ ศูนย์ช่วยเหลือผู้อพยพจังหวัดบุรีรัมย์

จากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งในด้านชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านเรือนของประชาชน สถานีบริการน้ำมัน และโรงพยาบาลหลายแห่งในพื้นที่ใกล้แนวชายแดน 

อีกทั้งประชาชนจำนวนมากในพื้นที่เสี่ยงภัยจำเป็นต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยอย่างเร่งด่วน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ทางภาครัฐได้จัดเตรียมไว้ในพื้นที่ปลอดภัย เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภค การคมนาคมขนส่ง และการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู ช่วยเหลือ เยียวยา และสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทุกภาคส่วน    องค์การเภสัชกรรมจึงได้สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์เพื่อนำไปช่วยเหลือให้กับประชาชนที่ประสบภัย

โดยได้ดำเนินการจัดส่งไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบผ่านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) ได้แก่สสจ.บุรีรัมย์ ศูนย์ช่วยเหลือผู้อพยพจังหวัดบุรีรัมย์ สสจ.ศรีสะเกษ สสจ.สุรินทร์ และ สสจ.อุบลราชธานี รวมกว่า 40 รายการ อาทิ ยาชุดประจำบ้าน, ยารักษากลุ่มโรคเรื้อรัง (NCD), ยาช่วยชีวิต, ยารักษาโรคอื่นๆที่จำเป็น  เช่น แก้ปวดลดไข้ โรคกระเพาะ ทางเดินหายใจ  รักษาแผล  รวมถึงเวชภัณฑ์และกลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรอื่นๆ เป็นต้น รวมมูลค่า 5 แสนบาท

การให้ความช่วยเหลือดังกล่าวถือเป็นภารกิจที่สำคัญขององค์การเภสัชกรรมในการจัดส่งยา   และเวชภัณฑ์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนให้ได้รับการบรรเทา มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงขอส่งความห่วงใยในสวัสดิภาพ ความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่ อีกทั้งขอเป็นกำลังใจให้กับประชาชน ทหารหาญ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ปลอดภัยจากการปฏิบัติหน้าที่ และขอให้สถานการณ์กลับเข้า สู่สภาวะปกติโดยเร็ว